พระมาลัยเถระ
เป็นพระอรหันต์จากลังกา เป็นพระที่ได้บรรลุอิทธิวิธี คือสามารถแสดงฤทธิ์ได้ ด้วยอานิสงส์จากการถวายทานและปฏิบัติฌานสมาบัติ พระมาลัยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีฤทธิ์รองลงมาจากพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งได้รับยกย่องในเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก เรื่องพระมาลัยเป็นตำนานเล่าขานในประเทศที่นับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาททั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยและในประเทศลาว ในเรื่องเล่าว่าพระมาลัยได้ลงไปในนรกและได้ไปสอนธรรมโปรดชาวนรก ท่านได้ไปรู้ไปเห็นว่าสัตว์นรกถูกลงโทษตามผลกรรมตามนรกขุมต่างๆอย่างไรบ้าง
หลังจากกลับคืนสู่โลกมนุษย์แล้ว พระมาลัยได้รับดอกบัวจากชายยากจนผู้หนึ่ง ซึ่งได้อธิษฐานในขณะถวายดอกบัวว่าขออานิสงส์ของทานนี้จงเป็นปัจจัยให้ตนได้พ้นจากความยากจน จากนั้นพระมาลัยได้ขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้วได้นำดอกบัวที่รับจากชายยากจนผู้นั้นขึ้นไปบูชาพระสถูปจุฬามณี ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศโมฬีของพระโพธิสัตว์ที่พระองค์ตัดมอบให้แก่ท้าวมหาพรหมเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จออกผนวช
เมื่อตอนที่อยู่บนสวรรค์ พระมาลัยและพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ขั้นดาวดึงส์ได้สนทนากันในเรื่องการสร้างบุญกุศลเป็นอเนกประการ และในที่สุดพระมาลัยได้พบกับพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งจะลงมาตรัสรู้ในโลกนี้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป พระศรีอริยเมตไตรยได้ฝากคำของท่านมาถึงชาวโลกมนุษย์ว่าให้สร้างบุญกุศล ทำแต่คุณงามความดีไว้ก็จะได้รับผลจากคำสอนของท่านเมื่อท่านมาสู่โลกนี้ในอนาคต พระมาลัยเมื่อกลับคืนสู่โลกมนุษย์แล้ว ก็ได้นำเรื่องที่ท่านได้พบเห็นในนรกและในสวรรค์ และรวมทั้งคำสอนของพระศรีอริยเมตไตรยมาบอกกล่าวแก่ชาวโลก