ลบความทรงจำของสิงโตเจ้าป่าที่ดุร้าย มาพบชีวิตสิงโตขี้เล่น

 

"คริสเตียน" ที่ชนะใจผู้ชมทั่วโลกผ่าน YouTube

 

 

สิงโตเป็นสัตว์กินเนื้อ นิสัยดุร้ายถึงแม้จะถูกนำมาเลี้ยง

 

อย่างไรก็ไม่เชื่อง แต่คริสเตียนสิงโตน้อยแห่งเกาะอังกฤษ

 

ได้ทำลายความเชื่อเช่นนั้นได้อย่างสิ้นเชิง

 

 

เรื่อวราวของคริสเตียนเริ่มขึ้นในปี 2512 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อจอห์น

เรนดอล (John Rendall) และ แอนโธนี่ เอซ เบิร์ก (Anthony Ace Bourke) นัก

แสวงโชคหนุ่มจากออสเตรเลียไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าแฮร็อดอันเลื่องชื่อ ห้างนี้

โฆษณาตัวเองว่า " ไม่มีอะไรที่แฮร็อดไม่มี " ห้างนี้ขายทุกอย่างซึ่งรวมถึงสัตว์ป่า

นานาชนิดโดยจัดเป็นโซนพิเศษ ที่ทำได้เพราะในขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายห้าม

 

เรนดอลเล่าว่า "ผมและแอนโธนี่ไปที่ห้างแฮร็อด เพื่อให้เห็นกับตาว่าห้างนี้มีของ

ทุกอย่าง ก่อนหน้านี้เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งไปที่ห้างและแจ้งผู้จัดการโซนสัตว์ป่าว่า

อยากได้อูฐ ผู้จัดการก็ถามแต่เพียงว่า จะเอาแบบโหนกเดียวหรือ 2 โหนก" และ

ที่แผนกนั้น ทั้งสองได้เห็นลูกสิงโต 2 ตัว หน้าตาเศร้าสร้อยถูกขังอยู่ในกรงแคบๆ

ทั้งสองคนสงสารลูกสิงโตมากที่ต้องโดนขังอย่างนั้น พวกเขาใช้เวลาตัดสินใจไม่

นานก็ซื้อลูกสิงโตตัวหนึ่ง พวกเขาตั้งชื้อสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ว่า "คริสเตียน"

 

 

แรนดอลและแอนโธนี่ทำงานในร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้เล็กๆบนถนนคิงส์ที่มีห้องใต้ถุน

กว้างขวาง ตอนแรกเจ้าของร้านจะไม่ยอมให้เลี้ยงคริสตี้ที่ห้องใต้ถุน แต่เมื่อแอนโธ

นี่หว่านล้อมว่า คริสเตียนสามารถเรียกลูกค้าให้เข้าร้านได้เจ้าของจึงยอมเปลี่ยนใจ

คริสเตียนเลี้ยงง่ายแต่ซนมาก ชายหนุ่มทั้งสองรวมถึงแฟนสาว (ในขณะนั้น) ต้อง

มาช่วยกันเลี้ยง คริสเตียนไม่เคยถูกตี เรนดอลและแอนโธนี่ จะใช้น้ำเสียงสื่อความ

หมาย เวลาที่ดุก็จะใช้น้ำเสียงที่ต่างกัน ซึ่งคริสเตียนก็เข้าใจได้ดี

 

 

นอกจากนี้คริสเตียนซึ่งกำลังโตขึ้นก็กินจุมาก มันกินวันละ 4 มื้อไม่รวมอาหารเสริม

คิดแล้วค่าอาหารของมันประมาณอาทิตย์ละ 2,400 บาท ซึ่งนับว่าแพงมากสำหรับ

ในสมัยนั้น คริสเตียนต้องออกกำลังกายด้วย โชคดีที่บาทหลวงในโบสถ์ใกล้ๆร้าน

อนุญาตให้คริสเตียนไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าของโบสถ์ กีฬาที่มันชอบเล่นคือฟุตบอล

ที่เป็นกีฬายอดฮิตของคนอังกฤษนั่นเอง เรนดอลบอกว่าคริสเตียนไม่มีกลิ่นสาบของ

สัตว์ป่าเลยได้

 

 

พวกเขาชอบพาคริสเตียนไปเที่ยวทะเล ซึ่งตอนแรกมันไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเลแต่เมื่อ

หลายๆครั้งมันก็ลงเล่นน้ำทะเลได้อย่างสนุกสนาน แอนโธนี่เล่าว่าคริสเตียนเป็นสิงโต

ที่มีอารมณ์ขัน ขี้เล่น เพราะมันมักจะชอบแกล้งคนที่มาแอบดูมันตามหน้าต่างของร้าน

คนส่วนใหญ่จะคิดว่ามันเป็นตุ๊กตาสิงโต เมื่อมันรู้ว่ามีคนมาจ้องดูมันทางหน้าต่างมัน

จะแกล้งนั่งนิ่งๆเหมือนตุ๊กตาแล้วจะค่อยๆหันไปที่หน้าต่างมันทำสีหน้าพอใจที่เห็น

คนทำท่าตกใจ

 

คริสเตียนกลายเป็นดาราดังของย่านถนนคิงส์อย่างรวดเร็ว คนแห่มาดูมันทุกวันมัน

เองก็สนุกกับการเล่นฟุตบอล วิ่งไปวิ่งมาทำตัวเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ แต่เมื่อเวลา

