ปริศนาตัวจริงของซามุไรพเนจร (ซามุไรX)

คอการ์ตูนญี่ปุ่นบ้านเราเมื่อยุคสิบกว่าปีที่แล้ว น่าจะรู้จักการ์ตูนที่ชื่อ “ซามูไร เอ็กซ์” เป็นอย่างดี ในฐานะการ์ตูนลายเส้นสวย

เฉพาะตัวหนังสือนั้นว่ากันว่าขายไปได้ราวๆ 50 ล้านก็อปปี้ และเมื่อไหร่ที่มีการจัดโหวตการ์ตูนที่ผูคนชื่นชอบมากที่สุด

เรื่องราวของ “ฮิมูระ เคนชิน” หรือ “บัตโตไซ” ก็จะถูกโหวตจากท่านผู้อ่านให้ติดอยู่ใน 100 เรื่องที่ต้องอ่านเสมอเดือนหน้านี้ทางญี่ปุ่นจะปล่อยซามูไร เอ็กซ์ ฉบับคนแสดงออกมาแล้ว เมืองไทยก็คงต้องลุ้นดูกันทางดีวีดีไปตามระเบียบ
       
        ส่วนผมชอบตัวละครที่ชื่อ “ฮิมูระ เคนชิน” ตัวนี้ครับ อดีตมือสังหารที่เบื่อหน่ายต่อยุคสมัยแห่งการฆ่า ขอเกิดใหม่เพื่อพิทักษ์สันติภาพด้วยการใช้ดาบคมสลับ ทำเอาหลายคนอดจะคิดไม่ได้ว่าถ้ามีหมอนี่อยู่ในโลกจริงๆ มันคงน่าตื่นเต้นไม่น้อย
       
        เอาเข้าจริงตัวละครตัวนี้ซึ่งอ้างอิงจาก อาจารย์ โนบุฮิโร่ วาซึกิ ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้แกบอกว่าแกได้แรงบันดาลใจจากมือสังหารคนหนึ่งใน สมัยปฏิวัติเมจิที่ชื่อว่า “คาวาคามิ เกนไซ” ( Kawakami Gensai) เช่นเดียวกับ “ซางาระ ซาโนซึเกะ” ตัวละครที่เดินเคียงคู่ เคนชิน ก็นำมาจากนักสู้มือเปล่าที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติเมจิแห่งกลุ่ม ซัตซึม่าที่มีชื่อว่า “ซาโน่ ทาเคโนซึเกะ”( Sano Takenosuke ** หมายเหตุ แต่เฉพาะชื่อของซางาระ ซาโนซึเกะ นั้น วาซึกิ กล่าวว่า เขาเอามาจากชื่อของสมาชิกผู้หนึ่งในกลุ่มชินเซนที่ชื่อว่า ฮาราดะ ซาโนซึเกะ)
       
        จะว่าไปเรื่องราวที่เป็นจุดกำเนิดแห่งการเป็นยอดนักเชือดของเกน ไซก็ต้องนับว่ามาจาก ซาโน ทาเกโนะซึเกะ นะครับ เพราะซาโน่พร้อมกับกับเพื่อนซี้ที่ชื่อว่า “โอเซกิ วาชิชีโร่” และกลุ่มนักสู้อีก 16 คน วางแผนบุกเข้าไปสังหารที่ปรึกษาคนสำคัญของโชกุนโตกุกาว่าที่ชื่อ “นาโอะซึเกะ” ในวันที่ 24 มีนาคม 1860 โดยการฆ่านั้นเกิดขึ้นหน้าประตูปราสาทของโชกุนทีเดียว เหตุแห่งการตายก็เพราะนโยบายเปิดประตูรับคนต่างชาติเข้ามาทำมาหากิน การลอบสังหารครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เกิดสงครามเมจิในเวลา ต่อมาครับ
       
        คาวาคามิ เกนไซ เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1834 ในตำบลฮิโกะ เขตคุมาโมโต้ (ซึ่งคำว่าฮิโกะนี้ผู้เขียนก็เอามาเขียนเป็นชื่อของอาจารย์พระเอกเราเสีย อีก) ในตระกูลซามูไรที่ทำงานให้แก่ โคโมริ ซาดะซึเกะ ซึ่งเป็นไดเมียวผู้ครองเมือง ต่อมาเมื่ออายุ 11 ปีก็ได้รับการศึกษาหลักสูตรนักรบกันที่คุมาโมโต้นั่นเองครับ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นที่จดจำสำหรับหนุ่มน้อยผู้นี้ก็คือ ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องในการประลองโดยใช้ดาบไม้และดาบไม้ไผ่ โดยที่ครูผู้ฝึกเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหมอนี่ไม่เอาถ่าน คำตอบของคาวาคามิที่บอกต่อเพื่อนฝูงในขณะนั้นก็คือ การต่อสู้ด้วยดาบไม้มันไม่ต่างอะไรกับการละเล่นของเด็ก แต่เพราะการพ่ายแพ้ในคลาสเรียนมากขนาดนั้น เมื่ออายุ 16 คาวาคามิ เกนไซก็ถูกบรรจุให้ทำงานในปราสาทของไดเมียวกินตำแหน่งพนักงานถูพื้นซึ่งเป็น ตำแหน่งที่ต่ำต้อยมาก เพราะมันต่ำต้อยเวลาว่างก็เลยมีเยอะ ช่วงนี้เองที่เขาพัฒนาวิชาดาบของเขาขึ้นอย่างมากมาย
       
