เหตุการณ์ยิงปะทะก่อนจะวิสามัญคนร้ายคดียาเสพติดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ก.ค. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนี ผบก.สกัดกั้นและลำเลียงยาเสพติด บช.ปส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ บช.ปส.กว่า 10 นาย สะกดรอยตามแก๊งค้ายาบ้าที่ขับรถอีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว ทะเบียน กค 7586 นครนายก หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดจากภาคเหนือ ลำเลียงยาเสพติดเข้ากรุงเทพฯ พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ตลาดมหานาค ย่านสะพานขาว เจ้าหน้าที่จึงขับรถประกบปิดหัวปิดท้าย แต่คนร้ายไหวตัวทัน พยายามขับรถหลบหนีไปทางถนนลูกหลวงใกล้แยกเทวกรรม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เจ้าหน้าที่จึงขับรถตามไล่ล่า ใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางรถจนยางแตก แล้วไปจอดสงบนิ่งอยู่ริมถนนข้างบ้านเลขที่ 111 ถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม เขตป้อมปราบฯ

 

เปิดฉากยิงปะทะสนั่น นศ.สาวซวยโดนลูกหลง

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัว แล้วเปิดประตูรถเข้าไปเพื่อจะตรวจค้น กลับถูกคนร้ายที่นั่งอยู่ในรถยิงสวนทะลุกระจกออกมา เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ แล้วต่างฝ่ายก็เปิดฉากยิงเข้าใส่กันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวนานกว่า 10 นาที ท่ามกลางความแตกตื่นของชาวบ้าน และผู้สัญจรไปมาที่พากันมามุงดูเหตุการณ์ บางส่วนเห็นท่าไม่ดีวิ่งไปหลบอยู่ตามกระถางต้นไม้ เจ้าหน้าที่ บช.ปส.จึงแจ้งวิทยุสื่อสารขอกำลังเสริมจากตำรวจสายตรวจ สน.นางเลิ้ง พร้อมปิดล้อมเพื่อกันไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่ามีนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร นั่งรับประทานข้าวเฉโปอยู่ที่ร้านฝั่งตรงข้าม ถูกกระสุนลูกหลงเข้าที่แก้ม ได้รับบาดเจ็บ หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำส่งรพ.หัวเฉียว

 

 

วิสามัญม้งดับคาที่ อึ้งเจอทารกนอนจมเลือด

 

เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ บช.ปส.เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบคนขับรถชื่อนายพิเชษฐ์ ดอกไม้พุ่ม 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 1 อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี  ได้รับบาดเจ็บ ตกลงมานอนอยู่ข้างรถอาการสาหัส แพทย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.หัวเฉียว ส่วนชายชาวม้งที่นั่งมาด้วยเสียชีวิตอยู่เบาะหลัง นอกจากนี้ยังพบเด็กชายวัย 3 เดือน นอนจมกองเลือดอยู่ที่เบาะด้านหลังด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพนำส่ง รพ.หัวเฉียว อาการปลอดภัย พบว่าเด็กน้อยไม่ได้ถูกกระสุนปืน เพียงแต่โดนเลือดของคนร้ายไหลมาเปรอะเปื้อนตัวเท่านั้น มีรายงานด้วยว่า ระหว่างตำรวจยิงประทะกับคนร้ายชาวม้งอยู่นั้น คนร้ายได้อุ้มเด็กน้อยแนบตัวไว้เพื่อเป็นตัวประกันด้วย เคราะห์ดีที่หนูน้อยไม่เป็นอะไร

               

 

ค้นรถพบยาบ้า-ไอซ์ซุกตู้ลำโพงอื้อ

 