ผ่านไป คริสเตียนตัวโตขึ้นอย่างรวดเร็วมันเริ่มกลายเป็นสิงโตจริงๆแล้วทั้งเรนดอล

และแอนโธนี่ต่างรู้ดีว่าเวลาที่จะอยู่ด้วยกันน้อยลงทุกที สิ่งที่พวกเขากังวลไม่ใช่ว่า

คริสเตียนจะไปทำร้ายใคร แต่เพราะขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นมากกว่า

 

ช่วงนั้นเองที่ บิลล์ เทรเวอร์ และ เวอร์จิเนีย แม็คเคนยา ดาราดังสองคนของภาพ

ยนตร์เรื่อง Born Free ที่เกี่ยวกับการปลดปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ ได้มาที่ร้าน

เพื่อซื้อโต๊ะไม้ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากชีวิตจริงของจอร์จและจอย อดัมสัน ซึ่ง

ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ในเคนยา ดาราทั้งสองแนะให้เรนดอลติดต่อกับ

อดัมสัน เพื่อนำคริสเตียนซึ่งเกิดและโตในลอนดอนปล่อยกลับสู่ถิ่นเดิมในแอฟริกา

เมื่อติดต่อไปจอร์จกล่าวว่า เขายินดีที่จะช่วยและรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเจอ

สิงโตที่เกิดและโตในเมืองเลย

 

 

ตอนออกจากลอนดอนมีคนมาส่งคริสเตียนมากมายมันดูเหมือนจะรู้แต่เพียงว่ากำลัง

จะได้ไปเที่ยวพร้อมกับเรนดอลและแอนโธนี่เมื่อถึงเคนยามันก็ถูกนำไปพักที่สถาบัน

สัตว์ป่าของจอร์จก่อน ในการปล่อยคริสเตียนจอร์จใช้สิงโตอีกตัวที่เลี้ยงจนเชื่องเป็น

ตัวนำคริสเตียนไป ระหว่างทางเรนดอลบอกกับจอร์จว่า "คริสเตียนอยากเข้าห้องน้ำ"

แต่จอร์จบอกกับเรนดอลว่าถ้าปล่อยมันออกจากกรงมันจะหนีไปอย่างแน่นอนเรนดอล

รับประกันว่า มันจะกลับมา เมื่อคริสเตียน "เข้าห้องน้ำ" กลางป่าเรียบร้อยแล้วมันก็เดิน

กลับเข้ากรงอย่างว่าง่ายเมื่อเรนดอลสั่ง เมื่อเวลาจากกันมาถึงทั้งสองคนก็โบกมือลา

คริสเตียนตอนแรกมันก็ลังเลเดินกลับไปกลับมาหาคนทั้งสองแต่ในที่สุดก็เดินจากไป 

 

 

หลังจากนั้น 1 ปี เรนดอลและแอนโธนี่ คิดถึงคริสเตียนมากจึงตัดสินใจเดินทางไป

เคนยา จอร์จบอกกับพวกเขาว่าโอกาสน้อยมากที่จะได้พบกับคริสเตียนแต่ทั้งสองก็

ยืนยันที่จะลอง และแล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อทั้งสองคนไปยืนรอที่ที่พวกเขา

ปล่อยคริสเตียนไป ไม่นานคริสเตียนก็ปรากฏตัวขึ้นตอนแรกมันหยุดมองมาที่ทั้งสอง

"เราเรียกเขา และเขาก็ยืนขึ้นเยื้องย่างมาหาเราอย่างช้าๆ และเมื่อเขาจำเราได้เขาวิ่ง

รี่มาหาเรา กระโดดใส่เราจนล้มแล้วเขาก็กอดพวกเราเหมือนที่เขาเคยทำตอนที่เขาอยู่

กับพวกเราด้วยอุ้งมือของเขาบนไหล่พวกเรา" มันคลอเคลียเขาเหมือนเป็นแมวตัวเล็กๆ

ตัวหนึ่งเท่านั้น คริสเตียนยังพาครอบครัวของมัน ซึ่งประกอบด้วยเมียและลูก 2 ตัว

มาพบเขาด้วย

 

การพบกันครั้งนั้นถูกบันทึกเป็นวีดีโอ เมื่อเรนดอลและแอนโธนี่กลับมาที่อังกฤษ ก็

ได้เผยแพร่วีดีโอชิ้นนี้ ไม่นานก็กลายเป็นวีดีโอยอดฮิตติดตลาด หลายต่อหลายคน

ร้องไห้เมื่อได้ดูวีดีโอนี้ ผู้คนส่งวีดีโอต่อๆกันทางอินเตอร์เน็ต ทำให้วีดีโอนี้ถูกนำมา

เผยแพร่ โดยเฉพาะใน YouTube คนดูกว่าล้านคนเข้ามารับทราบเรื่องราวอันประทับ

ใจนี้ ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม

 

 

หลังจากนั้นอีก 1 ปี ทั้งสามก็ได้กลับมาพบกันอีก จอร์จ บอกว่าคริสเตียนหาย

ไป แต่คืนก่อนที่ทั้งสองจะมาถึงเคนยา คริสเตียนก็กลับมาการพบกันครั้งนี้ยาว

นานไปจนถึงรุ่งเช้าและนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้เจอกัน...เรนดอลกล่าว

 

เรนดอลให้สัมภาษณ์ว่า เขาหวังว่าความโด่งดังของคริสเตียนและวีดีโอ

ชุดนี้ จะทำให้คนมาสนใจการอนุรักษ์สัตว์ป่ามากยิ่งขึ้น...

 

ปัจจุบันสองหนุ่มเป็นคุณปู่แล้วแต่ยังคงเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม

 

 

 

ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน

 

****************************************************