สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานข่าวพฤติกรรมอื้อฉาวของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ หรือ "สมีคำ" หลังถูกเปิดโปงการกระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างหนักชนิดอื้อฉาวที่สุดของวงการสงฆ์ไทย เริ่มจากคลิปอื้อฉาวที่พบว่านั่งเครื่องบินเจ็ต อ้างว่าเพื่อปฏิบัติกิจนิมนต์ แต่แต่งกายอย่างหรูหรา ด้วยการใส่แว่นตาดำ และใช้กระเป๋าหรู "หลุยส์ วิตตอง"

โดย "เดลี่ เทเลกราฟ" รายงานว่า หลังจากถูกเปิดโปงว่าได้สั่งสมทรัพย์สินมโหฬารกว่า 1 พันล้านบาท ทำให้ทางการไทยมีหมายจับหลังจากได้มีการประกาศสึกเณรคำ หรือนายวิรพล สุขผล และฝ่ายหลังได้หลบไปอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนายวิรพลอ้างว่าได้ถูกเชิญไปกระทำกิจนิมนต์ โดยหมายจับดังกล่าวมาเกิดขึ้นหลังมีการตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ตั้งแต่ข่มขืน ยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกงให้ญาติโยมบริจาคทรัพย์ รวมทั้งยังถูกตรวจสอบในข้อหาหนักอื่นๆ ด้วย เช่น ฟอกเงิน ค้ายาเสพติด ขับรถชนคนตาย และทางการไทยยังต้องการจะรู้ว่าสมีคำมีทรัพย์สินเป็นจำนวนทั้งหมดเท่าใดแน่ และรายงานระบุว่า นายวิรพลได้เดินทางเข้าไปอยู่ในสหรัฐแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเขาพำนักอยู่ที่เมืองใด

รายงานยังระบุว่า จากการเปิดเผยของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ของไทย ซึ่งเหมือนหน่วยงาน "เอฟบีไอ" ของสหรัฐ ยอมรับว่าคดีนี้อื้อฉาวมากกว่าคดีสงฆ์ที่ผ่านมาๆ เพราะนายวิรพลมีพฤติกรรมกระทำผิดในหลายข้อหาหนัก และถือว่าเขาได้สร้างความเสียหายแก่สังคมไทยอย่างกว้างขวางมาก ส่วนสำนักงานป้องกันและการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้พบบัญชีลับทางธนาคารจำนวน 41 บัญชีของนายวิรพล โดยในหลายบัญชีมีเงินรวมกันกว่า 200 ล้านบาท ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้ต้องสงสัยว่าจะเป็นการดำเนินธุรกรรมฟอกเงิน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ไทยยังพบว่านายวิรพลเคยขับรถหรู "วอลโว่" ชนคนตาย เมื่อ 3 ปีก่อนด้วย และว่า ตั้งแต่ปี 2009-2011 สมีคำได้ซื้อรถกว่า 70 คัน จำนวนนี้เป็นรถเบนซ์จำนวน 22 คัน เป็นเงินกว่า 95 ล้านบาท และบางคันเขาได้บริจาคให้แก่พระสงฆ์ชั้นอาวุโสเป็นของขวัญ ขณะที่หลายฝ่ายบอกว่า เขาซื้อรถเหล่านี้จากตลาดมืดเพื่อฟอกเงิน

นอกจากนี้ เหล่านักบินส่วนตัวของเขายังสงสัยว่า เพราะเหตุใด "อดีตหลวงปู่เณรคำ" ถึงมีเงินมากมาย เพราะการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวแต่ละเที่ยวถือว่าต้องใช้เงินมาก หรือตกครั้งละ 3 แสนบาทต่อเที่ยว และสิ่งที่ชวนตะลึงที่สุดก็คือ สิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยแบงก์ 100 ดอลลาร์ เป็นปึกๆ ขณะเดียวกัน เดลี่ เทเลกราฟ ยังระบุด้วยว่า จากการเปิดเผยของอดีตลูกศิษย์ผู้รับใช้อดีตหลวงปู่เณรคำ บอกว่า เสียงของเขาสามารถสะกดผู้คนได้ และเมื่อเขาเทศน์เสร็จ ญาติโยมก็จะแห่มาถวายเงินและปัจจัยต่างๆ และญาติโยมบางรายรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนถูกทรยศ เพราะพวกเขาเชื่อในคำเทศน์ของอดีตหลวงปู่เณรคำมาตลอด

ด้าน "เดลี่ เมล์" รายงานว่า แหล่งข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยต่อดีเอสไอว่า ขณะนี้อดีตหลวงปู่เณรคำได้พำนักอยู่ในสหรัฐ ในวัดแห่งหนึ่งห่างจากเมืองลอสแองเจลิส ราว 75 ไมล์ ที่เขาเป็นเจ้าของ หรืออยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ดีเอสไอระบุว่า พบว่าเมื่อเร็วๆ นี้ เงินในบัญชีของนายวิรพลเกือบ 300 ล้านบาท ได้หายไปจากบัญชี ในช่วงที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบเงินของเขา นอกจากนี้ ดีเอสไอยังเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ดีเอสไอได้แจ้งต่อหน่วยงานสถาบันการเงินกว่า 114 แห่ง รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของเขา รวมทั้งยังเรียกร้องให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐเพิกถอนวีซ่าของนายวิรพล และหากทางการสหรัฐจับกุมตัวเขาได้ ก็จะขอให้ช่วยส่งตัวเขากลับมายังเมืองไทยเพื่อรับการดำเนินคดีต่างๆ ด้วย