พระมหากษัตริย์ไทย ราชวงศ์จักรี ทุกพระองค์ใช้แซ่แต้ “郑”

 

 

 

พระมหากษัตริย์ไทย ราชวงศ์จักรี ทุกพระองค์ใช้แซ่แต้ “郑”

 

พระป้ายสถิตพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 

 

เมื่อพระเจ้าตากสินกอบกู้เอกราชและขึ้นครองราชย์แล้ว ได้ทรงแต่งทูตไป “จิ้มก้อง” 进贡 ยังประเทศจีน ขณะนั้น ตรงกับรัชสมัยของเฉียนหลงฮ่องเต้ คณะทูตจากสยามประเทศ ได้แจ้งชื่อของพระเจ้าตากสินเป็นสำเนียงแต้จิ๋วว่า “แต่เจียว” 郑昭 ซึ่งราชสำนักเฉียนหลงไม่ยอมรับในตอนแรก เพราะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในช่วงของการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน พระเจ้าตากสินทรงใช้ความอุตสาหะวิริยะต่อมาอีกหลายปี จนที่สุด เฉียนหลงฮ่องเต้ก็ยอมรับ และพระราชทานตราพระราชลัญจกรมหาโลโตแก่พระเจ้าตากสิน ซึ่งตกอยู่ในราว พ.ศ. 2324 พอคณะทูตกลับถึงเมืองไทย

ปีต่อมา พ.ศ. 2325 ก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินอีกแล้ว เป็นราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่1 จึงทรงแต่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับจีนอีก และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง จึงยังคงใช้แซ่แต้ 郑 เหมือนสมัยพระเจ้าตากสิน โดยในพระราชสาส์นแจ้งว่าเป็นพระอนุชาของ “แต่เจียว” ใช้พระนามว่า “ฮั้ว” เรียกเต็มว่า “แต่ฮั้ว” 郑华 ในบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศจีน จุดเอาไว้ว่า พ.ศ. 2325 พระเจ้าเช็งเคี่ยนล้ง ครองราชย์ปีที่ 47 แต้ฮั้ว อนุชา แต้เจียว ได้เถลิงถวัลยราชย์เป็นกษัตริย์ประเทศสยาม และส่งราชทูตไปเจริญพระราชไมตรีเป็นครั้งแรก (จากหนังสือเรื่องประวัติการสัมพันธ์ระหว่างชาติไทยกันชาติจีน โดย ลิขิต ฮุนตระกูล)

จึงกลายเป็นราชประเพณีส่งบรรณาการไปจีน สืบต่อกันมาในรัชกาลต่อ ๆ มา ชื่อกษัตริย์ไทยก็มีชื่อออกสำเนียงแต้จิ๋วกำกับได้แก่ รัชกาลที่ 2 ทรงออกพระนามว่า แต่ฮุก 郑佛 รัชกาลที่ 3 ทรงออกพระนามว่า แต่หก 郑福 และ รัชกาลที่4ทรงออกพระนามว่า แต่เม้ง 郑明 ถึงรัชกาลที่ 4 แต่เมื่อถึงรัชกาลที่ 5 นั้น เพียงแต่กำหนดพระนามเอาไว้ว่า แต้เจี่ย 郑隆 (รัชกาลที่ 6 ทรงออกพระนามว่า 郑宝 รัชกาลที่ 7 ทรงออกพระนามว่า 郑光 รัชกาลที่ 8 ทรงออกพระนามว่า 郑禧 และในหลวงองค์ปัจจุบันทรงออกพระนามว่า 郑固) ทว่ายังไม่ทันจะไดใช้ในพระราชสาส์นส่งไปยังกรุงปักกิ่งเหมือนดังรัชกาลที่แล้วๆมา เพราะในสมัยต้นรัชกาลที่ 5 ยังไม่ทันจะได้มีพระราชสาส์นเจริญพระราชไมตรีเหมือนดังที่ไทยเคยทำเมื่อผลัด แผ่นดิน อันเป็นธรรมเนียมเหมือนแจ้งแก่เพื่อนบ้านว่าบัดนี้เปลี่ยนกษัตริย์แล้ว ทางจีนเกิดเรียกร้องทวงการ จิ้มก้อง เครื่องราชบรรณาการมาก่อน ครั้งนั้นไทยจึงได้ทราบว่าการเจริญพระราชไมตรีโดยการส่งเครื่องราชบรรณาการไปพร้อมพระราชสาส์นนั้น ทางจีนถือว่าเป็นการ จิ้มก้อง เหมือนเช่นเป็นการยอมเป็นเมืองขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไทยจึงงดการติดต่อ (พระราชสัมพันธ์) กับจีนอย่างเป็นทางการ ทว่าบรรดาพ่อค้าวาณิช คนจีนคนไทยก็ยังเป็นเสมือนเดิม

ปล.ในภาพเป็นพระป้ายสถิตพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ด้านหน้าจําหลักข้อความอักษรจีน ออกพระนามจีนของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระนามว่า แซ่ “แต้” ที่ลิ้นด้านในพระป้าย มีข้อความกล่าวว่าทรงได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 พระราชสมภพเมื่อ 15 ค่ํา เดือน 10 (เดือนแปดตามปฏิทินจีน) ปีมะโรง (ปีอู้เฉินตามปฏิทินจีน) เวลา 5 ทุ่ม เสด็จสวรรคต เมื่อพระชนมมายุได้ 57 พรรษา 4 เดือน 5 วัน คํานวณเป็นเวลา 20,943 วัน กับ 1 ชั่วโมง

Credit: http://update.in.th/865
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...