จากเหตุฆาตกรรมยกครัว ภายในบ้านพักเลขที่ 14/6 ม.1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง   ศพนายสุรชัย ถนนแก้ว อายุ 38 ปี ถูกฟันที่ข้อมือซ้ายขาดและบริเวณลำคอ นางมาริสา กายแก้ว อายุ 27 ปี ถูกฟันบริเวณใบหน้าและคอ และด.ญ.ธันวา ถนนแก้ว วัย 5 ขวบ ถูกฟันที่ลำคอและศีรษะขาดกระเด็น ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกันนั้น  

วันที่ 9 ส.ค. เมื่อเวลา 12.00 น.  พ.ต.อ.อนุสรณ์  แช่มชื่น   รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง  ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ทวีพร ชูรินทร์  ผบก.ภ.จว.ระนอง ให้ติดตามคดีฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมคดีนี้ ได้รับแจ้งรายงานด่วน จาก พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยอดระบำ ผกก.สภ.สุขสำราญ ว่าผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ถูกจับกุมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ สภ.สุขสำราญ  อ.สุขสำราญ จึงเดินทางเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วน   

เวลา 13.00 น. ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชายวัยรุ่น จำนวน 2 ราย ที่ถูกสอบเครียดในห้องพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ. อนุสรณ์ แช่มชื่น รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง เข้ามาสอบปากคำด้วยตนเอง  คือ นายสุริยา หรือเอ๋ ไชยวรรณ และนาย สัญญา หรือ ชุบ แก้วคำ อายุ 21 ปี  ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และเป็นเพื่อนในหมู่บ้านรู้จักกับ นายอิทธิเบศก์ ถนนแก้ว อายุ 21 ปี บุตรชายคนโตของครอบครัวที่ถูกฆาตกรรมโหด 

พ.ต.อ.อนุสรณ์ งามชื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรระนอง กล่าวว่า จากการเข้าไปตรวจสอบเหตุฆาตกรรม ในที่เกิดเหตุและมีการสืบพยานบุคคลในพื้นที่ ปรากฏว่า บุตรชายของผู้ตาย คือ นายอิทธิเบศก์ ถนนแก้ว อายุ 21 ปี ได้เข้าไปต่อว่า นาย สัญญา หรือ ชุบ แก้วคำ ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุขณะทำการชันสูตรพลิกศพ ว่านายเอ๋ หรือ นายสุริยา ไชยวรรณ ไปอยู่ที่ไหน เพราะมีการสงสัยว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ ก่อนที่จะมีการชกต่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบแยกตัว นายอิทธิเบศก์ ถนนแก้ว บุตรชายผู้เสียชีวิตออกออกมาก่อน หลังจากนั้น ได้ส่ง จนท.ตร.ชุดสืบสวน เข้าไปที่บ้านของ นายสุริยา ไชยวรรณ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร บน ถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่  682 หน้าจุดตรวจทหาร หน่วย ฉก.กรมทหารราบที่ 25  ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้าน ขณะกำลังรอผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาเป็นประจักษ์พยานในการเข้าค้นบ้าน  ภรรยาของนายสุริยามาปรากฏตัว พ.ต.ท.สุนทร ไก่ก้อ  พงส.สภ.สุขสำราญ  จึงมีการเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.สุขสำราญ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 ส.ค.56 จนทราบว่า มีความขัดแย้งระหว่างสามี คือนายสุริยา กับผู้ตายนายสุรชัย และช่วงหัวค่ำประมาณ สองทุ่ม มีการโต้เถียงกันทางโทรศัพท์ โดยหลังก่อเหตุ ไม่สามารถติดต่อนายสุริยาได้   

และจากการลำดับเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.สุขสำราญ มั่นใจว่า นาย สัญญา หรือ ชุบ  แก้วคำ   น่าจะเกี่ยวข้องด้วย และทั้งหมดก็เป็นเพื่อนของนายนายอิทธิเบศก์ ถนนแก้ว บุตรชายของนายสุรชัย ถนนแก้ว ผู้ตาย    จึงได้ติดตามตัว นายสัญญา มาสอบปากคำ จนยอมรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกับ นายสุริยา ซึ่งยังหลบหนีในพื้นที่ ก่อเหตุจริง จึงเข้าติดตามและสามารถจับกุมนายสุริยาไว้ได้ ได้ช่วงสายที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาสารภาพมีความขัดแย้งส่วนตัว และทะเลาะกันมาก่อน   

โดยนายสุรชัย รับสารภาพว่า สาเหตุที่ตนโกรธแค้น ผู้ตายอย่างหนักเพราะ ผู้ตายบุกไปเรียกภรรยาตนที่บ้านในยามวิกาล โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อนายสุริยา กลับมาจากออกเรือหาปลาภรรยามาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตนจึงโมโหหนัก  ก่อนจะชักชวน นายสัญญา ก่อเหตุฆ่ายกครัว โดยตนใช้อาวุธมีดขวาน นายสัญญาใช้มีดสปาร์ต้า บุกเข้าไปพังประตูและฆ่าทุกคนภายในบ้าน    

