อ้างล้างแค้นให้มุสลิมใต้ ภราดรจี้'ไอซีที'สอบที่มา สงสัยปล่อยจากนอกปท. พูดอาหรับแต่ทำไม่เนียน หน้ากากขาวแชร์สนั่นเว็บ
ชาวเน็ตแห่จับพิรุธคลิปวิดีโอ 'อัล ไคด้า' สั่งฆ่า'แม้ว' แฉมีคนร่วมผลิตแค่ 4 คน ใช้กล้องมือถือ 'แบล็กเบอร์รี่' ถ่าย เลขาฯ สมช.ยันของปลอม ฝีมือกลุ่มที่อยากโค่นทักษิณ เพราะปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ไม่เกี่ยวกับกลุ่มอัลไคด้า จี้ไอซีทีหาต้นตอ เผยเหตุรุนแรงลดลงในเดือนรอมฎอนเป็นเหตุผลที่มาเลย์ฟันธง ไฟใต้ดับภายใน 2-3 ปี 'อ๋อย' ลงปัตตานี รับฟังปัญหาและปลอบขวัญครูใต้ พร้อมขอคำชี้แนะจากผู้นำศาสนา 5 จว.ใต้ เบตงยิงดับครูสอนศาสนา ตร.มุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว เพราะไม่ใช่จุดเสี่ยงเหตุรุนแรง
วันที่ 27 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้นามว่า mansoor ahmed volvo โพสต์คลิปวิดีโอลงในเว็บไซต์ยูทูบโดยใช้หัวข้อ "Al-Qaeda video against former Thailand Prime Minister Thaksin Shinawatra." แปลเป็นไทยว่า "คลิปวิดีโอจากอัลไคด้า เพื่อต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย" ความยาว 2.45 นาที จำนวน 2 คลิป มีเนื้อหาเหมือนกัน
เนื้อหาในคลิปถูกแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกปรากฏภาพชายชุดเสื้อคลุมคล้ายชาวอาหรับพร้อมผ้าคลุมหน้า โดยชายคนหนึ่งถืออาวุธปืน ขณะที่อีกคนหนึ่งถือกระดาษพิมพ์ภาพ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีชายคนกลางอ่านแถลงการณ์เป็นภาษาต่างประเทศ ช่วงที่ 2 ของคลิป ปรากฏชายสวมชุดคลุมสีขาวเปิดหน้า มีหนวดเครา ชูภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเสียงภาษาอังกฤษอ่านประกอบ แปลเป็นภาษาไทยว่า ทักษิณ ชินวัตร เวลาของคุณหมดลงแล้ว สิ่งที่คุณได้ทำไว้กับพี่น้องชาวมุสลิมของเราในภาคใต้ของประเทศไทย
"ตอนนี้ถึงเวลาต้องชำระความแล้ว คุณได้สังหารพี่น้องชาวมุสลิมของเราในภาคใต้ของไทย และคุณได้สั่งให้มีการโจมตีมัสยิดกรือเซะในเมืองไทยในการลุกฮือขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) และเข่นฆ่าชาวมุสลิมผู้บริสุทธิ์ ตอนนี้คุณยังดำเนินนโยบายอันโหดร้ายในภาคใต้ของไทย ผ่านรัฐบาลที่ดำเนินการโดยน้องสาวของคุณ คุณจะเห็นทีมล่าสังหาร (Dead Squad) ด้านหลังของผม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราขอแจ้งเตือนคุณไว้ก่อนว่าเราจะพยายามสังหารคุณทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าที่ไหนในโลก คุณจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เราจะฆ่าคุณเพื่อล้างแค้นให้กับพี่น้องชาวมุสลิมของเรา และขอเรียกร้องให้ชาวมุสลิมทั้งหมดทุกชาติในโลกให้จดจำคุณและสังหารคุณในทุกที่" ชายในคลิปกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า คลิปดังกล่าวได้ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 26 ก.ค. เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 64 ปี ของ พ.ต.ท. ทักษิณ อีกทั้งคลิปดังกล่าวไม่ชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลไคด้า องค์การก่อการร้ายข้ามชาติระดับโลกจริงหรือไม่ ขณะที่ในสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊กมีการแชร์คลิปดังกล่าว วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลายว่าเป็นคลิปที่ทำขึ้นจริงหรือไม่
