เปิดใจคุณแม่ "บัณฑิตออทิสติก-อัจฉริยะด้านดนตรี" ความสำเร็จในการก้าวข้ามขวากหนาม

คำที่ว่าสมบัติล้ำค่าที่สุดที่พ่อแม่ให้แก่ลูกได้ ก็คือ "ความรู้" ช่างจริงแท้แน่นอน


เช่นเดียวกับในช่วงนี้ ที่เป็นช่วงเวลาแห่งการแสดงความยินดีกับเหล่าบัณฑิตทั้งหลาย แต่คนที่ยินดีมากกว่าใครทั้งมวลกับความสำเร็จของลูก นั่นก็คือคุณพ่อคุณแม่


ขอเข้าเรื่องให้ตรงกับช่วงเทศกาลวันแม่ในปีนี้ มีคุณแม่คนหนึ่งที่น่ายกย่องมาก เธอสามารถฝ่าแรงกดดัน ฝ่าความเหนื่อย ท้อแท้ และคราบน้ำตา ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูก จนกระทั่งสัมฤทธิ์ผล บุตรชายคนโตของเธอเรียนจบมาเป็นบัณฑิตใหม่... คำถามว่าพิเศษอย่างไร ในเมื่อใครก็มีลูกเรียนจนปริญญาตรีกันได้ทั้งนั้น ความพิเศษอยู่ตรงที่ว่าลูกชายของคุณแม่คนนี้เป็น "บัณฑิตออทิสติก" !!

 

 

 


"คุณแม่วันทนา โกศลประภา" ได้แบ่งปันประสบการณ์ในการเลี้ยง "เค-ธนรพ โกศลประภา" บัณฑิตรั้วคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บัณฑิตออทิสติก ลูกชายคนโตของครอบครัว จนประสบความสำเร็จ ว่า มาทราบว่าลูกชายของเรามีอาการผิดปกติก็ตอนที่เค้าอายุสองขวบแล้ว คือสังเกตว่าลูกชอบอยู่คนเดียว เล่นคนเดียว ไม่มองหน้าใคร ตอนนั้นเราก็เริ่มใจหายแล้ว ว่าเอ..ลูกชั้นเป็นอะไรรึเปล่า จนกระทั่งพาไปหาคุณหมอ คุณหมอก็แจ้งทันทีว่าลูกเราเป็นออทิสติก


"ตกใจมากทำอะไรไม่ถูกเลย พอยิ่งไปเห็นเด็กคนอื่นๆ ที่ศูนย์ ไปเห็นสภาพเด็กที่เป็นออทิสติก ช็อค ถึงขั้นช็อคว่าลูกเราจะต้องกลายเป็นแบบนี้เหรอ แต่พอตั้งสติได้ก็เดินหน้าลุยเต็มที่ หาหมอทั่วประเทศเพื่อจะดูแลลูก กระทั่งมาที่โรงพยาบาลยุวประสาท ที่สำโรง"


ทราบมาว่า "เค" มีพรสวรรค์ด้านดนตรีอย่างมาก "แม่วันทนา" กล่าวว่า คือเด็กกลุ่มนี้  จะมีความสามารถพิเศษ เราต้องหาให้ได้ว่าเค้าโดดเด่นด้านอะไร อย่างเคมีความอัจฉริยะด้านดนตรี คือสามารถฟังเสียงแล้วสามารถบอกได้ว่านี่คือโน้ตอะไร อย่างที่เรียกว่า "Perfect Pitch"

 

 

 


"ในตอนเด็กๆ เราสังเกตว่าพอเค้าฟังเพลงอะไร หรือเสียงในทีวีสั้นๆ เค้าสามารถเคาะตามจังหวะได้ทันที จึงเดินหน้าผลักดันด้านนี้ให้กับลูกเลย โดยเริ่มแรกก็ให้เรียนคีย์บอร์ดก่อนง่ายๆ แล้วถึงมาให้เรียนเปียโน แล้วก็ให้น้องสาวเรียนด้วยกันจะได้มีเพื่อน ซึ่งเค้าสามารถเรียนได้ และทำได้ดีมากด้วย จนตอนนี้เค สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายตัวแล้ว"


แต่เค ก็มีงอแงให้คุณแม่อ่อนใจบ้าง "แรกๆ เค้าก็ตื่นเต้นกัน ใส่ใจกับการเล่นเปียโน แต่พอนานๆ ก็เริ่มเบื่อ พอเวลาที่ครูมาสอน พี่้องก็เริ่มเกี่ยงกัน อย่างเคก็ถึงขั้นไปซ่อนตัวในห้องน้ำเลย ไม่ยอมออกมา"


