แม่เหยื่อพค.53 ร่ำไห้ขอนิรโทษ

ญาติเสื้อแดงร่ำไห้ขอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หลังสามี-ลูกสาวโดนจับข้อหา ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินติดคุกหลายสิบปี วอนขอความยุติธรรมให้ประชาชน โวยนักการเมืองต้องรักษาสัญญา ร่วมดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมช่วยประชาชนที่เป็นเหยื่อความรุนแรงไม่เกี่ยวกับแกนนำ หากได้ลูกคืนจะให้บวชชีพราหมณ์อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ส.ค. นางจินตนา เอี่ยมละออ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 334/49 ม.5 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ญาติของ ผู้ชุมนุมเสื้อแดง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่สภาฯ วันที่ 7 ส.ค.นี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อยากให้ผ่านสภา เพื่อความเป็นธรรมกับประชาชน เพราะคดีที่สามี คือ นายประสงค์ มณีอินทร์ อายุ 60 ปี โดนจับในวันชุมนุม ข้อหาทำผิดกฎหมายการชุมนุม ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่ามีวัตถุระเบิดและวิทยุสื่อสาร 



นางจินตนากล่าวอีกว่า สามีโดนจับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2553 จากนั้นบุตรสาวก็ต้องลางาน วิ่งไปวิ่งมากรุงเทพฯ-ระยอง เพื่อยื่นประกันตัวพ่อ ก็ไม่ได้รับการพิจารณา ศาลตัดสินจำคุก 9 ปี 4 เดือน ทําให้เกิดผลกระทบตามมาคือ เงินที่สามีทำงานเก็บไว้เพื่อลูกหลานก็หมดไป ทั้งที่เคยทำงานรับเหมาก่อสร้าง วันหนึ่งรับงาน 3-4 งาน งานละ 4-5 หมื่นบาท ขยันทำมากก็ได้เดือนละหลายแสนบาท แต่วันนี้ครอบครัวขาดเสาหลัก บ้านที่กรุงเทพฯ ที่เคยซื้อไว้ก็ผ่อนต่อไม่ได้ ตนต้องมาเลี้ยงหลานที่ระยอง มีเพียงบุตรสาวที่ยังทำงานอยู่คนเดียว หลานคนเล็กอายุ แค่ 5 ขวบร้องไห้หาแต่ตา รอตากลับมาบ้าน 



นางจินตนาร่ำไห้ด้วยความเป็นห่วงสามีพร้อมกับกล่าวว่า สามีอายุมากแล้ว และมีโรคประจำตัวมีไขมันในเลือดต้องเจาะเลือดทุกเดือนตลอดมา ปวดศีรษะ 3 ปีกว่าที่ผ่านมาเจ็บป่วยได้แต่กินยาพาราแก้ปวด สำหรับการชุมนุมของเสื้อแดงก็ชุมนุมโดยใช้สิทธิ์ชุมนุมตามประชาธิปไตย สามีไม่เคยฆ่าคนตาย ไม่เคยทำเรื่องร้ายแรงจนต้องมาติดคุกแบบนี้ ประกันตัวก็ไม่ได้ทั้งที่ไม่หนีไปไหน ทุกคนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งมีครอบครัว ทั้งนี้เมื่อเห็นข่าวรัฐบาลผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ทุกคนล้วนดีใจขอให้ผ่านเพราะเฝ้ารอมาตลอด หลายครอบครัวที่โดนเหมารวมจับไปทั้งที่ไม่รู้ว่าหลักฐานที่เกี่ยวข้อง วัตถุระเบิดอันตราย มาจากไหน มาอยู่ในรถได้อย่างไร และบางคนภรรยาไม่ได้ประกอบอาชีพ แต่สามีมาโดนจับจนครอบครัวไม่มีเงินเลี้ยงปากท้อง จึงเรียกร้องขอความยุติธรรมด้วย



ส่วนที่จ.อุบลราชธานี นางวาสนา มาบุตร อายุ 51 ปี อาชีพขายอาหารตามสั่ง ข้างมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น กล่าวถึงการนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ก่อความรุนแรงทางการเมืองฉบับนายวรชัย เหมะ เข้าสู่สภาฯ ว่า เบื้องต้นทราบว่าเป็นกฎหมายช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนทุกสี ไม่รวมถึงคนที่เป็นแกนนำเคลื่อนไหว จึงเห็นด้วยให้สภาผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ออกมา เพื่อให้โอกาสประชาชนที่ถูกจองจำได้กลับมาประกอบอาชีพใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง สำหรับครอบครัวของตน น.ส.ปัทมา มูลมิล บุตรสาว ถูกควบคุมตัวคุมขังมานานกว่า 2 ปีแล้ว


ขอนิรโทษ - นางวาสนา มาบุตร มารดาน.ส.ปัทมา มูลมิล (ภาพเล็ก) หนึ่งในผู้ต้องหาเผาศาลากลางจ.อุบลราชธานี ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี เรียกร้องรัฐบาลและส.ส.เร่งผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามข่าว





นางวาสนาร่ำไห้เล่าถึงเหตุการณ์ว่า ในวันเกิดการเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 19 พ.ค. 2553 บุตรสาวอยู่ร่วมในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เป็นคนเผา ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้วันที่ 26 พ.ค.ปีเดียวกัน และถูกตั้งข้อหาหนัก ศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 33 ปี 12 เดือน ฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร โดยร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน บุกรุกสถานที่ราชการ ร่วมกันทำลายทรัพย์สิน และวางเพลิงเผาอาคารศาลากลางจังหวัด



"หากดิฉันได้ลูกสาวกลับมา ได้คุยกันไว้น.ส.ปัทมาจะนุ่งขาวห่มขาวบวชชีพราหมณ์ระยะเวลาหนึ่ง เพื่อแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และรับว่าตัวเองมีส่วนทำให้ลูกสาวต้องถูกจับ เพราะรับความคิดทางการเมืองจากตนเองไปส่วนหนึ่ง" นางวาสนากล่าว



นางวาสนากล่าวต่อว่า ตนต้องการบอกถึงรัฐบาล นักการเมืองที่มาหาเสียงจะผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ประชาชนหากได้รับการเลือกตั้งเข้าไป แต่เวลาผ่านมากว่า 2 ปี ยังไม่เห็นความจริงจังในการออกกฎหมายออกมา จึงขอเรียกร้องให้นักการเมืองปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับคนเสื้อแดงและคนทุกสี ที่จะช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง โดยไม่รวมถึงบรรดาแกนนำที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเห็นบรรดาแกนนำห่วงแต่ตัวเอง พอถูกจับก็รีบวิ่งหาคนมาช่วยประกัน แต่ลูกสาวของตนติดคุกมาแล้ว 2 ปี ยังไม่ได้รับความสนใจ จึงขอเรียกร้องให้มีความจริงใจในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ด้วย



นางวาสนากล่าวถึงการเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองในอนาคต ต้องใช้สติใคร่ครวญเหตุการณ์ให้ละเอียด เพื่อจะไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนครั้งนี้ และปัจจุบันคนเสื้อแดงอุบล ราชธานีที่ถูกคุมขังในอัตราโทษหนักมี 4 คน คือ น.ส.ปัทมา มูลนิล นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ นายสนอง เกตุสุวรรณ และนายสมศักดิ์ ประสาน ทรัพย์ ปัจจุบันทั้งหมดถูกคุมตัวอยู่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่

4 ส.ค. 56 เวลา 10:50 1,184 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...