เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ เขตบึงกุ่ม พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยเดินหน้าผ่าความจริงเวทีที่ 59 “หยุดกฎหมายล้างผิดคิดล้มรัฐธรรมนูญ หยุดเงินกู้ผลาญชาติ หยุดอำนาจฉ้อฉล” โดยมีประชาชนผู้สนับสนุนพรรคฯ ต่างทยอยเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
ส.ส.แกนนำพรรคสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรค และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง ทั้งนี้ ได้มีประชาชนจำนวนมากร่วมมอบดอกไม้แสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ เนื่องในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด 49 ปี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการประชุมสภาในวันที่ 7 ส.ค.นี้จะบรรจุร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้าเป็นวาระแรก หมายความว่าหากการประชุมเป็นไปอย่างปกติตามวาระ ทางพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าคัดค้านอย่างเต็มที่ อีกทั้งการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อมาควบคุมดูแลมวลชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนั้น เป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลได้ทราบว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมและยังเป็นการทำให้สาธารณชนได้รับทราบว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับความปรองดองแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม อ้างว่าการออก พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย คุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมไปถึงผู้ชุมนุมด้วย จึงอยากตั้งให้ประชาชนคำถามจะเชื่อนายกฯได้หรือไม่ เนื่องจากเมื่อครั้งที่องค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นำมวลชนออกมาต่อต้านนั้น และรัฐบาลบอกว่าจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ในข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก็สน้ำตากับประชาชนตั้งแต่เช้ามืดของการชุมนุม เช่นเดียวกับขณะนี้ที่รัฐบาลได้ใช้กำลังด้วยการพยายามให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้ามาปราบปรามกับกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
“รัฐบาลบอกว่าจะออกกฎหมายเพื่อช่วยเหลือคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ของรัฐบาลคือคนที่เอาอาวุธมาเข่นฆ่าประชาชน คนที่เผาเซ็นทรัลเวิลดิ์ เผาศาลากลาง คนที่เอาอาวุธอาร์พีจีไปยิงวัดพระแก้ว คนที่ยิงระเบิดเอ็ม 79 รวมทั้งคนที่หมิ่นเบื้องสูง หากการนิรโทษกรรมรวมไปถึงนักโทษคดีอาญา ม.112 จะมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคนไหนออกมากล้ารับรองให้คนที่หมิ่นเบื้องสูงได้พ้นผิดหรือไม่ ทั้งนี้ หลายคนตีคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี ที่ปราศรัยบนเวทีผ่าความจริงที่บริเวณสกายวอร์ค สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีว่า การต่อสู่คัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องรอหลังวาระ 3 ซึ่งคนก็ถามว่ามันช้าไปหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าคงมีคนตีความผิด เพราะความหมายที่แท้จริงคือ เราจะบอกว่า เราต้องสู้ทั้งในและนอกสภา และสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำคือแสดงให้เห็นในเวทีสภาว่ากฎหมายนี้เป็นอันตรายต่อประเทศชาติอย่างไร ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคปชป. ยังกล่าวอีกว่า พี่น้องคงได้รับทราบกันแล้วถึงข้อเสนอทางออกประเทศไทยของนายกฯ ซึ่งจากเนื้อหาหลายประเด็นยังมีสิ่งที่ นายกฯไม่ยอมพูดความจริงกับประชาชน การที่นายกฯอ้างภายในสัปดาห์หน้า จะขอเชิญชวนจากกลุ่มคนมาร่วมหาทางออกประเทศ ทั้ง รัฐบาล พรรคการเมือง นปช. พธม. ส.