รู้มั้ยว่าอาหารแต่ละชนิด ทานแล้วต้องออกกำลังมากแค่ไหน
ในปัจจุบันหลาย ๆ คนติดทานขนมขบเคี้ยวเป็นของทานเล่นยามว่างกันมาก ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายอย่างเรา โดยเฉพาะตอนกำลังทำงานหรือนั่งดูหนังพักผ่อนเพลิน ๆ ปากของคุณก็ปล่อยวางไว้ไม่ได้ เป็นต้องหาขนมนมเนยมากระแทกปากเป็นประจำ จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้อิ่มอร่อย แต่ถ้าคิดถึงปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายรับเข้าไปล่ะก็คงไม่คุ้มแน่ ๆเพราะต้องแลกกับสุขภาพที่ย่ำแย่ลง รวมถึงความอ้วนที่มาถามหา คิดดูสิว่าจะต้องออกกำลังกายเบิร์นไขมันส่วนเกินออกไปเยอะแค่ไหนกว่าจะรีดน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำตัวอย่างอาหารที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้น้ำหนักขึ้นจากเว็บไซต์ askmen.com พร้อมระดับการออกกำลังที่ต้องปฏิบัติเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกิน มาแนะนำให้ได้ทราบกันครับ
แน่นอนว่าร่างกายของแต่ละคนย่อมมีระดับการเผาผลาญแตกต่างกัน เราจึงขอยกตัวอย่างแบบกลาง ๆ ให้หนุ่ม ๆ สามารถเปรียบเทียบได้ สมมติว่า นายกระปุกมีน้ำหนัก 80 กิโลกรัม การออกกำลังกายจะใช้แคลอรี่ไปดังนี้
วิ่งด้วยความเร็วกลางอย่างต่อเนื่อง 10 กม./ชม. เท่ากับ 1 ชั่วโมง เผาผลาญไป 1,000 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ปั่นจักรยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. เท่ากับ 1 ชั่วโมง เผาผลาญไป 750 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ยกเวทแบบหนักหน่วงต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง เท่ากับ เผาผลาญไป 450 แคลอรี่ต่อชั่วโมงทั้งนี้ หากน้ำหนักน้อยกว่าปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญได้ก็จะน้อยลงไปตามด้วย ในขณะเดียวกันหากน้ำหนักมาขึ้น ก็จะเผาผลาญได้มากขึ้นเล็กน้อย และนี่เป็นเพียงตัวอย่างคร่าว ๆ เท่านั้น แต่ก็เพียงพอจะเตือนภัยต่อหนุ่มกินจุกจิกได้ไม่น้อยเลยครับ
1. เพรทเซลอบกรอบ
ขนมขบเคี้ยวชิ้นเล็ก ๆ โรยเกลือเค็ม ๆ หรือราดช็อกโกแลตหวาน ๆ แบบนี้ เป็นขนมอบที่บางคนไม่คิดว่าจะทำให้อ้วน แถมหยิบมาหม่ำกันเพลิน ๆ อีกด้วย แต่รู้ไหมว่าเพรทเซลแค่ 10 ชิ้นก็มีพลังงานถึง 227 แคลอรี่เลยทีเดียว แล้วต้องออกกำลังเท่าไหร่ล่ะ?
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 30 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 18 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 14 นาที
2. มัฟฟินบลูเบอร์รี
ขนมอบหวานหอม ที่ส่งกลิ่นเย้ายวนชวนให้หยิบมากินคู่กับกาแฟหรือชาสักถ้วย แต่มันกลับให้พลังงานมากถึง 380 แคลอรี่เลยทีเดียว เบ็ดเสร็จต้องออกแรงเรียกเหงื่อถึง…
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 51 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 30 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 23 นาที
3. ข้าวโพดคั่วรสเนยแบบใส่ไมโครเวฟ
ขนมแห่งความบันเทิงของคนยุคเร่งรีบ เน้นความสะดวกสบาย อร่อยได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำเข้าไมโครเวฟเท่านั้นก็ทานได้ทันที แต่รู้มั้ยว่าความเอร็ดอร่อยที่ต้องแลกมานั้นมีแคลอรี่ไม่น้อยกว่าข้าวโพดคั่วที่ใช้วิธีการทำแบบดั้งเดิมราว 210 แคลอรี่ มาดูกันว่าต้องออกกำลังกายกันแค่ไหนเพื่อข้าวโพดคั่วสักถุง
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 28 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 17 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 13 นาที
4. ถั่วลิสงอบครึ่งถ้วย
นี่แหละ ขนมเคี้ยวเพลินที่จะหมดถ้วยอย่างรวดเร็ว ยามเมื่อหยิบกินในระหว่างทำงานหรือนั่งดูหนังอยู่ที่บ้าน เพราะถั่วลิงสงแค่ครึ่งถ้วย (4 ออนซ์) ก็ทำให้อึ้งด้วยพลังงานถึง 427 แคลอรี่เชียวนะ แล้วทีนี้ต้องเผาผลาญนานแค่ไหน มาดูกัน
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 57 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 34 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 26 นาที
