จากกรณี 3 วัยรุ่นขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ ทะเบียน ฌย 8633 กทม. ปาดหน้ารถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเหลือง ทะเบียน ทศ 3402 กทม. บริเวณหน้าหมู่บ้าน เดอะไพรมารี่ ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ก่อนพากันลงมาลากตัวนายวันชัย เจริญใจ อายุ 53 ปี โชเฟอร์แท็กซี่รุมทำร้ายต้องวิ่งหนีตายไปหลบที่ป้อม รปภ.หน้าหมู่บ้านก่อนล้มลงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา 

ความคืบหน้า เวลา 11.00 น. วันที่ 10 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.โคกคราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.โคกคราม ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายพันธุ์ธัช โพธิ์ไพโรจน์ อายุ 29 ปี อาชีพ ขายอุปกรณ์ตกปลาทางอินเตอร์เน็ต นายสุชีพ ตั้งฐานสัมมา อายุ 25 ปี และนายโยธิน ชีพอาภรณ์ อายุ 22 ปี โดยทั้ง 2คนกำลังจะเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ สามผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายโชเฟอร์แท็กซี่เสียชีวิตเข้ามอบตัวที่สน.โคกคราม

พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายพันธุ์ธัช ได้ขับรถเก๋งหมายเลขทะเบียน ฌย 8633กรุงเทพ พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อที่จะไปตกปลาที่ย่านบางขุนเทียน ระหว่างทาง ได้ถูก นายวันชัย เจริญใจ อายุ 53 ปี(ผู้เสียชีวิต) คนขับรถแท็กซี่สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทศ 3402 กรุงเทพฯ ขับรถแท็กซี่ปาดหน้า เพื่อรับผู้โดยสาร ทำให้รถเสียหลักและไม่พอใจ จึงตะโกนด่าทอและขับรถปาดกัน

กระทั่งรถติดไฟแดงทั้ง3 คน และนายวันชัยลงมาจากรถและมีปากเสียงกัน จากนั้นนายวันชัยถือเหล็กดิ้วลงมาจากรถ นายโยธินจึงเข้าไปแย่งเหล็กโยนทิ้ง และชกต่อยผู้ตายหลายครั้งเมื่อผู้ตายเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงวิ่งหนีไปที่หน้าหมู่บ้านเดอะไพรมารี่ เพื่อขอความช่วยเหลือ และล้มลง เมื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุวิ่งตามไปดูพบว่านอนแน่นิ่งหมดสติ จึงแยกย้ายกันหลบหนี และทราบข่าวจากสื่อจึงได้ติดต่อขอมอบตัว โดยรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ต้องการให้ถึงตาย

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวคือโรคหอบ จึงต้องส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล

นายโยธินให้การว่า วันเกิดเหตุตนเป็นคนชกผู้ตาย เนื่องจากเห็นว่าถือเหล็กดิ้วจะเข้ามาทำร้ายเพื่อน แต่ไม่ได้มีการรุมทำร้ายหรือกระทืบอย่างโหดเหี้ยมตามที่ปรากฏเป็นข่าว เมื่อลงจากรถก็มีปากเสียงกัน ทำให้ตนแย่งเหล็กจากมือผู้ตายโยนทิ้ง จากนั้นผู้ตายวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากรปภ.ของหมู่บ้าน แต่ล้มลงก่อนเมื่อตามไปดูก็พบว่าหมดสติจึงพากันขับรถหนีไป โดยที่ไม่รู้ซ้ำว่าเสียชีวิต