เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก nofishleft.wordpress.com
ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วที่อ่าวเม็กซิโก สหรัฐฯ เมื่อ พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
ในขณะนี้ สถานการณ์น้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด กำลังเป็นประเด็นปัญหาสำคัญซึ่งทั้งชาวไทยและทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจอย่างมาก แต่อย่างที่หลายคนคงจะทราบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ที่ผ่านมาโลกได้เคยเคยมีเหตุรั่วไหลของน้ำมันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว โดยสำหรับครั้งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลกก็คงจะหนีไม่พ้นเหตุน้ำมันดิบรั่วที่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลทั้งต่อระบบนิเวศและกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอพาทุก ๆ คนไปย้อนรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 ที่บริเวณอ่าวเม็กซิโก นอกชายฝั่งสหรัฐฯ ขณะที่คนงานกำลังขุดเจาะน้ำมันที่ระดับความลึก 1,500 เมตร ที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน ดีพวอเทอร์ ฮอไรซอน ของบริษัท บริติช ปริโตเลียม หรือ บีพี ซึ่งบริหารงานโดยบริษัททรานส์โอเชียน แท่นขุดเจาะน้ำมันก็ได้เกิดการระเบิดขึ้น จนแรงระเบิดและเพลิงไหม้ทำให้คนงานเสียชีวิตทันที 11 ราย และบาดเจ็บอีก 17 ราย
หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐฯ และบีพีใช้เวลาดับไฟนานถึง 3 วัน จนกระทั่งแท่นขุดเจาะจมลงสู่ใต้ทะเลเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 เป็นเหตุให้น้ำมันดิบปริมาณกว่า 4.9 ล้านบาร์เรลถูกปล่อยรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก จนระบบนิเวศทางทะเลในบริเวณนั้นถูกทำลายเสียหาย สัตว์ทะเลเสียชีวิตและมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของบีพีทำความสะอาดคราบน้ำมันทั้งหมดและกู้แท่นขุดเจาะที่จมหายไป ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 87 วัน จนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2553