วันเดียวกันหลังมีกระแสข่าวคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ผู้ที่ท่องอินเตอร์เน็ตจำนวนมากต่างจับพิรุธคลิปวิดีโอดังกล่าว โดยระบุว่า หากเป็นเครือข่ายระดับโลกจริง สำนักข่าวต่างประเทศนำเสนอก่อนแล้ว แต่กลับมีเพียงหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง และทีวีดาวเทียมอีกช่องหนึ่งเป็นผู้รายงานข่าวดังกล่าว และพฤติกรรมการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ จะไม่สมัครชื่อผู้ใช้งานเว็บไซต์ยูทูบใหม่ทุกครั้งไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า คลิปดังกล่าวไม่ได้ถูกผลิตขึ้นจากเครือข่ายระดับโลกแต่อย่างใด
เว็บเพจ Go6 TV Community จับพิรุธคลิปดังกล่าวว่า คลิปดังกล่าวน่าจะถูกผลิตขึ้นเองจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลระบอบประชาธิปไตยในไทย โดยถูกอัพโหลดขึ้นสู่ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต วันที่ 27 ก.ค. เวลา 02.36 น. ตามเวลาในประเทศไทย และไม่ได้ถูกโพสต์ในวันที่ 26 ก.ค. อย่างที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง และทีวีดาวเทียมอีกช่องหนึ่งรายงาน โดยระบุว่าบิดเบือนเพื่ออ้างว่าตรงกับวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมระบุว่าคลิปดังกล่าวมีกลุ่มบุคคลในการจัดทำคลิปไม่น้อยกว่า 4 คน เบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัยรวมทั้งสิ้นจำนวน 18 คน รวมทั้งคลิปดังกล่าวถูกถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็กเบอร์รี่ โดยคลิปดังกล่าวถูกปล่อยเพื่อหวังผลทางการเมืองต่อเนื่องเป็นคลิปที่ 2 เพื่อโจมตี พ.ต.ท. ทักษิณในระยะเวลา 60 วัน
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช. ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นคลิปที่ไม่จริง เมื่อดูเทียบกับคลิปแถลงการณ์อื่นๆ ของอัลไคด้าจะรู้ว่าคลิปดังกล่าวไม่เนียน คนทำแค่ไปหาคนที่มีลักษณะเป็นชาวอาหรับและพูดภาษาอาหรับได้ มาแต่งตัวถือปืนยืนหน้ากล้องวิดีโอ ซึ่งคนแบบนี้หาไม่ยาก เมื่อฟังเนื้อหาดูก็รู้ว่าพูดไม่ราบรื่น น้ำเสียงไม่มีอุดมการณ์เหมือนกลุ่ม อัลไคด้า
"คนที่ทำคลิปนี้ขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นกลุ่มคนที่อยากโค่นพ.ต.ท.ทักษิณกลุ่มเดิม พอคลิปออกมา พวกหน้ากากขาวก็เอามาโพสต์ลงเฟซบุ๊กกันเต็มไปหมด รับลูกกันเป็นทอดๆ ยิ่งเป็นทักษิณคนพวกนี้ยิ่งคุยสนุกกันมันปาก แต่ข้อเท็จจริงของปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ก็ไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มอัลไคด้า และไม่ใช่ปัญหาของพ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว แต่เป็นปัญหาภายในรัฐไทยกับกลุ่มขบวนการที่เป็นชาวมลายู" พล.ท.ภราดร กล่าว
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ต้องให้ทางกระทรวงไอซีทีตรวจสอบที่มา แต่คาดว่าคลิปนี้ถูกเผยแพร่จากต่างประเทศเข้ามามากกว่า เพราะคนคิดทำเรื่องนี้คงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ ถ้าทำในไทยถูกจับแน่นอน และคงไม่ต้องรายงานให้ทางผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพของมาเลเซีย และกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะเขาเข้าใจตลอดว่าปัญหาสามจังหวัดไม่เกี่ยวกับกลุ่มอัลไคด้า รวมถึงทราบดีถึงปัญหาการเมืองในไทยว่าขณะนี้มีขบวนการที่ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลา
