เอเจนซี - เหล่าชาติละตินอเมริกาต้องเผชิญกับหิมะและอุณหภูมิบางพื้นที่ดำดิ่งต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดยสภาพอากาศหนาวเหน็บที่พาดผ่านมาจากทวีปแอนตาร์กติกานี้ส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ไม่ว่าจะเป็นอุรุกวัย ชิลี อาร์เจนตินา ปาราวัยและบราซิล คร่าชีวิตผู้คนรวมแล้วกว่า 10 ศพ
รายงานข่าวเมื่อวันศุกร์(26) ระบุว่าพื้นที่บางส่วนของบราซิล อุณหภูมิลดต่ำถึง -7.4 องศาเซลเซียส ขณะที่ในเซาเปาลู วัดอุณหภูมิได้ต่ำสุด 5.2 องศาเซลเซียส ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 โดยสภาพอากาศอันหนาวเหน็บเป็นภัยคุกคามแก่คนเร่ร่อนหลายพันราย
หิมะกองอยู่ตรงตีนเขาแห่งหนึ่งในเมืองกูรีตีบา รัฐปารานา ประเทศบราซิล โดยเมืองแห่งนี้ไม่เคยมีหิมะตกลงมานาน นับตั้งแต่ปี 1975
อย่างไรก็ตามสภาพภูมิอากาศดังกล่าวกลับกลายเป็นความสุขของผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง ด้วยพบเห็นชาวบราซิลหลายคนพากันถ่ายภาพลูกๆหลานๆที่กำลังปั้นตุ๊กตาหิมะบนท้องถนนและโพสต์ภาพลงบนอินเตอร์เน็ต ขณะที่บางรัฐของบราซิล ไม่ได้พบเห็นหิมะมานานหลายปีแล้ว
กระนั้นในบราซิล ก็พบประชาชน 3 รายเสียชีวิตจากสภาพอากาศเลวร้ายดังกล่าว อันเป็นจำนวนเดียวกับในอุรุกวัย ชาติเพื่อนบ้าน แต่ก็มีคำเตือนว่ายอดอาจพุ่งสูงกว่านี้ แม้มีพยากรณ์ว่าอุณหภูมิจะอุ่นขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์
ส่วนที่ปารากวัย รายงานของตำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์(26) ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำ เพิ่มเป็น 4 ศพแล้ว หลังอุณหภูมิเฉลี่ยในประเทศแห่งนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ระหว่าง 0 ถึง 10 องศาเซลเซียส
ชาวบราซิลบางส่วนตื่นเต้นกับหิมะที่ตกลงมา
เหยื่อรายล่าสุดเป็นชาย 87 ปี ถูกพบเสียชีวิตในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(25) ในสภาพนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองคาบัลเลโร ทางตอนใต้ของประเทศ
ก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดี(25) ตำรวจรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย 3 คน เหยื่อคนแรกเป็นชายชราวัย 62 ปี ซึ่งเสียชีวิตที่เหมืองชิวดัดเดลเอสเต จังหวัดอัลโตปารานา ห่างจากเมืองหลวง ไปทางตะวันออกราว 330 กิโลเมตร
ส่วนคนที่ 2 เป็นชายวัย 55 ปี เสียชีวิตที่กรุงอะซุนซิออง ขณะที่อีกคนเป็นชายสูงอายุ 93 ปี สิ้นลมในเมืองซาน โลเรนโซ รอบนอกเมืองหลวง โดยทั้ง 3 คนเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำเมื่อวันอังคาร (23) ด้วยที่วันดังกล่าวอุณหภูมิสภาพอากาศในพื้นที่แถบนั้น ลดต่ำแตะระดับ -4 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
สหภาพเกษตรกรปารากวัยคาดหมายว่า สภาพอากาศอันเลวร้ายนี้ที่พบเห็นน้ำค้างแข็งปกคลุมพื้นที่การเกษตรบริเวณกว้างจะสร้างความเสียหายแก่พืชผลอย่างร้ายแรง หลังจากก่อนหน้านี้ทางการคาดหวังไว้ว่าผลผลิตทางการเกษตรจะทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล โดยเฉพาะจากข้าวและเมล็ดพืชน้ำมัน
เหตุนี้เองจึงคาดหมายว่ามันอาจส่งผลประทบต่อการเติบโตของประเทศด้วย หลังจากก่อนหน้าที่สภาพอากาศหนาวเหน็บปกคลุม ธนาคารกลางของปารากวัยประมาณการณ์ว่าจีดีพีของประเทศจะขยายตัวถึงร้อยละ 13 ถึง 15
ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กระจายกำลังในปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ยากจนตามเมืองต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ ขณะที่เหล่านักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าอากาศจะอุ่นขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้
อ้างอิง ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
อ่านข่าวทั้งหมด ข่าว หนังสือพิมพ์ ข่าววันนี้ ข่าวบันเทิง ข่าวดารา ข่าวการเมือง ข่าวด่วน