เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ คำบุญเรือง สารวัตรเวร สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตเพราะต้นไม้ล้มทับพื้นที่บ้านห้วยน้ำอุ่น ม.21 ต.วาวี อ.แม่สรวย จึงพร้อมด้วย ร.อ.พิษณุ แก้วประดิษฐ์ ผบ.หน่วยพื้นที่ดอยวาวี ร.17 ไปตรวจสอบพบที่เกิดเหตุเป็นไร่ข้าวโพดบนภูเขาสูงชันส่วนจุดที่พบศพเป็นทางเดินเท้าลัดเลาะไปตามภูเขา โดยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุชื่อนางอาจู เซอมือ อายุ 55 อยู่บ้านเลขที่ 10 คน ชาวอาข่าอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านดังกล่าวสภาพถูกต้นเต็งขนาดใหญ่ล้มทับร่างกายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คนชื่อ น.ส.อารีย์ เลเซอะ อายุ 24 ปี ลูกสาวของนางอาจู ถูกต้นไม้ทับตามร่างกายและศีรษะจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล อ.แม่สรวย แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่กำลังเดินไปทำไร่ข้าวโพดที่เนินเขาห่างจากหมู่บ้านออกไปเล็กน้อย แต่เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินที่ยึดต้นไม้ที่ยืนต้นเรียงรายอยู่ที่เนินเขาข้างทางเดินไม่สามารถอุ้มน้ำเอาไว้ได้ และเกิดโค่นต้นลงมาจนทับกับร่างของสองแม่ลูกพอดี หลังจากตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่ได้มอบให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณี ขณะที่สถานการณ์ดินสไลด์ในพื้นที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องโดยที่หมู่บ้านดอยช้าง ม.3 ต.วาวี เกิดดินสไลด์ภายในหมู่บ้านแต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหน่วยพื้นที่พิเศษดอยวาวี ร.17 ได้ระดมกำลังกับฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปขุดตักดินออกจากพื้นที่อยู่อาศัยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันระดับน้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ริมฝั่งตลาดสายลมจอยหน้าด่านพรมแดนวัดระดับน้ำลึกได้ประมาณ 2.45 เมตร ใกล้เคียงจุดวิกฤตที่ตั้งกันเอาไว้ที่ 2.50 เมตร ทำให้เทศบาล ต.แม่สาย แจ้งให้ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าได้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดชายแดนฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ในที่ต่ำกว่าได้ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้างแล้วโดยน้ำลึกตั้งแต่ 30-50 ซ.ม. ทำให้ร้านค้าจำนวนมากต้องเก็บสินค้าไปไว้บนที่สูง