พล.ท.ภราดรกล่าวถึงกรณีที่ประเทศมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติภาพ ระหว่างฝ่ายไทยกับกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น ประเมินสถานการณ์ภาคใต้ของไทยว่า ภายในเวลา 2-3 ปี สถานการณ์รุนแรงในพื้นที่จะสงบลงว่า ที่เขามองเช่นนั้นสืบเนื่องมาจากการพูดคุยข้อตกลงลดเหตุความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอนของปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้เกิดเหตุการณ์ 5-6 เหตุการณ์ จากที่เคยเกิดเหตุเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ส่วนบางเหตุการณ์ที่เกิด มีกลุ่มขบวนการอื่น เช่น กลุ่มพูโล ที่ต้องการแสดงออกให้เห็นว่าเขายังมีศักยภาพ และส่งสัญญาณการเข้าร่วมพูดคุยกับฝ่ายไทย แต่ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะสงบลง แต่การพูดคุยสันติภาพยังต้องเดินหน้าต่อไป
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ส่วนที่เกิดคำถามว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้มาเลเซียระบุว่า เหตุการณ์จะสงบลงนั้น ประเมินว่าเป็นแพราะเวลาอีกไม่นานที่เราจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ไม่มีประเทศใดที่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะหากพื้นที่มีความแข็งแรงและมีศักยภาพในการบริหารงาน จะสร้างแหล่งเที่ยวเที่ยวและช่องทางเชื่อมต่อกันในภูมิภาคขึ้น และทำประชาคมในอาเซียนแข็งแรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นวิถีบังคับให้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ขจัดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้การพัฒนาชะงักลง
"ปัญหาความไม่สงบแม้จะเป็นเรื่องภายในของไทย แต่มาเลเซียต้องมาช่วยกันเพื่อให้เกิดการพัฒนา จึงมองกันว่าเมื่อร่วมกันขจัดอุปสรรค ยกตัวอย่างข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา ที่เรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาลโลก แต่ทั้งสองประเทศยังมีความร่วมมือกันพัฒนาในเรื่องอื่นๆ กรณีไทยกับมาเลเซียเช่นเดียวกัน ที่ต้องช่วยกันเพื่อให้พื้นที่เกิดความสงบ ทั้งนี้ผลจากการพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็นขณะนี้ปรากฏข้อเท็จจริงมาแล้วว่า เหตุการณ์ในพื้นที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อย และบางครั้งพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ฝีมือของบีอาร์เอ็น แต่มาจากกลุ่มเล็กอื่นๆ หรือปัจจัยภัยแทรกซ้อน" เลขาฯ สมช.กล่าว
พล.ท.ภราดรกล่าวอีกว่า จากภาพสะท้อนของเหตุการณ์ที่ลดลง กลุ่มผู้กระทำการที่ค่อยปรากฏข้อเท็จจริงออกมา แสดงให้เห็นว่าเราพูดคุยถูกตัว และสามารถดำเนินการสื่อสารได้เร็วหากเทียบกับการพูดคุยเพียง 4-5 ครั้ง หากในช่วงเวลา 10 กว่าวันที่เหลือของเดือนรอมฎอนปรากฏเหตุขึ้นมาอีก จะต้องพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่ามาจากสาเหตุอะไร และเป็นฝีมือของใคร สำหรับการพูดคุยสันติภาพหลังเดือนรอมฎอนนั้น เบื้องต้นยังยึดหลักการที่จะพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นอยู่
"แต่จะต้องพิจารณาผลข้อตกลงในการลดเหตุความรุนแรงว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นสามารถสื่อสารกับกลุ่มอื่นให้ลดเหตุได้ผลมากน้อยแค่ไหน เช่น ต้องแยกแยะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือใครบ้าง ถ้าเขาสามารถสื่อสารได้จริงตามข้อตกลงแต่ไม่สามาถกดดันให้กลุ่มอื่นหยุดก่อ เหตุได้ เราก็อาจจะพิจารณากลุ่มอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วยก็เป็นได้" เลขาฯ สมช.กล่าว
