เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เกิดกระแสการวิพากษ์ วิจารณ์ถึงการแสดงออกทางความคิดเห็นของ  นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล   นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในฐานะตำแหน่งเลขาธิการสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ที่ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ DAILY DOSE ทาง VoiceTV ถึงการเดินหน้าปฎิวัตินักเรียน และระบบการศึกษาใหม่ พร้อมทั้งเสนอแนะให้ไทยยกเลิกความเป็นไทย

“ความเป็นไทย” ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันว่า แท้จริงแล้วนั้น มันสำคัญมากน้อยเพียงใด และมีความจำเป็นหรือไม่กับการที่นักเรียนจะต้องทำการเคารพธงชาติ สวดมนต์กลางแสงแดดที่ร้อนจ้าด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นระเบียบ ที่มีการปฏิบัติสืบทอดกันมา และปลูกฝังความเป็นไทยให้แก่เด็กและเยาวชน แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนที่จบไป ก็ถึงกับอดเซ็งไม่ได้ ที่คิดย้อนไปแล้วต้องมายืนตากแดดเข้าแถวนานเกือบครึ่งชั่วโมง

ความเห็นที่น่าสนใจของนายเนติวิทย์ มีการกล่าวในเฟ๊ซบุ้กว่า ระบบการศึกษาของไทยนั้น เป็นการสอนให้เด็กโง่ลง เพราะไม่เน้นให้เกิดการตั้งคำถามตรวจสอบที่มาที่ไป และผลของอดีตต่อปัจจุบัน จนท้ายที่สุดในตอนนี้ หากถามครูและนักเรียนว่าความเป็นไทยคืออะไร ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนด้วยซ้ำ …

นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายแก่สังคมว่า สังคมไทยกล้าคืนเวลาสิบห้านาทีให้เยาวชนของชาติเพื่อทำอย่างอื่นหรือไม่ ดูแล้วน่าจะเป็นปัญหาสำหรับกลุ่มชาตินิยมพอควร และก็เป็นไปได้ยากหากจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเหตุผลที่โต้แย้งว่า ที่นี่ประเทศไทย เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมายาวนาน แต่ผู้ที่เสนอให้ยกเลิกการเข้าแถวเคารถธงชาติ ก็ต้องอธิบายเหตุผลที่เข้าท่าเป็นข้อๆมาว่า เหตุใดจึงต้องยกเลิกกฎระเบียบแบบนี้ ถ้ายกเลิกจะมีผลดีผลเสียอย่างไร

ทั้งนี้ หลายประเทศมีการยกเลิก การเคารพธงชาติไปแล้ว  เพราะเป็นเครื่องหมายของเผด็จการ เช่นประเทศญี่ปุ่น และประเทศอิตาลี แต่ปฏิกิริยาตอบกลับจากสังคม เมื่อเห็นเด็กรายนี้กระโดดออกจากกรอบ ต่อต้านระบบเดิมๆ ก็ถูกตราหน้าว่าเป็น “เด็กเกรียน” มีความคิดสุดโต่งที่แสนอันตราย แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนเห็นด้วย เพราะตราบใดที่ยังคงมีสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกไม่สร้างความเดือดร้อนเบีดเบียนผู้อื่น ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้

หลายคนกล่าวว่า  เมืองนอกเมืองนาไม่เห็นต้องเข้าแถวยืนร้องเพลงเคารพธงชาติ ประเทศเค้ากลับมีประชากรคุณภาพที่ดีกว่า และคงพนันได้ว่า เมื่อให้เด็กนักเรียนเลือกได้ว่า จะยืนเข้าแถวเคารพธงชาติหรือไม่ก็ได้ สัดส่วนเป็นอย่างไรคงจะรู้ๆกันอยู่

หากจะมองเช่นนี้ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะคุณภาพประชากรแต่ละชาติขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับว่าคนในชาติจะมีวินัยและรู้จักหน้าที่ในตัวเองมากน้อยเพียงใด มีสวัสดิการ สภาพแวดล้อมที่ดี ส่วนเรื่องขนบธรรมเนียม ประเพณีแต่ละประเทศ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดี เพราะนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ตกลงสร้างขึ้นมาเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ในสังคมนั้นๆ แม้กระทั่งชนในเผ่าต่างๆก็ยังมีธรรมเนียม  ประเพณี  วัฒนธรรมของใครของมัน

ความเป็นไทยคืออะไร ก็คือ สิ่งที่คนไทยสร้างขึ้นมา เราอยู่กับสิ่งเหล่านี้มานับร้อยนับพันปี แต่ความเป็นไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตราบใดที่ทุกคนมีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์สงสัยและตั้งคำถาม อีกฝ่ายที่เห็นต่างก็ควรเปิดใจรับฟัง และถกเถียงกันด้วยเหตุผล และหาทางออกที่ดี่สุด

MThai News