เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติว่า อย่าไปขยายข่าวลือ ข่าวลือก็คือข่าวลือ อยากให้ทุกพวก ทุกคน ทุกฝ่ายต้องมีสติ ไม่ว่าจะทำอะไร หรือรับฟังอะไรต้องมีสติ แยกแยะให้ออกว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรไม่จริง ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เราเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชน ทหารทำหน้าที่ของทหาร มีบทบาทแน่นอนชัดเจน สิ่งใดเป็นการกระทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เรามีกระบวนการตรวจสอบและดำเนินการอยู่แล้ว แม้จะติดขัดและขรุขระอยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุดกฎหมายจะเป็นตัวแก้ไขปัญหาทุกอย่าง
“ทหารอยู่ในบทบาทของทหาร เหตุการณ์ในประเทศเป็นเรื่องที่คนไทยต้องร่วมมือแก้ปัญหา แต่ไม่ทราบว่าต้องแก้ด้วยวิธีไหน ต้องไปหาวิธีการมา โดยไม่ให้เสียทั้งกฎหมาย และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การที่คนลือกันเกรงว่าจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น และประชาชนตื่นตระหนกเสียขวัญกลายเป็นผลประโยชน์ให้คนที่ปล่อยข่าว การปล่อยข่าวว่า ให้มีการกักตุนอาหาร คิดว่าเกินไปในการหาประโยชน์กับประชาชน การไปพูดจาให้ร้าย กล่าวอ้างถึงสถาบัน คนเหล่านี้แย่มาก ผมเคยบอกเสมอว่า พระองค์ท่านไม่เคยลงมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง พระองค์ท่านอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง ดังนั้น จะไปลือว่า ท่านเสด็จไปประทับที่หัวหิน เพื่อโน่นเพื่อนี่ ผมว่า ไม่เป็นธรรมกับพระองค์ท่าน เป็นข่าวที่ปล่อยออกมา ก็ไปหาตัวว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว”ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้พยายามสร้างความเข้าใจกับสังคมว่า บ้านเมืองมีภัย ทำไมทหารไม่ออกมา ถามว่ากฎหมายยังมีอยู่หรือไม่ ถ้าทหารออกมา แสดงว่าไม่มีกฎหมายแล้ว และไม่ต้องใช้กฎหมาย ไม่อยากให้ทุกคนไปมุ่งหวังเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเราไม่รับผิดชอบ แต่เราต้องตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง ต้องนำพาประเทศชาติและประชาชนไปในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งใดเป็นปัญหาต้องไปหาต้นเหตุแห่งปัญหาให้เจอ หาวิธีแก้ปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรง โดยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายไทย วันนี้ขอร้องให้ลดข่าวลือ เพราะทำให้ประเทศชาติเสียหาย หลายประเทศประกาศไม่ให้มาเที่ยวประเทศไทยในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ดังนั้นต้องช่วยวิธีช่วยกันลดและแก้ปัญหา
เมื่อถามว่ามีการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจะปฏิวัติตัวเอง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่มีรัฐบาลไหนในโลกทำเช่นนั้น ใครช่างคิดได้ทุกอย่าง คิดเล็กคิดน้อย คิดซับซ้อนเกินไปหรือเปล่า ทำไมต้องให้เป็นสงครามข่าวสาร ทำไมต้องมารบกัน เมื่อเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราไม่ต้องการให้ไปถึงจุดนั้น ตนมีจุดยืนคือยืนเคียงข้างประชาชน และอยู่กับสถาบัน สิ่งใดที่ละเมิดกฎหมาย ต้องใช้กฎหมายดำเนินการไม่สามารถใช้วิธีอื่นได้ ตราบใดที่เราเป็นองค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ ถ้าทำผิดกฎหมายเสียเองจะแก้ปัญหาไม่ได้ แต่ถ้าประชาชนเดือดร้อน บาดเจ็บสูญเสีย ทหารพร้อมจะดูแล แต่ตนไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น การที่บอกว่าจะเกิดเหตุการณ์ แล้วทหารจะออกไปทำอะไร ขอบอกว่าถ้าทหารจะออกมาก็ออกมาดูแลประชาชน ขอให้ทุกคนสบายใจ ทหารยังอยู่กับท่านเสมอ อย่ากันทหารออกไปโน่นไปนี่ ขอให้ทหารอยู่ในจุดที่อยู่ได้ดีที่สุดดีกว่า เมื่อถึงเวลาบ้านเมืองเดือดร้อน ถ้าท่านทำลายเครดิตทหารแล้วทหารจะไปอยู่ตรงไหน
“วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงแข็งแรงขึ้น และทรงเสด็จฯ ไปประทับที่วังไกลกังวล คนทั้งประเทศรู้สึกดีใจ ผบ.ต่างประเทศถามผมเรื่องสุขภาพของพระองค์ท่านตลอดว่า แข็งแรงขึ้นหรือยัง บางประเทศพอรู้ว่า พระองค์ท่านออกจากโรงพยาบาลได้ ก็ดีใจกับเรา แต่ไม่เข้าใจว่าคนในประเทศ บางคนเป็นโรคอะไร ต่างชาติรักพระเจ้าอยู่หัว แต่บางคนในประเทศไม่รักพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านไม่เคยให้ผมบังคับใคร แต่ผมอยากประณามคนเหล่านี้ที่เขียนพันไปหมด โดยไม่มีความพอเหมาะพอควร ในการชุมนุมหลายพื้นที่เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมามีการพูดถึงพระสยามเทวาธิราช และพระมหากษัตริย์ คิดว่าไม่เป็นการสมควร ประเทศไทยไทยอยู่ทุกวันนี้ได้ เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาชนทั้งประเทศ ไม่เข้าใจว่าคนบางประเภทเป็นอะไร รบกันเองไม่พอยังทำร้ายสถาบัน ทำร้ายทหาร ผมไม่เข้าใจ หรือต้องการให้มันไม่มีประเทศจะอยู่ ขณะนี้สถานการณ์รอบบ้านดีหมด เว้นแต่ในประเทศ หรือคนในประเทศไม่ใช่คนไทย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสนอทางออกของประเทศ โดยให้มีการปฏิรูปการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องหาวิธีดำเนินการ ส่วนจะส่งคนไปร่วมหรือไม่นั้น ต้องดูว่ารัฐบาลเขาเชิญเราหรือยัง
ด้านพล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล1รอ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ส.ค.เวลา 05.00 น. กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ จะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์รถถังจำนวน 12 คัน พร้อมกำลังพลทหารม้า และทหารช่าง เพื่อไปฝึกประจำปีตามวงรอบปกติ โดยจะใช้เส้นทางสี่แยกเกียกกาย ลำเลียงไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟย่านพหลโยธิน ปลายทางสถานีรถไฟจ.กาญจนบุรี
ส่วนกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) และกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) จะเคลื่อนย้ายไปฝึกทำการฝึกที่ จ.ลพบุรี และในวันที่ 17 ส.ค. เวลา 15.00 น. กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ จะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์กลับจากการฝึกจาก จ.กาญจนบุรี ปลายทางสถานีรถไฟย่านพหลโยธิน กทม. และเคลื่อนย้ายเข้าที่ตั้งหน่วยทหารในพื้นที่เกียกกาย เขตดุสิต
จึงขอชี้แจงประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจต่อการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ดังกล่าว เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวลือต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองเกิดขึ้น ซึ่งกองทัพบกขอยืนยันว่าจะไม่มีการปฏิวัติหรือลับ ลวง พรางอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนสบายใจ และใช้ชีวิตตามปกติ