เก่งแค่ไหน...เราก็เดินได้...ทีละก้าว

 

 

 

 

 

โปรดอย่าลืม...ว่า
...วันหนึ่ง เราจะแก่....
วันหนึ่ง เราจะเจ็บ วันหนึ่ง เราจะตาย
วันหนึ่งเราจะต้อง...พลัดพราก
วันหนึ่งชีวิตจะไม่ใช่...”ของเรา”...โปรดอย่าลืม!

รูปภาพ : "ธรรมะยามเช้า"


เก่งแค่ไหน...เราก็เดินได้...ทีละก้าว
ฉลาดแค่ไหน...เราก็ทานข้าวได้...ทีละคำ
ปราดเปรื่องแค่ไหน...เราก็ใช้ชีวิตได้แค่...ทีละวัน
ทำดีทุกวัน ความชั่วมันจะได้...รอไปก่อน


^_______^ 
BY : เด็กวัด

 

เก่งแค่ไหน...เราก็เดินได้...ทีละก้าว
ฉลาดแค่ไหน...เราก็ทานข้าวได้...ทีละคำ
ปราดเปรื่องแค่ไหน...เราก็ใช้ชีวิตได้แค่...ทีละวัน
ทำดีทุกวัน ความชั่วมันจะได้...รอไปก่อน

 

รูปภาพ : "ธรรมะก่อนนอน"... (นิทานร้อยวัน เรื่องที่34)
 
คืนนี้...ดวงจันทร์มีสีแปลกๆ ทั้งๆที่เป็นวันขึ้น15ค่ำ เพิงไม้เก่าๆแห่งหนึ่งริมกองขยะกลับมีเสียง อ้อแอ้ของเด็ก ดังออกมาเป็นระยะ มีคนใจดำนำเด็กน้อยเพิ่งเกิดมาทิ้งไว้ สิ่งที่ทำให้เด็กน้อยถูกทิ้งก็เพราะความผิดปกติของร่างกาย ชายแก่ที่อยู่ในเพิงพักได้เดินออกมาดูและด้วยความสงสาร เขาจึงเก็บเด็กน้อยร่างกายผิดปกติคนนี้มาเลี้ยงดูเป็นลูก ด้วยความที่ร่างกายของเด็กน้อยผิดปกติชายแก่ จึงไม่อยากให้ผู้อื่นเห็น และเด็กน้อยก็ดูเหมือนจะแพ้แสงแดด ชายชราจึงนำเจ้าเด็กน้อยใส่ไว้ในโอ่งไม้ ที่ตนทำขึ้น 

เจ้าเด็ก ประหลาดดูเหมือนจะชอบที่จะอยู่ในโอ่งไม้จึงไม่ค่อยยอมออกมาจากโอ่งเป็นเวลากว่า10ปี เด็กน้อยใช้ชีวิตอยู่ในโอ่งนานเข้า ชายชราดูเหมือนจะเริ่ม เจ็บออดๆแอดๆ ก็มีเพียงเจ้าโอ่งคนเดียวที่จะพอจะเป็นกำลังสำคัญ คอยดูแลหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูชายชรา ด้วยนึกว่าเป็นพ่อของตัวเอง ดูเหมือนโอ่งไม้ที่เจาะให้มีรูแขนและรูขา จะเป็นเหมือนเสื้อผ้าประจำตัวของเจ้าโอ่งไปแล้วชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ต่างกลัวเจ้าโอ่งหาว่าเป็นตัวซวยของหมู่บ้าน เด็กๆแถวนั้นก็ไม่ยอมที่จะเล่นด้วยเนื่องจากเห็นเป็นตัวประหลาด

 อยู่มานานเข้า...ความเคยชินทำให้เจ้าโอ่ง ไปเรียนหนังสือร่วมกับชาวบ้านได้ เพียงแต่ ไม่มีใครอยากจะพูดคุยด้วยเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าเด็กโอ่งเสียใจหรือร้องไห้ เจ้าโอ่งตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือและด้วยความฉลาดเหนือคนปกติทั่วไปข่าวเริ่มแพร่สะพัด โทรทัศน์หนังสือพิมพ์ ก็มาขอสัมภาษณ์นำเจ้าโอ่งไปออกรายการ เด็กน้อยถูกนำตัวไปโชว์หลายๆแห่งทุกครั้งมีแต่คนถามถึงแต่เรื่องการใช้ชีวิตที่อยู่ในโอ่ง ทุกคนมองเห็นเด็กโอ่งเป็นแค่ตัวประหลาดแปลกๆเท่านั้นเด็กโอ่ง ไม่เคยพูดไม่เคยตอบคำถามแม้แต่คำเดียว จนทุกคนคิดว่าเด็กประหลาดนี้...เป็นใบ้