        ปี 1851 เขากลายเป็นองครักษ์ประจำตัวของ “โฮโซกาว่า นาริโมริ” ซึ่งต้องเดินทางไปเป็นตัวประกันในเอโดะ ตามกฏของโชกุน ช่วงเวลานั้นเกนไซยิ่งเห็นความเสื่อมโทรมของระบบปกครองแบบนี้ แถมเมื่อ แมททิว เพอร์รี่ แล่นเรือดำเข้ามาที่อ่าวจนทำให้โชกุนต้องยอมเซ็นสัญญาการค้าที่ญี่ปุ่นโดน เอารัดเอาเปรียบมากมาย เกนไซก็ไม่เชื่อมั่นกับบ้านเมืองนี้อีกต่อไป เขากลับไปคุมาโมโต้พร้อมฝึกวิชาดาบเพื่อใช้ฆ่าสำหรับสงครามที่กำลังจะเกิด ก่อนจะกลับไปรับใช้นายที่เอโดะอีกครั้งในปี 1860
       
        เหตุการณ์ลอบสังหารที่ปรึกษานาโอซึเกะของโชกุนโตกุกาว่านั่นเองที่ทำให้เกน ไซตัดสินใจว่าจะเอาด้วย ว่ากันว่า ในวันที่ลอบสังหารสำเร็จ กลุ่มนักฆ่าบางคนกระเซอะกระเซิงไปที่บ้านพักของเขาในเอโดะ เกนไซเปิดบ้านและให้ที่ซ่อนมือสังหารเหล่านั้นอย่างเต็มใจ (ส่วนจะได้สนทนากับซาโนจนเป็นเพื่อนกันเหมือนในการ์ตูนหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ครับ) หลังจากนั้นเขาถูกเรียกไปทำงานเป็นกลุ่มอารักขาบุคคลสำคัญของคุมาโมโต้ที่มี แนวคิดปฏิวัติ แต่สุดท้ายเขาทำงานพลาดเมื่อ “มิยาบิ ไทโซ” คนสำคัญของกลุ่มโดนบรรดาชินเซนกูมิ (ขบวนการสังหารของระบบโชกุน) จัดการอย่างโหดเหี้ยมในเอโดะ เหตุการณ์นั้นทำให้เกนไซสาบานว่าเขาจะกลายเป็นมือสังหารเพื่อจัดการกับคนของ ระบบโชกุนโดยเฉพาะ!!
       
        จะว่าไปตัวของเกนไซนั้นมีวิสัยทัศน์และแนวคิดในเรื่องของการสร้างชาติเหมือน กับที่พระเอกของซามูไรเอ็กซ์แกเชื่อ นั่นคือ จะสร้างสันติได้ต้องกำจัดฝ่ายตรงข้ามเสียก่อน จริงๆ เหตุการณ์ในช่วงปีสุดท้ายก่อนเกิดการล่มสลายของระบบโชกุนนั้น บ้านเมืองญี่ปุ่นวุ่นวายกันมากครับ การเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายระบอบโชกุน กับระบอบการปกครองโดยพระจักพรรดิ กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มเห็นว่าต้องมีกำลังของตัวเองขึ้นมาเพื่อคอยไล่ล่าและ สังหารบุคคลสำคัญของฝ่ายตรงข้าม คาวาคามิ เกนไซ ก็เลยมีงานชุก เพราะต้องไล่สังหารฝ่ายตรงข้ามกันอย่างมากมาย แถมแกก็รับเบี้ยหวัดเงินเดือนของฝ่ายปฏิวัติที่ต้องการโค่นระบบโชกุนเสีย ด้วย โดยมีหน้าที่เดียวก็คือ คอยตามฆ่าบุคคลสำคัญในระบบโชกุนตามคำสั่ง ซึ่งก็ได้ผลอย่างมาก จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสี่ของซามูไรที่เป็นมือสังหารแห่งยุคที่เขา เรียกชื่อเฉพาะว่า “ ฮิโตะคิริ” หรือนักแล่เนื้อมนุษย์นั่นเอง (สำหรับโคตรพญายมที่เหลือได้แก่ คิริโน โทชิอากิ (หรืออีกชื่อ นากามูระ ฮันจิโร่) ทานากะ ชิมเป และ โอกาดะ อิโซ)
       
