วันที่ 7 ส.ค. พ.ต.ท.วสุธร วิวะรินทร์ รอง ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ว่า มีเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตกจากเรือเฟอร์รี่ที่ใช้ขนส่งสินค้าระหว่างชุมพร-เกาะเต่า ห่างจากเกาะมัตตราประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่ง จ.ชุมพรประมาณ 7 กิโลเมตร จึงประสานกับ พ.ต.ท.บุญเลิศ ศรีนวล สารวัตรตำรวจน้ำ (สว.ตร.น.) 1 สถานีตำรวจน้ำชุมพร กก.6 กองบังคับการตำรวจน้ำ นายเกรียง มหาศิริ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ชุมพร เพื่อขอให้ส่งเจ้าหน้าที่นำเรือตรวจการณ์ออกไปให้ความช่วยเหลือ
จากนั้น พ.ต.ท.บุญเลิศ จึงสั่งให้ ร.ต.ต.สุทัศน์ เที่ยวแสวง รอง สว.ตร.น.ชุมพร และ ด.ต.สนธยา เปรมปรี ผบ.หมู่ สร.ส.รน.1 สนธิกำลังกับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ชุมพร นำเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำ 1 ลำ และเรือตรวจการณ์ของศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ชุมพร ออกไปค้นหา จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น.จึงพบนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวว่ายน้ำลอยคออยู่ใกล้หลักหินตะเภาเกลือ เกาะมัตตรา และ เกาะกะโหลก ห่างจากชายฝั่งประมาณ 10 กิโลเมตร จึงช่วยกันนำนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวขึ้นจากน้ำ ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายซาช่า อายุ 47 ปี เป็นชาวเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี แต่เข้ามาทำธุรกิจท่องเที่ยวและที่พักอยู่บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่ง นายซาช่า มีอาการอ่อนเพลียแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัว นายซาช่า กลับเข้าฝั่งทีท่าเทียบเรือของ บริษัท ซีโกลด์ เบิร์ด เนสท์ จำกัด ต.ท่ายาง อ.เมืองชุมพร โดยมีหน่วยกู้ชีพ 1669 จาก รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ นำแพทย์และพยาบาลมารอรับอยู่ที่ท่าเทียบเรือ
ร.ต.ต.สุทัศน์ เปิดเผยว่า ช่วงที่พบ นายซาช่า นั้น นายซาช่า มีอาการอ่อนแรงเพราะต้องว่ายน้ำอยู่กลางทะเลนานกว่า 9 ชั่วโมง และรู้สึกดีใจที่ นายซาช่า ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ระหว่างว่ายน้ำลอยคออยู่กลางทะเลเลย ซึ่งทราบจากเพื่อนๆ ว่า นายซาช่า เป็นคนที่ว่ายน้ำเก่งมาก หากเป็นคนอื่นอาจไม่รอดชีวิตมาจนถึงรุ่งเช้าแบบนี้ ส่วนสาเหตุที่ นายซาช่า ตกจากเรือนั้นทราบว่า เป็นเพราะออกไปยืนสูบบุหรี่อยู่ท้ายเรือในเวลาประมาณ 02.00 น.แล้วเกิดอาการหน้ามืดจึงพลัดตกลงไปในทะเลโดยไม่มีคนบนเรือทราบในขณะเกิดเหตุกว่าจะทราบก็เมื่อเรือถึงฝั่งแล้ว สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุครั้งนี้ คงต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วมมือกัน ทั้งศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ชุมพร หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ สถานีตำรวจน้ำชุมพร และ หน่วยกู้ชีพ 1669 รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์