นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 13 ส.ค.นี้ ซึ่งจะครบกำหนด 30 วัน หากนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ยังไม่มอบตัวและไม่มายื่นอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าคณะปกครองที่สั่งให้สึก และการขับออกจากสังกัด หากพ้นกำหนดดังกล่าวก็ถือว่าไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้อีก
ด้านนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มอบหลักฐานเพิ่มเติมในคดีอดีตพระเณรคำ ให้กับ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นเศษจีวร ที่ได้รับมาจากคนใกล้ชิดอดีตพระเณรคำ และพระเครื่องรุ่นดอกบัวคู่เนื้อชานหมาก ที่มีเส้นผมเป็นร้อยเส้น ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่เปิดให้ประชาชนเช่าบูชาในราคา 10,000 บาท เพื่อให้ดีเอสไอ นำเข้าสู่การตรวจพิสูจน์หาดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของเด็ก 11 ปี ที่แม่เด็กอ้างว่าเป็นลูกของอดีตพระเณรคำ
ขณะที่นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง สำนักคดีความมั่นคง กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่สอบสวนได้ทั้งหมด มั่นใจว่าเพียงพอที่จะสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องอดีตพระเณรคำ ตามที่ศาลอนุมัติหมายจับไว้ โดยจะลงพื้นที่สอบปากคำพระอีก 5 รูป ที่เดินทางร่วมคณะกับอดีตพระเณรคำ ไปรับกิจนิมนต์ที่ประเทศฝรั่งเศส และเดินทางกลับมาก่อน ซึ่งขณะนี้จำพรรษาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