        แต่ที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุดก็คือการฟัน “ซากุมะ โชซัน” นักการเมืองและนักคิดคนสำคัญที่ผลักดันให้รัฐบาลโชกุนเปิดท่าเรือให้ต่าง ชาติเพิ่ม “ตายในดาบเดียว” ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นหลายฝ่ายจะทำอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะลูกชายของซากุมะนั้นอยู่ในกลุ่มชินเซนกุมิซึ่งอารักขาพ่อได้เข้มแข็ง มาก แต่เกนไซสามารถฝ่ากองกำลังชินเซนเหล่านั้นและฆ่าเป้าหมายของเขาได้สำเร็จ หลังจากนั้นชื่อเสียงของเกนไซก็หยุดไม่อยู่ เขาจัดการคู่ต่อสู้ไม่ยั้งและนับไม่ถ้วนจนในที่สุดภาระกิจก็สำเร็จ คือระบบโชกุนล่มสลาย
       
        แต่เรื่องน่าเศร้าในช่วงท้ายของเกนไซก็คือ เมื่อไม่เหลือใครให้ฆ่าแล้ว รัฐบาลเมจิก็ต้องหาเหตุที่จะทำให้มือสังหารหรือบุคคลที่รู้จักวิธีสังหาร ฝ่ายตรงข้ามต้องหายไป ชีวิตของเกนไซจึงไม่ง่ายเหมือนเคนชิน ที่พอปฏิบัติงานชิ้นสุดท้ายเสร็จก็ระหกระเหินจนไปอยู่โรงฝึกของนางเอกและมี เพื่อนมากมายอย่างที่นักอ่านทราบกันดี
       
        รัฐบาลเมจินั้นโหดครับ เพราะเมื่อคิดว่าจะต้องการกำจัดสุดยอดมือสังหารอย่างเกนไซแล้ว พวกเขากลับใช้วิธีที่ดีกว่าการดวลด้วยดาบนั่นคือ หาหลักฐานเท็จมาใส่ความในคดีฆาตกรรมที่เกนไซไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ยอดนักดาบของเราถูกเจ้านายของเขาเองกล่อมให้เข้าไปในคุกเพื่อรอรับการไต่สวน ในคดีสังหารอดีตสหายร่วมอุดมการณ์ ทีแรกก็คิดว่าเรื่องจะจบง่ายๆเพราะความเข้าใจผิด แต่ไปๆมาๆเกนไซก็แทบกระอักเพราะไอ้ที่ว่าจะเคลียร์ได้ง่ายๆ จู่ๆก็มีพยานวัตถุ พยานบุคคลอีกมากมายที่เห็นเขาก่อคดี สุดท้ายเกนไซก็ไม่ได้ถูกปล่อยตัวเสียที แถมยังโดนจำคุกตลอดชีวิตเสียด้วย
       
        ไอ้ที่หนักหนาก็คือ เขาเสียชีวิตกันในคุกนั่นเองครับ แต่จะเสียเพราะโดนลอบสังหารหรือลอบวางยาพิษหรือเปล่าก็ไม่ได้แจ้งไว้ เขาตายในปี 1871 แต่ปัจจุบันหลุมฝังศพของเกนไซยังมีอยู่และมีผู้ที่ฝึกดาบไปเยือนบ้านหลังสุด ท้ายของเขาอยู่เนืองๆ
       
        ชีวิตครอบครัวนั้นเกนไซมีอะไรคล้ายๆ กับ ฮิมูระ เคนชินอยุ่มาก เขาแต่งงานกับ มิซาว่า เคียวโกะ สาวยอดฝีมือที่มีโดโจหรือโรงฝึกเหมือนกับสาวคาโอรุในการ์ตูน ภรรยาของเกนไซมีวิทยายุทธในขั้นที่ยอดเยี่ยม ทั้งคู่มีบุตร 1 คนชื่อเกนทาโร่ซึ่งมีชีวิตอยู่รอดแม้ว่าเกนไซจะโดนประหารไปแล้ว หลายคนเชื่อว่าเป็นฝีมือของภรรยาเขาที่ปกป้องลูกชายไว้ได้

 

ฮิมูระ เคนชิน

 

 

 

 

คาวาคามิ เกนไซ ตัวจริงของ บัตโตไซ เคนชิน

 

 

 

 

 

ซากุมะ โชซัน นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ถูกเกนไซบุกเข้าไปฟันตายในดาบเดียว

 

 

 

ซาโน ทาเกโนะซึเกะ กับท่าสังหารมือเปล่าของเขาซึ่งเป็นภาพข่าวสมัยเอโดะ
 

Credit: http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000089669
7 ส.ค. 56 เวลา 07:49 16,401 8 110
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...