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. จนท.ตร.สภ.สุขสำราญ พร้อมด้วย ชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ระนอง  ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปทำแผนที่เกิดเหตุ โดยจุดแรกไปที่บ้านของ นายสุริยา ซึ่งได้ชี้ตัวบ้าน ก่อนทั้ง 2 จะเดินขึ้นไปเอาอาวุธมีดขวาน มีดสปาร์ต้า และมีดพร้า ที่บนบ้าน ก่อนจะเดินทางไปก่อเหตุ ในเวลากลางดึก 02.00 น. วันที่ 8 ส.ค.56  ซึ่งในขณะนั้น ชาวบ้านและญาติของผู้ตายประมาณ 50 คน เริ่มทราบข่าวและต่างมารุมล้อม จนท.ตำรวจจึงได้รีบนำผู้ต้องหา ขึ้นรถตู้ขาวของตำรวจ และเดินทางไปทำแผน จุดที่ 2 ทันที  

จุดที่ 2 นายสุริยา และนายสัญญา ได้ชี้จุดปากทางเข้าบ้านนายสุรชัย ติดกับถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่  681  ซึ่งห่างจากบ้านผู้ก่อเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นได้เข้าไปชี้ที่ประตูบ้านนายสุรชัยผู้ตาย โดยนายสุริยาถืออาวุธ ขวาน ก่อนจะใช้ฝ่าเท้าพังประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยผู้ตายนายสุริยาได้ลุกขึ้นมา และใช้มือป้อง ก่อนจะถูกฟันเข้าง่ามมือและฉีกขาดไปถึงข้อมือ ก่อนจะใช้ขวานฟันและสับเข้าที่ลำคอ จนผู้ตายล้มคว่ำ ก่อนจะเข้าไปทำร้าย คนอื่นร่วมกับนายสัญญา 

ส่วนนายสัญญา กล่าวว่า หลังจากบุกพังประตูและเข้าไปภายในตัวบ้าน ก็เกิดการชุลมุน ไม่ทราบว่าใครเป็นใคร ต่างช่วยกันใช้อาวุธทำร้ายทุกคนที่อยู่ภายในห้อง เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าใครเป็นผู้ฟันคอเด็กหญิงธันวาศีรษะขาด ได้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น ระหว่างนายสุริยา กับนายสัญญา จนเจ้าหน้าที่ให้หยุดการโต้เถียงทันที และบันทึกภาพว่าทั้งคู่ ใช้อาวุธร่วมกันก่อเหตุ   

ส่วน ด.ช.อัษฎาวุธ ถนนแก้ว บุตรชาย 10 ขวบ นั้นผู้ต้องหาให้การว่าได้ใช้อาวุธฟันเข้าที่ หน้าผากและหนังศีรษะเปิดเห็นกะโหลก ขณะนอนอยู่บนพื้น จึงนึกว่าเสียชีวิตแล้ว ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า หลังเกิดเหตุคงประคองร่างออกมาขอความช่วยเหลือ ก่อนหมดสติและนั่งฟุบในพงหญ้าชายคลอง โดยที่เท้าจุ่มน้ำ จนมีคนนำส่งโรงพยาบาล

และต่อมาเวลา 15.00 น. หลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนและชี้จุดฆาตกรรมยกครัวภายในบ้าน เจ้าที่นำผู้ต้องหาทั้งสองออกมาขึ้นรถตู้ริมถนนเพชรเกษม เพื่อเดินทางกลับไปยัง สภ.สุขสำราญเพื่อสอบสวน ต่อที่ สภ.สุขสำราญ     ท่ามกลางชาวบ้านที่ต่างตามมาดูหน้าผู้ต้องหา กันเต็มถนนเกือบ 500 คน โดยต่างขึ้นกระบะท้ายรถยนต์ และขับรถ จักรยานยนต์ กันมา จนท.ตำรวจกลัวเกิดการทำร้ายผู้ต้องหา จึงรีบนำตัวกลับ สภ.สุขสำราญ ทันที  

พ.ต.อ.อนุสรณ์ งามชื่น กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุรชัย รู้จักกันดีกับผู้ต้องหาทั้งสองคนติดยาเสพติด ประเภทยาบ้า และเกิดความแค้นส่วนตัว จึงทำให้ผู้ต้องหาขาดสติยั้งคิด และก่อเหตุสะเทือนขวัญนี้ขึ้น ซึ่งสำหรับนายสุริยานั้นเคยต้องคดีฆ่าคนตายและคดีมีอาวุธปืนผิดกฎหมายในครอบครองมาก่อน ความประพฤติไม่ดี เคยใช้มีดไล่ฟันแม่ และปืนไล่ยิงพ่อ ที่เป็นบุพการี ส่วนนายสัญญา ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายสุริยา เคยมีคดีลักทรัพย์มาก่อนเช่นกัน