วันหนึ่ง...มีรายการโทรทัศน์ที่มีผู้ชมทั่วประเทศ นำเด็กโอ่งมาโชว์ตัวและสัมภาษณ์ สิ่งที่เด็กโอ่งตอบเป็นครั้งแรกและทำให้บรรยากาศในห้องส่งเงียบ...ไปในทันที เด็กน้อย! วัยสิบขวบยื่นมือออกมาสิ่งทีอยู่ในมือของเขาคือถุงผ้าเล็กๆ เด็กน้อยหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาอ่านให้ทุกคนฟัง..ข้อความสั้นๆที่อยู่ในกระดาษข้างๆตัว ตอนที่เด็กโอ่งเกิดคือ “ลูกพิการพี่รับไม่ได้นะสงสัยยาทำแท้งเป็นเหตุ เอาเด็กไปทิ้งนะ...สายใจ”

 เด็กน้อยค่อยๆร้องไห้ และพูดตามภาษาเด็กว่า...หนูไม่รู้หรอกว่าทำแท้งคือ...อะไร พ่อแม่ทิ้งผมทำไม สิ่งที่ผมอยากรู้คือ....แม่ อยู่ที่ไหน สบายดีหรือเปล่า ผมเก็บเศษขยะขายมาหลายปีเงินเก็บของผมทั้งหมดพอจะซื้อเวลาซักวินาทีให้ผมเห็นหน้าแม่!ได้ไหมครับ...แม่   ( ฝันดีนะครับ)

^_______^ 
BY : เด็กวัด / 26 พุทธศตวรรษ

 

 

ทุกข์และสุข...ในชีวิต 
เปรียบเสมือน มือซ้าย...และ...มือขวา
มันถูกออกแบบมา ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิต...ทั้งคู่
ความดีและ...ความชั่ว 
เปรียบเสมือน ด้านดี...และ...ด้านเลว
สวรรค์ให้เราเป็นผู้ ออกแบบด้วยตัว...เราเอง 

 

 

รูปภาพ : "วันนี้วันพระ"

ทุกข์และสุข...ในชีวิต 
เปรียบเสมือน มือซ้าย...และ...มือขวา
มันถูกออกแบบมา ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิต...ทั้งคู่
ความดีและ...ความชั่ว 
เปรียบเสมือน ด้านดี...และ...ด้านเลว
สวรรค์ให้เราเป็นผู้ ออกแบบด้วยตัว...เราเอง 

^_______^ 
BY : เด็กวัด

 

 

อย่า คิดว่าตนเองดี หรือวิเศษกว่า...ผู้อื่นเสมอ!
โบราณว่า......เหนือฟ้ายังมีฟ้า 
คนเราแต่ละคนย่อมมีความสามารถ หรือความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันไป ไม่มีใครเก่ง...ไปเสียทุกอย่าง
.... หรือเก่งที่สุดในโลก....

รูปภาพ : "ธรรมะก่อนนอน"... (นิทานร้อยวัน เรื่องที่34)

เย็นวันนี้...หลังจากทางโรงพยาบาลได้เก็บข้าวของใส่กล่องรอญาติมานำของกลับ พยาบาลประจำห้องผู้ป่วยก็เหลือบไปเห็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง วางอยู่บนหัวเตียง มีข้อความเขียนไว้บนปกสมุดสั้นๆว่า “บันทึกของ ไอยลดา”

โลกใบเล็กของเด็กน้อยคนหนึ่ง เป็นโลก...ใบเล็กที่ไม่มีคนอื่น มีเรากับแม่ แค่สองคน จนกระทั่ง วันที่เราต้องห่างกันครั้งแรกที่โรงเรียนเล็กๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีก ในตอนเย็นวันนั้น เราร้องไห้เสียงดัง และแม่ก็อดร้องไห้ ตามเราไม่ได้ เพราะเราไม่เคยต้องห่างกันมาก่อน เวลาผ่านไป เมื่อเราโตขึ้น เราเริ่มห่างแม่ครั้งแรก ไปอยู่ที่หอพัก ใกล้กับมหาลัยแม่เริ่มแก่ลง เราก็ยิ่งห่างแม่ของเรามากขึ้นจะมีก็เพียงวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นที่เรากับแม่จะได้มาเจอกัน