ต่อมา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.พร้อมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และร.ต.ท.ภูวิศ ศรีอ่อน พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา ที่เกิดเหตุพบรถอีซุซู มิวเซเว่น สีขาว ทะเบียน กค 7586 นครนายก มีรอยกระสุนปืนบริเวณกระจกหน้า และกระจกข้างซ้ายของรถนับสิบรอยจนกระจกบางส่วนแตกละเอียด ที่เบาะนั่งด้านหลังพบศพชายชาวม้ง มีบาดแผลที่กกหูซ้าย 1 นัด ด้านหลังศีรษะ 1 นัด บนเบาะนั่งพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ ด้านหลังรถพบกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ข้างกล่องเขียนว่า ส่งคืนคุณกาญจนาศรี ยุทธตรา หจก.กิ๊ปโปร ไทยแลนด์ แยกมหานาค เบอร์โทรฯ (ขอสงวนหมายเลข) ภายในเป็นตู้ลำโพง ซับเบส เมื่อแกะดูในตู้ลำโพงพบยาบ้าของกลางรวม 136,000 เม็ด ยาไอซ์ 8 กิโลกรัม มีตราสัญลักษณ์ 999 ของเครือข่ายนายพลยี่เซ ซุกซ่อนอยู่

 

ชี้เป็นเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ ลำเลียงจากภาคเหนือ

 

พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกัดกั้นและลำเลียงยาเสพติด บช.ปส.เปิดเผยว่า ทางการข่าว ปส.ระบุว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ จึงวางกำลังดักสะกดรอยตามมาถึงตลาดมหานาค กระทั่งคนร้ายเกิดไหวตัวทันขับรถหนีมาที่จุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปส.พยายามใช้รถปิดเส้นทาง คนร้ายก็ขับหลบหนีอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางล้อจนแตกทั้งสี่เส้นแล้วเข้าประชิดรถ กลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสวนออกมาหลายสิบนัดจึงเกิดการปะทะกันขึ้น พอสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์ พบเด็กชายวัย 3 เดือนซึ่งเป็นลูกของคนร้ายนอนจมกองเลือดอยู่จึงรีบนำส่งรพ.อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นภายในรถยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง กุญแจรถยนต์ 4-5 ดอก และบัตรเอทีเอ็ม 10 ใบ ซึ่งจะได้ตรวจยึดเพื่อนำไปขยายผลต่อ

                               

 

คนร้ายอีกรายสาหัส-ทารกปลอดภัย-นศ.สาวหนักถูกยิงเข้าปาก

 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบผู้ได้รับบาด ที่รพ.หัวเฉียว หลังเกิดเหตุการณ์ยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่บช.ปส.กับแก๊งคนร้ายค้ายาเสพติด ภายในห้องฉุกเฉินพบคณะแพทย์กำลังระดมช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 3 ราย ประกอบด้วยนายพิเชษฐ์ ดอกไม้พุ่ม อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ต้นแขนขวา 5 นัด มีแผลฉกรรจ์ที่ขากรรไกร 1 แผล ใกล้กันพบแพทย์กำลังช่วยทำแผลเด็กทารกเพศชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 3-4 เดือน ถูกเศษกระจกรถยนต์บาดที่หน้าผากถลอกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีกราย ทราบชื่อ น.ส.สมฤดี วนะวนานต์ อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ชั้นปีที่ 4 คณะศิลปศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนยิงถากเข้าที่ปากด้านซ้าย ขณะที่ภายนอกห้องฉุกเฉิน มีญาติ และเพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัยเดินทางมาดูอาการ น.ส.สมฤดี ด้วยความเป็นห่วง

 

 

แพทย์ระบุ ต้องผ่าตัดขากรรไกรคนร้าย ส่วน นศ.ท่อน้ำลายขาด

 

นพ.ไพโรจน์ ชัยกิตติศิลป์ แพทย์หัวหน้าแผนกศัลยกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางแพทย์ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมด อาการค่อนข้างปลอดภัยแล้ว ที่หน้าเป็นห่วงมีเพียงจะต้องผ่าตัดขากรรไกร นายพิเชษฐ์ แล้วรอดูอาการต่อไป ส่วน น.ส.สมฤดี ขณะนี้ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เนื่องจากบาดแผลที่ปากส่งผลให้ท่อน้ำลายฉีกขาด ขณะที่ทารกวัย 3-4 เดือน บาดเจ็บเล็กน้อยอยู่ระหว่างรอญาติมารับกลับบ้าน

 

 

เพื่อนเผย โดดหนีห่ากระสุนจ้าละหวั่น

 

ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.ณัฏฐา พิมพ์สดใส อายุ 19 ปี รุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับผู้บาดเจ็บ และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นเวลาเลิกเรียนวิชาภาคเช้า นักศึกษาทุกคนลงมาจากอาคารเรียนเพื่อจะไปรับประทานอาหาร ตนพร้อมด้วย น.ส.สมฤดี และกลุ่มเพื่อนเดินไปที่ร้านอาหารตามสั่ง ชื่อร้าน“เจ๊เหวี่ยง”ซึ่งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ขณะกำลังยืนสั่งอาหารอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นบริเวณฝั่งตรงข้ามถนน 3-4 นัด ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันวิ่งหลบโกลาหล ตนรู้สึกเหมือนมีกระสุนผ่านหน้าไป 1 นัด พอเสียงปืนเงียบลง พบว่า น.ส.สมฤดี มีบาดแผลที่แก้มด้านซ้าย และเลือดไหลเต็มปาก เจ้าของร้านจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มารับตัวไปส่ง รพ.หัวเฉียว ดังกล่าว 

 

 

“พงศพัศ” รุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บจ่อย้ายไป รพ.ตำรวจ

 

จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการ ป.ป.ส.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.เดินทางไปเยี่ยม น.ส.สมฤดี วนะวนานต์ หรือน้องกิ๊ฟ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณใบหูทางด้านซ้ายทะลุแก้ม มีนางอุ่นจิต วนะวนานต์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่สถิติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ มารดา เข้าเยี่ยมอาการด้วย

               

โดย พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ น.ส.สมฤดี กำลังนั่งรับประทานข้าวอยู่ ห่างจากที่เกิดเกตุประมาณ 100 เมตร แล้วถูกลูกหลง ถูกกระสุนที่บริเวณใบหูทางด้านซ้าย ทะลุมาที่แก้ม และไม่มีกระสุนฝังอยู่ ขณะนี้ได้รับการดูแลเบื้องต้นจากแพทย์เป็นอย่างดี ซึ่งแม่น้องได้มาเยี่ยมด้วย โดยทางแพทย์จะเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เหลือ ประกอบด้วย นายพิเชษฐ์ ดอกไม้พุ่ม อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่ขับรถ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณคาง ปาก และแขนด้านขวา อาการปลอดภัย  และเด็กทารกน้อยวัยประมาณ 4 เดือน บาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกกระจกบาด โดยทางเจ้าหน้าที่จะย้ายผู้ที่บาดเจ็บทั้งหมดไปรักษาที่รพ.ตำรวจต่อไป  ทั้งนี้ ทางสำนักงาน ป.ป.ส. และสตช. จะเข้ามาดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด เบื้องต้น ได้มอบเงินเยียวยาช่วยเหลือ จำนวน 5 หมื่นบาท และจะดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าน.ส.สมฤดีจะหายดี 

               

 

แม่เหยื่อลูกหลงร่ำไห้ เน้นตั้งสติ

 

ขณะที่ นางอุ่นจิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทราบเรื่องจากอาจารย์ของน้องโทรศัพท์มาบอก จึงรีบเดินทางมาเยี่ยม ขณะนี้ น้องมีอาการรู้สึกตัวดี สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ รู้สึกเจ็บก็จะบอก โดยทางแพทย์บอกว่าต้องรอดูอาการน้องกิฟให้ดีก่อน ว่าจะรักษาตัวนานแค่ไหน หลังเกิดเหตุรู้สึกใจหาย ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น  แต่เมื่อเกิดแล้วก็ต้องรับทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และตั้งสติ

               

 

จู่โจมค้นขนส่งเจอยาอีกเพียบ ยันส่งแล้วกว่า 10 ครั้ง

พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. นำกำลังเจ้าหน้าที่บช.ปส.เดินทางมายังบริษัท นิ่มซี่เส็ง ขนส่ง จำกัด ใกล้แยกมหานาค แขวงมหานาค เขตดุสิต เพื่อทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 142,000 เม็ด และยาไอซ์  7 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในลำโพงยี่ห้อ เอเจ จำนวน 2 กล่อง โดยมีชื่อผู้รับคือ นายกลยุทธ คำศรีลา ส่วนผู้ส่งใช้ชื่อ นาย ประสิทธิ์ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งส่งมากจาก จ.เชียงราย ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าชื่อของนายประสิทธิ์ มีการส่งของมายังบริษัทดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ในระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา.