14 สิงหาคม 2669: วันโลกาวินาศ?
คนโบราณเชื่อว่าทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ สงครามจะเกิด ภูเขาไฟจะระเบิด และโรคร้ายจะระบาดฯลฯ ปราชญ์ Aristotle ได้เคยกล่าวไว้ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ที่ได้ท่วมทำ ลายมหานครHelice และ Bura ของกรีกโบราณนั้นเกิดขึ้นเมื่อดาวหาปรากฏ คัมภีร์ไบเบิลก็ได้บันทึกว่า ก่อนที่นครSodom และ Gomorah จะถูกพระเจ้าทำ ลาย ผู้คนในเมืองได้เห็นดาวหางปรากฏบนฟ้าเช่นกัน และเมื่อดาวหางโผล่ในปีที่จักรพรรดิ Attila Valerian และ Caesar เสด็สวรรคต ชาวบ้านก็ยิ่งปักใจเชื่อว่า ดาวหางกับการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์เป็นของคู่กัน
ส่วนในประเทศญี่ปุ่น องค์จักรพรรดิจะทรงมีพระราชบัญชาให้นักบวชประจำ ราชสำ นักทำ พิธีบวงสรวงขอความปรานีจากพระผู้เป็นเจ้าเวลาดาวหางโผล่? และทรงหามประชาชนมิให้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจนกว่าดาวหางจะลับหายไปจักรพรรดิญี่ปุ่น พระองค์หนึ่งได้ทรงหวาดกลัว ดาวหางมาก ถึงกับทรงสละราชบัลลังก์ เมื่อมีดาวหางปรากฏในรัชสมัยของพระองค์
เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าขึ้นผู้ค้นก็ชักจะเริ่มสงสัยในความเชื่อที่ว่า ดาวหางเป็นดาอัปมงคล จักรพรรดิ Napoleon ผู้ทรงประสูติในปีที่ดาวหางปรากฏ ได้ทรงประกาศว่า ดาวหางคือสัญญาณจากพระเจ้าที่ทรงกำหนดมาให้พระองค์ได้เป็นกษัตริย์ปกครองประเทศรัสเซีย (พระองค์ไม่ได้เป็น)
ถึงแม้ว่าคนส่วนมากจะรู้สึกผวากลัวเมื่อเห็นดาวหาง แต่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกยินดีเป็นที่ยิ่งเมื่อเห็นดาวหาง เขาเหล่านั้นคือบุคคลที่เห็นดาวหางเป็นคนแรก ประเพณีกำหนดไว้ว่า ใครที่เห็นดาวหางดวงที่ยังไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ชื่อของเขาจะเป็นชื่อของดาวหางดวงนั้นทันที ดาวหางจึงมีชื่อต่างๆ นานา เช่นAlcock , Asaki, Kohoutek และ Austin เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2371 นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ W. Olbers ได้คำนวณว่าดาวหาง Biela จะโคจรผ่านโลกในระยะใกล้มาก ฝุ่นละอองจากดาวจะทำ ให้อากาศบนโลกเป็นพิษ คนทั่วไปเมื่อได้ยิน ได้ฟัง
คำ พยากรณ์นี้ได้รู้สึกตื่นกลัวว่า ดาวหาง Biela จะชนโลก แต่เมื่อ D. Arago นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้คำ นวณทางโคจรของ Biela ใหม่ และพบว่าระยะใกล้ที่ว่านั้นคือ 80 ล้านกิโลเมตร ผู้คนที่เคยใจหายก็เริ่มหายใจเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2405 นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันสองท่านคือ L. Swift และ H.Tuttle ได้เห็นดาวหางดวงใหม่ และขณะนี้ดาวหาง Swift-Tuttle กำ ลังจะผ่านใกล้โลกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่
15 ตุลาคม พ.ศ. 2541 B. Marsden แห่ง Haward-Smithsonian Center for Astrophysics ได้พยากรณ์ว่า Swift-Tuttle ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กิโลเมตร อาจจะชนโลก ในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2669 ซึ่งเป็นเวลาที่ Swift-Tuttle จะโคจรกลับมาใกล้โลกอีกครั้ง และโอกาสการตูมกันกลางอวกาศเท่ากับ 0.01%หาก Swift-Tuttle ชนโลกจริงๆ แรงปะทะจะทำ ให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงเท่ากับการระเบิดพร้อมๆ กันของการระเบิดปรมาณู 1 ล้านลูก ฝุ่นละออง และควันจะฟุ้งกระจายบดบังแสงอาทิตย์จากเบื้องบนนานเป็นปี พืชและสัตว์จะพากันล้มตาย และสูญพันธุ์ไปถึงไม่หมดก็เกือบหมด
Marsden ได้เรียกร้องให้นักดาราศาสตร์ทั่วโลก จับตาดูดาวหางดวงนี้แบบตาอย่ากระพริบ เพื่อตรวจดูตำ แหน่งและทิศทางการโคจรของมัน หากคำพยากรณ์ของเขาถูก เราก็จะต้องยิงจรวดนำ ปรมาณูไปถล่มทลายดาวหางดวงนี้ ก่อนที่มันจะถล่มเรา