ส่วนปัญหาเรื่องการเรียนก็นับว่าหินมากสำหรับการที่เราจะสอบให้เด็กออทิสติกเข้าใจในบทเรียนได้ "แม่วันทนา" เล่าว่า มีปัญหามากในช่วงเล็กๆ คือเราจะสอนเค้ายังไงให้เข้าใจบทเรียน เทคนิกที่ได้มาคือต้องทำให้เค้าเห็น จับต้องได้เป็นรูปธรรม ถึงจะทำให้เข้าใจ เพราะความเข้าใจของเค้าจะไม่เท่ากับเด็กปกติ


"ครั้งหนึ่งเค้าเรียนเรื่องโลหะถ่ายเทความร้อนได้ดี เราก็นั่งคิดเอ..จะทำยังไงให้ลูกเข้าใจ ก็เลยเอาไม้บรรทัดเหล็กไปอิงไฟ แล้วก็มาจี้ที่แขนเค้า ปรากฏว่ามันร้อนมาก ร้อนเกินไป จนเค้าสะดุ้งร้องเสียงดัง ว่าคุณแม่ผมเจ็บๆ เราก็ตกใจ อุ้ย! สงสัยทำเกินไป"

 

 

 


เมื่อถามว่าคิดว่าเราเลี้ยงลูกได้ประสบความสำเร็จหรือยัง คิดว่ายังไม่ งานของแม่ยังไม่จบ ก็ทำทีละเปราะๆ ไป คือตั้งเป้าหมายแค่ว่าเรียนจบ พอเรียนจบแล้วก็ให้ลูกมีงานทำ แบบนี้ ไม่คิดว่าประสบความสำเร็จหรือเราเก่งมากแล้ว แค่อยากให้เค้าอยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีเรา ถ้าเค้าทำได้แค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้ว


"สิ่งหนึ่งที่ประทับใจในตัวลูก ก็คือเค้ามานวด มาบีบเรา เราก็บอกว่า ถ้าวันหนึ่งเคไม่มีแม่ เคอยู่ได้ไหม เคดูแลตัวเองได้ไหม เค้าก็มาบอกว่าไม่หรอก แม่จะต้องอยู่กับเคตลอดไปนะ แม่เหนื่อย เคจะนวดให้แม่" เราก็ตื้นตันมากแล้ว เพราะสำหรับเด็กออทิสติก ความห่วงใยคนอื่นไม่ค่อยมี แต่เค้ารู้จักที่จะห่วงเรา ทำให้ดีใจมากๆ


สุดท้ายสิ่งที่จะฝากสำหรับผู้ปกครองท่านอื่นๆ ที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ มีวิธีคิดอย่างไรให้ก้าวพ้นอุปสรรค์ไปได้ "แม่วันทนา" กล่าวว่า อย่างแรกเลยคือ ยอมรับความจริง แล้วเผชิญหน้ากับมันอย่างเข้มแข็ง ที่สำคัญคือต้องลดอีโก้ ไม่สร้างกำแพง ตั้งเป้าหมายให้กับลูกทีละก้าว เมื่อไปได้ถึงก้าวหนึ่ง แล้วค่อยตั้งอีกก้าวหนึ่ง ไปทีละขั้น จะให้เราไม่ตั้งความหวังสูงเกินไป และไม่หมดหวังไปเสียเลย

 

 

 


มาถึงพระเอกของเรา "เค-ธนพล โกศลประภา" บัณฑิตหนุ่มอายุ 26 ปี ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวให้เราฟังได้ในประโยคสั้นๆ กระชับ และได้ใจความลึกซึ้งทีเดียว ได้เล่าถึงความรักในเสียงดนตรีของตัวเองว่า ชอบเล่นดนตรีมาก จำได้ว่าเริ่มหัดเล่นตอน 10 ขวบ นอกจากคุณครูแล้วก็ยังมีคุณพ่อเป็นคนสอนด้วย ดีใจที่มีวันนี้ ที่สามารถเรียนจนได้รับปริญญาตรี จากนี้ไปก็อยากหางานทำเป็นเป็นนักดนตรี ไปเล่นที่ไหนก็ได้แล้วแต่เค้าจะให้ไป หรือจะไปเล่นให้ผู้ป่วยตามโรงพยาบาลฟังก็ได้ ยินดีอย่างมาก


เมื่อถามว่าถ้าเพื่อนๆ ที่เป็นเด็กพิเศษอย่าง "เค" อยากจะประสบความสำเร็จอย่างนี้บ้างต้องทำอย่างไร "เค" กล่าวว่า ต้องขยันเรียน ดนตรีหมั่นฝึกซ้อม และการที่เรียนดนตรีก็ยังช่วยให้มีสมาธิที่ดีในการเรียนอีกด้วย


...สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้อย่างมาก กับแม่ลูกคู่นี้คือ ความไม่ท้อแท้ ไม่ท้อถอย ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอีกมากแค่ไหน และก้าวต่อจากนี้ไปอาจจะต้องมีขวากหนามอีก แต่ก็เชื่อมั่นว่าพลังความรักของครอบครัวจะนำพาทุกคนสู่เป้าหมายได้สำเร็จ วันแม่ปีนี้ ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง ...

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...