 รู้ตัวอีกที ก็เมื่อเรา เข้าประกวดเราเริ่มห่างแม่มากยิ่งขึ้น เจอท่านน้อยลง...แม่! ก็ยังเป็นแม่คนเดิมคอยมาหาที่กองประกวด เราร้องไห้ แม่ก็อดร้องไห้กับเราไม่ได้ เราสัญญากับแม่จะเอารางวัลจากกองประกวดไปฝากแม่ให้ได้ ครั้งนี้รางวัลที่เราได้รับ...คือการชนะที่หนึ่งในการประกวด ผู้คนเริ่มเข้ามารุมล้อม เรา..อดคิดไม่ได้ว่าความสวยของเราจะทำให้พบคนที่ร่ำรวยและรูปหล่อ 

และแล้วใครคนนั้นก็เข้ามา เราเริ่มห่างแม่ของเราจากเดือนละครั้งเป็นหลายเดือนครั้ง เราคิดไปเองว่าเงินที่ส่งไปให้แม่ทุกเดือน ท่านต้องการมากกว่าเห็นหน้าเรา ทุกวันเราอยู่กับแฟนหนุ่ม เราไปเที่ยวยังที่ต่างๆ เรากับแฟน มีความคิดที่จะแต่งงานกันในอีกไม่นาน และแล้วความผิดปกติก็เกิดขึ้น เราเริ่มเจ็บที่หน้าอกไอแห้งๆทุกวัน วันนี้...เราได้รับข่าวร้ายจากโรงพยาบาลเรื่องการเป็นมะเร็งเต้านมสิ่งที่ทำให้เราตกใจเป็นครั้งแรกของชีวิต แฟนหนุ่มเริ่มออกห่าง จากพบกันทุกวัน เป็นอาทิตย์ละวัน และเป็นเดือนละวัน จนถึงวันนี้ วันที่เราเริ่มฉายแสงรักษามะเร็งผมเราเริ่มค่อยๆร่วง เราเริ่มคิดถึงแม่ๆ จ๋า มาอยู่เป็นเพื่อนหนูหน่อย เหมือนตอนที่หนูยังเป็นเด็กๆมาอยู่กับหนูทุกวันนะแม่ กว่าสองเดือนเรามีแม่อยู่ข้างๆ อาการเราก็เริ่มดีขึ้น ฉันบอกกับแม่ว่าจะขอบวชชีตลอดชีวิต แม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วนะ 

และฉันก็เริ่มบวชเพื่อศึกษา...พระธรรม เราเริ่มรู้แล้วว่าไม่มีใครรักเราเท่าแม่ผู้ให้กำเนิด และแล้วมะเร็งก็ไม่ปราณีใคร แม่ชี ...ไอยลดา! ก็จบชีวิตลง แม่ได้จัดงานศพของเธอและนำอัฐิของเธอมาไว้ที่บ้าน  ทุกวันยังจุดธูป เรียกลูกรักมากินข้าว “ลูกไปสบายนะ” รัก...จากแม่

^_______^ ฝันดีนะขอรับคืนนี้
BY : เด็กวัด

 


คนด้อยกว่า เรานี้...มีมากเหลือ
คนเขาเหนือ กว่าเรา...ก็มีถม
อย่าเย่อหยิ่ง ทรนง...มัวหลงงม
อย่าหลงชม ว่าตัวเด่น...จะเป็นภัย

 

 

รูปภาพ : "ธรรมะยามเย็น"

คนด้อยกว่า เรานี้...มีมากเหลือ
คนเขาเหนือ กว่าเรา...ก็มีถม
อย่าเย่อหยิ่ง ทรนง...มัวหลงงม
อย่าหลงชม ว่าตัวเด่น...จะเป็นภัย

^_______^
BY : เด็กวัด/26 พุทธศตวรรษ

 

..ไม่ว่าบนท้องฟ้า....
ไม่ว่าท่ามกลาง "มหาสมุทร"
ไม่ว่าในหุบเขา ไม่มีแม้แต่แห่งเดียว
ที่ผู้ทำกรรมชั่วอยู่ จะหนีพ้นกรรมไปได้
จงลุกขึ้นเถิด จงประพฤติสุจริตธรรม
เพราะผู้ประพฤติธรรม..."ย่อมอยู่เป็นสุข"

 

รูปภาพ : "ธรรมมะยามเย็น" (เตือนสติ)

....ไม่ว่าบนท้องฟ้า....
ไม่ว่าท่ามกลาง "มหาสมุทร"
ไม่ว่าในหุบเขา ไม่มีแม้แต่แห่งเดียว
ที่ผู้ทำกรรมชั่วอยู่ จะหนีพ้นกรรมไปได้
จงลุกขึ้นเถิด จงประพฤติสุจริตธรรม
เพราะผู้ประพฤติธรรม..."ย่อมอยู่เป็นสุข"

^_______^
BY : เด็กวัด

 

 

 

 

Credit: http://board.postjung.com/695669.html
2 ส.ค. 56 เวลา 10:55 2,658 4 110
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...