5. เครื่องดื่มชูกำลัง
น่าจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าเครื่องดื่มชูกำลังที่ช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าพวกเครื่องดื่มขวดเล็ก ๆ หรือกระป๋องเหล่านี้กลับให้พลังงานถึง 280 แคลอรี่แล้ว ใครคิดจะเอาไว้ซดเล่น ขอให้ดูว่าต้องออกกำลังมากแค่ไหน
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 37 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 22 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 11 นาที
6. ไวท์ช็อกโกแลตร้อน
เครื่องดื่มช็อกโกแลตอีกชนิดหนึ่งที่มีรสและกลิ่นหอมหวานละมุนพร้อมคุณสมบัติของช็อกโกแลตแบบเต็ม ๆ ซึ่งยังเพิ่มความอร่อยให้มากยิ่งขึ้นด้วยนมสดและน้ำตาล (หรืออาจแทนนมด้วยครีมเทียมซึ่งอ้วนหนักกว่าเดิม) ด้วยส่วนผสมดังกล่าวมันจึงมีพลังงานมากถึง 730 แคลอรี่เลยทีเดียว มากที่สุดเท่าที่เราแนะนำกันมาเลย
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 1 ชั่วโมง 37 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 58 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 44 นาที
7.โดนัทเคลือบช็อกโกแลต
ขนมสุดอร่อยยอดนิยม แน่นอนว่ากระบวนทำโดนัทคือการนำแป้งไปทอดนั่นเอง ซึ่งเพียงแค่แป้งก็มีพลังงานมากพออยู่แล้ว เมื่อนำไปทอดก็ยิ่งเพิ่มไขมันเข้าไปอีก แถมยังเคลือบด้วยซอสช็อกโกแลต ทำให้ขนมชิ้นเล็ก ๆ นี้มีพลังงานสูงถึง260 แคลอรี่เลยล่ะ แล้วหากจะนำออกต้องออกกำลังกายให้ได้ตามนี้
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 35 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 21 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 16 นาที
8. คุกกี้ช็อกโกแลตชิปชิ้นใหญ่
ชิ้นเดียวก็เกินพอจริง ๆ สำหรับคุกกี้ช็อกโกแลตชิปชิ้นใหญ่ แต่หลายคนอาจไม่พอใช่ไหม ดังนั้น หากรู้ตัวเลขพลังงานของมันอาจจะพอเลยก็ได้ เพราะมันมีพลังงานมากถึง 196 แคลอรี่ต่อชิ้น เห็นไหมล่ะว่าแค่ชิ้นเดียวอาจต้องออกกำลังกายมากเท่านี้เลย
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 26 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 16 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 12 นาที
9. น้ำส้มแท้ 100 เปอร์เซ็นต์
น้ำส้มเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป น้ำตาลตามธรรมชาติในน้ำส้มเองก็สามารถแปลงเป็นพลังงานส่วนเกินได้เช่นกัน โดยน้ำส้ม 1 แก้ว (12 ออนซ์) จะให้พลังงานถึง 170 แคลอรี่ โดยเราอาจต้องเผาผลาญด้วยการออกกำลังกายตามเวลาดังนี้
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 23 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 14 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 10 นาที
10. เบียร์
เวลาหลังเลิกงานกับเบียร์เย็น ๆ ถือเป็นการพักผ่อนน่าอภิรมย์ของใครหลายคน แต่เชื่อไหมว่าเบียร์แค่ขวดเล็ก (12 ออนซ์) กลับให้พลังงานถึง 150 แคลอรี่แล้ว แต่หากดื่มขวดเล็กขวดเดียวก็คงแปลกไปหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่ดื่มกันที่ 2 ขวดขึ้นไป ซึ่งคุณผู้ชายจะได้รับพลังงานจากการอย่างน้อยถึง 300 แคลอรีเลยล่ะ
ยกน้ำหนักอย่างหนักหน่วง 40 นาที ปั่นจักยานด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. 24 นาที วิ่งด้วยความเร็ว 10 กม./ชม. 18 นาทีเห็นตัวเลขแคลอรี่ในอาหารขนาดนี้ คิดว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงอยากเลิกหาของกินจุกจิกกันไปเลยทีเดียว เพราะอาหารที่ยกตัวอย่างไปนั้น มักทำให้รู้สึกเพลิดเพลินเวลากินเข้าไป แต่ลำบากตอนเอาออกมานี่สิ เพราะฉะนั้น ถึงแม้หิวก็ควรอดทนให้ถึงเวลาอาหารจะดีกว่า ไม่ก็หาของว่างที่ไขมันต่ำมาทานรองท้องไปก่อน เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต หรือเลือกจิบน้ำเปล่าแทนก็สามารถช่วยได้เช่นกัน แล้วเมื่อหยุดนิสัยการกินจุกจิกได้ พร้อมกับออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ไปได้อีกนานเลยครับ
Source : kapook