ส. องค์กรอิสระ เอกชนและนักวิชาการ มาตั้งโต๊ะพูดคุย ซึ่งมี ส.ว.กลุ่มหนึ่งและแกนนำพธม. บอกแล้วว่าไม่ร่วม จนกว่าจะมีการถอนกฎหมายนิรโทษกรรมออกจากสภาก่อน ซึ่งพอได้ฟังคำพูดนายก ตนก็คิดในใจว่า นายกรัฐมนตรีไม่รู้จริงหรือว่า ก่อนที่จะมาทำกฎหมายนิรโทษ บ้านเมืองไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการชุมนุมจนถึงขนาดนี้ โดยตนไม่ต้องการให้บ้านเมืองถึงทางตัน ถ้านายกรัฐมนตรีบอกอยากคุย พวกตนคุยได้ แต่สิ่งแรกคืออย่าให้มีการถกนิรโทษวันที่ 7 ส.ค.นี้ ซึ่งถ้ายังเดินหน้า ตนไม่ต้องไปคุยโต๊ะต่างๆที่จะจัดขึ้น และตนต้องทำอย่างเดียวคือ ลุยในสภาถึงที่สุด
"ขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่ขวางกระบวนการปรองดอง ถ้าหากนายกฯมีคำสั่งให้พรรคเพื่อไทยชะลอนิรโทษกรรมในครั้งนี้ ตนยืนยันว่าจะมีคนจากพรรคประชาธิปัตย์ไปคุยเรื่องนี้วันที่ 7 ส.ค. แน่นอน และตนจะรอฟังคำตอบจากรัฐบาลว่าจริงใจหรือไม่ และถ้าจริงใจให้หยุดกฎหมายล้างผิดเอาไว้ก่อน" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
จากนั้น เวลา 19.45 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การผลักดันออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการจะลบความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำมาโดยตลอด โดยตนคิดว่าหากมีการปล่อยให้กฎหมายล้างผิดฉบับนี้ออกมาใช้บังคับ จะเป็นการทำลายระบบนิติรัฐ และจะทำให้คนที่มีอำนาจรัฐลุแก่อำนาจ ทำผิดเมื่อไหร่ก็จะออกกฎหมายล้างผิดให้กับตัวเองเมื่อนั้น
นายสุเทพกล่าวต่อว่า กรณีที่รัฐบาลออกมาขู่ว่าหากร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ผ่านวาระ 3 ก็จะยุบสภานั้น ตนอยากบอกว่าอยากยุบก็ยุบเลย ยุบพรุ่งนี้ยิ่งดี แล้วตนจะคอยดูว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะได้ไปอยู่บ้านเดียวกับทักษิณที่ดูไบหรือไม่ เพราะสมัยที่พี่ชายยุบสภาก็ไม่ได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการที่นายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่ารัฐบาลมีความอดทนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ประชาชนต่างหากที่เป็นฝ่ายอดทนรัฐบาลในการบริหารประเทศ ไม่ว่าโทษอะไรก็โกงทั้งนั้น
“ผมเชื่อว่าประชาชนที่มีหัวใจในประเทศนี้ เขาอยากล้มรัฐบาลทั้งนั้นเพราะเขาทนไม่ไหวแล้ว แต่คนเหล่านั้นเขาเคารพกฎหมายจึงไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือก่อเหตุ ไม่เหมือนที่คนของเพื่อไทยมาทำกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทั้งนี้ ผมขอประกาศไว้ ณ ที่นี้เลยว่า ผมจะล้มรัฐบาล ผมจะเข้าร่วมกับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกหมู่เหล่า หากรัฐบาลยังไม่หยุดการกระทำลุแก่อำนาจดังกล่าว แต่วิธีของผมจะออกมาล้มรัฐบาลอย่างคนมีศีลมีธรรม หาวิธีที่พวกคุณจะไม่สามารถอยู่ในอำนาจได้อีกต่อไป ผมเคยตั้งใจว่าจะไปสู้กันในสภา แต่ถ้ารัฐบาลใช้อำนาจปราบปรามประชาชนให้บาดเจ็บล้มตายวันไหน วันนั้นผมจะออกล้มรัฐบาลก่อนจะถึงเวลานั้นแน่นอน หากในวันที่ 4-7 ส.ค. นี้ รัฐบาลใช้อาวุธกับประชาชน เราก็จะยกระดับการต่อสู้โดยไม่ต้องให้ พ.ร.บ.นิรโทษฯถึงวาระ 3 แน่นอน แม้ว่า ประชาธิปัตย์เคยประกาศต่อสู้ทุกวิถีทางในสภา แต่ถ้ารัฐบาลพยายามใช้เสียงข้างมากโดยไม่ฟังเสียงของเรา เราก็จะถือว่าระบบรัฐสภาไม่ใช้ทางออกของประเทศไทยอีกต่อไป” นายสุเทพ กล่าวทิ้งทายก่อนยุติการปราศรัย