จากกรณีการนิมิตข่าว U.S.FDA กักข้าวไทยไม่ให้เข้าสหรัฐ มาถึงกรณีการจัดทำคลิปอัลเคด้าจัดตั้งหน่วยล่าสังหาร

เด่นชัด

เด่นชัดว่าขบวนการโค่นล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่คำนึงถึง "วิธีการ" ขอเพียงให้บรรลุ "เป้าหมาย" ก็เพียงพอ

ข้อสังเกตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความสำคัญ

"ทำไมต้องชักศึกเข้าบ้าน"

นี่ย่อมตรงกับบทสรุปของ นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต.

"เป็นเสมือนเชื้อไฟเติมเข้ามาในบ้านของตนเอง" อันเท่ากับ "ทำให้สถานการณ์ยุ่งยากเพิ่มขึ้นอีก"

เป็นความยุ่งยากทับซ้อนให้กับสถานการณ์ "ภาคใต้"

คนที่ทำคลิปไม่สนใจว่าพฤติกรรมของตนส่งผลสะเทือนอย่างไร ขออย่างเดียวให้ได้เล่นงาน "ระบอบทักษิณ" ให้ได้บ่อนเซาะรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็พอใจแล้ว

เหมือนกับกรณี "ข้าว"

กรณีของข้าวมีพื้นฐานเบื้องต้นมาจากความเห็นต่างในเรื่องของการประกันราคากับการจำนำ และการทนไม่ได้ที่จะเห็นโครงการจำนำประสบผลสำเร็จ

เพราะหากประสบผลสำเร็จจะมีความต่อเนื่อง 2 ประการสำคัญ

1 ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ขณะเดียวกัน 1 ทำให้คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยทะยานสูง

เหมือนกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

เหมือนกับโครงการพักการชำระหนี้เกษตรกร เหมือนกับโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง

อันทำให้พรรคไทยรักไทยได้ 377 จาก 500 เมื่อปี 2548

ปรปักษ์ของพรรคเพื่อไทย ปรปักษ์ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงระดมพลังจากทุกภาคส่วนเท่าที่มีอยู่มากระหน่ำ

ใช้ทุกวิธีการเพื่อบ่อนทำลาย แม้กระทั่งวิธีสกปรก

อย่างเช่นวิธีปล่อยข่าวว่าข้าวไทยถูก U.S.FDA กัก ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง อย่างเช่นใช้วิธีโพสต์ผ่านโซเซียลมีเดียกล่าวหาว่ามีสารพิษ มีโอกาสตายใน 5 นาที หากกินเข้าไป หารู้ไม่ว่านี่เท่ากับเป็นการทำลายโครงสร้างการค้าข้าว ทำลายอาชีพทำนาของเกษตรกร

เหี้ยมอย่างชนิด "ม." ตกหล่น

น่าแปลกที่ไม่ว่ากรณีการปล่อยข่าวทำลายข้าวไทย ไม่ว่ากรณีการจัดทำคลิปเรื่องอัลเคด้าตั้งหน่วยล่าสังหารล้วนมาจากขุมเดียวกัน

1 เป็นขุมของพวกเกลียดรัฐบาล

เกลียดสิ่งที่เรียกว่า "ระบอบทักษิณ" รังเกียจการดำรงอยู่ในสถานะนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ขณะเดียวกัน 1 เป็นขุมของพวกที่อ้างว่า "รักชาติ"

แสดงความรักชาติตั้งแต่เรื่องปราสาทพระวิหาร แสดงความรักชาติตั้งแต่เรื่องทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

ปากอ้างว่า "รักชาติ" แต่ไม่รัก "ชาวนา"

ปากอ้างว่า "รักชาติ" แต่สมคบกับต่างชาติ สุมหัวกันทำคลิปวิดีโอลากดึงเอาองค์การก่อการร้ายสากลเข้ามาให้สัมพันธ์กับสถานการณ์ในชายแดนภาคใต้ มีเป้าหมายเพื่อล้มการหารือในเรื่องสันติภาพ มีเป้าหมายเพื่อโยนทุกเรื่องเข้าใส่ "ทักษิณ"

เพียงเพื่อ "ป่วน" การเมือง "ภายใน"

พรรคการเมืองใดก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการทำเรื่องเลวร้ายอย่างนี้ องค์กรทางการเมืองใดก็ตามที่ร่วมส่วนกับเรื่องสกปรกอย่างนี้ สมควรถูกประณาม

สมควรต่อต้าน สมควรหยามหมิ่น

จากนี้เห็นได้ว่า การแสดงความรักชาติมิได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่พฤติกรรมเป็นสำคัญ

ความรักชาติในยุคแห่ง "รัฐชาติ" สัมพันธ์กับประชาชน สัมพันธ์กับผลประโยชน์ของชาติของบ้านเมือง ความรักชาติมิอาจโลดลอยจากทุกข์สุขของประชาชนอย่างเด็ดขาด

เว้นแต่พวกที่ "รักชาติ" แต่ปาก