เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Mira Fatachova สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่าคู่รักชาวอเมริกันคู่หนึ่ง ได้เร่งวันแต่งงานให้เร็วขึ้น เพื่อลูกชายวัย 2 ขวบที่กำลังจะจากไปด้วยโรคลูคีเมีย จนข่าวดังกล่าวกลายเป็นเรื่องสะเทือนใจใครต่อใครนั้น ล่าสุด มีรายงานว่า ลูกชายวัย 2 ขวบของพวกเขา ได้สิ้นลมแล้ว หลังเพิ่งเข้าร่วมงานแต่งงานของพ่อแม่ได้เพียง 2 วัน
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 เว็บไซต์ทูเดย์ มีรายงานว่า เด็กชายโลแกน สตีเวนสัน วัย 2 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นโรคลูคีเมีย ได้เสียชีวิตลงแล้วในวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งจะเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงานของ คริสทีน สวิกอร์สกี และ ซีน สตีเวนสัน พ่อแม่ของเขาได้เพียง 2 วันเท่านั้น
รายงานระบุว่า หลังจากที่โลแกนได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคลูคีเมียตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 เขาก็ต้องอดทนต่อสู้กับโรคร้ายเรื่อยมา และต้องเข้ารับการผ่าตัดรวมทั้งเคมีบำบัดหลายครั้ง จนในที่สุดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แพทย์ก็ได้บอกกับ ซีน สตีเวนสัน และ คริสทีน สวิกอร์สกี พ่อและแม่ของโลแกนว่า เด็กชายมีเวลาเหลืออยู่เพียงแค่อีก 1-2 สัปดาห์เท่านั้น
และนั่นทำให้คู่สามีภรรยา ตัดสินใจเลื่อนงานแต่งงานที่วางแผนจะจัดขึ้นในปีหน้า มาจัดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 สิงหาคม) ที่บ้านของพวกเขาเอง เพื่อให้ลูกชายของเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพิธีสำคัญของทั้งคู่ และมีรูปถ่ายร่วมกับครอบครัวในการฉลองวันสำคัญที่มีทั้งความสุขปนเศร้านี้
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดวันแห่งการจากลาก็มาถึง 2 วันหลังจากงานสำคัญนั้น โลแกนได้สิ้นลมในอ้อมแขนของคริสทีน และเธอก็ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของเธอว่า เธอรู้สึกเศร้าเสียใจมากและไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น โลแกนไปกลายเป็นเทวดาตัวน้อยไปแล้ว และเขาก็จะไม่เจ็บปวดอีกต่อไป เขาไม่ป่วยและไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว
โดยคริสทีนซึ่งรู้สึกเศร้าเสียใจมากตลอดนับตั้งแต่ได้รับการแจ้งข่าวร้ายถึงเวลาที่เหลืออยู่ของโลแกน ก็ได้เผยว่า เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก เธอร้องไห้อย่างหนักจนตอนนี้เธอไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว และรู้สึกเหมือนใจสลายกับอาการที่ทรุดลงเรื่อย ๆ ของลูก จนกระทั่งเขาจากไป
ทั้งนี้ หลังจากที่สื่อนำเสนอเรื่องราวของโลแกน เขาก็ได้กลายมาเป็นที่รักและสะเทือนใจของคนทั่วโลก และนั่นทำให้ซีน พ่อของโลแกนรู้สึกขอบคุณสำหรับการเผยแพร่เรื่องของโลแกนสู่โลก เพราะเขาเพียงต้องการให้ทุก ๆ ได้รู้ว่าโลแกนคือใคร ซึ่งจะเป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่แทนมรดกจากการมีชีวิตอยู่ของเขา