สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่าซีเรียยอมเปิดทางให้คณะผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นเดินทางเข้าประเทศ เพื่อตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีใน 3 เมืองแล้ว
นายมาร์ติน เนเซอร์กี โฆษกยูเอ็น แถลงว่าคณะผู้เชี่ยวชาญนำโดยนายอาเค เซลสตรอม ชาวสวีดิช จะเดินทางเข้าไปยังซีเรียภายในสัปดาห์หน้า เพื่อสืบสวนหาร่องรอยการใช้อาวุธเคมี 13 ครั้งตั้งแต่เดือนมี.ค. ในเมืองใหญ่ 3 แห่ง โดยเริ่มจากเมืองข่าน อัล-อัสซาล ใกล้กับเมืองอเลปโป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่กำลังเป็นศูนย์กลางสมรภูมิสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลกับนักรบกลุ่มกบฏ ซึ่งรัฐบาลดามัสกัสรายงานว่า กลุ่มกบฏใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 19 มี.ค. มีผู้เสียชีวิต 26 ศพ ในจำนวนนี้เป็นทหาร 16 ศพ
แม้จะไม่มีการเผยถึงจุดหมายอีก 2 แห่งที่เหลือ แต่ทุกฝ่ายเชื่อว่า น่าจะเป็นกรุงดามัสกัส และเมืองฮอมส์ อย่างไรก็ตาม ทีมผู้เชี่ยวชาญเกรงว่า หลักฐานบางส่วนอาจสูญหายหรือถูกทำลายไป เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไปค่อนข้างนานแล้ว
ทั้งนี้ การประกาศครั้งสำคัญดังกล่าวมีขึ้น หลังเซลสตรอมและทีมงานส่วนหนึ่งเดินทางไปยังซีเรีย เพื่อหารือและร่วมลงนามในข้อตกลงปลดอาวุธเบื้องต้นกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งยับยั้งคำร้องของยูเอ็น เรื่องการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาหลักฐานเรื่องอาวุธเคมีตั้งแต่เดือนมี.ค.