ส่วนกรณีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ในฐานะอดีตเลขาฯ สมช. เสนอว่าควรตั้งโฆษกมาให้ข่าวเรื่องภาคใต้โดยเฉพาะ มากกว่าการพูดรายวันของเลขาฯ สมช. พล.ท.ภราดรกล่าวว่า เป็นแนวคิดของนายถวิล ที่แนวทางการทำงาน เมื่อครั้งที่นายถวิลเป็นเลขาฯ สมช. อาจแตกต่างจากการบริหารงานในปัจจุบัน ที่บางครั้งสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนต้องบริหารงานให้สอดคล้องตามไปด้วย
"ไม่รู้สึกกังวลว่าการวิจารณ์จะส่งผลอะไรกับการทำงาน เพราะทำตามภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบ ส่วนการเสนอให้ตั้งโฆษกให้ข่าวเรื่องภาคใต้นั้น ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าทีมเจรจาสันติภาพ มองว่าบางครั้งการพูดคุยหน้างานก็มีความสำคัญ และเมื่อจะสื่อสารต่อสาธารณชนต้องระมัดระวัง บางเรื่องสามารถมีคนพูดแทนได้ แต่การตอบโต้กันหน้างานเป็นเหตุเฉพาะหน้า ที่ต้องดำเนินการทันที ส่วนจะมีการพิจารณาบุคคลมาช่วยเรื่องการสื่อสารหรือให้ข่าวนั้น คงจะต้องหารือกับพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ในฐานะผอ.ศปก.กปต. ว่าจะมีการปรับแนวทางการทำงานหรือไม่" เลขาฯ สมช.กล่าว
ต่อข้อถามว่ามีข้อเสนอจากหลายฝ่าย ให้ทำงานเชิงรุกให้รวดเร็วมากขึ้น เช่น กรณีที่ทางมาเลเซียระบุ อ.สะเดา เป็นพื้นที่เสี่ยง ควรออกมาชี้แจงทันที พล.ท.ภราดรกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และทางมาเลเซียได้รับการประสานจากกลุ่มขบวนการ เสนอให้ดูแลความเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ดังกล่าวในช่วงเดือนรอมฎอน เนื่องจากจะมีประชาชนผ่านเข้าออกจำนวนมาก ไม่ได้หมายความว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดเหตุ แต่กลับมีผู้นำเรื่องนี้มาขยายผลให้เป็นประเด็นทางการเมือง อยากขอร้องว่าฝ่ายการเมืองอย่านำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เป็นมิติทางการเมือง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต และเมื่อเปิดประชาคมอาเซียน หลายฝ่ายจะตำหนิประเทศไทยได้ว่าเป็นประเทศที่มีปัญหา และส่งผลเสียหายตามมา
วันเดียวกันที่โรงแรมซีเอส จ.ปัตตานี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาจากผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา คณะครู ข้าราชการตำรวจ ทหาร พร้อมร่วมพบปะพูดคุยกับประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมประชุมและขอคำชี้แนะ และมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
นายจาตุรนต์กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับบุคลากรทางการศึกษา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำศาสนาในพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นความก้าวหน้าทางการศึกษา ซึ่งอาจจะมีมาตรฐานสูง ขณะเดียวกันก็เปิดช่องทางให้ประชาชนในพื้นที่มีบทบาทในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และร่วมกำหนดโครงการต่างๆ เอง เพื่อให้สอดรับกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสันติสุข
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. กล่าวว่า การศึกษาถือเป็นกุญแจสำคัญและเป็นสะพานในการสร้างอนาคตให้กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจจะเริ่มจากการทำอย่างไรให้เด็กอ่านออก เขียนได้ เข้าใจภาษา วันนี้ต้องมาร่วมกันบริหารความรู้สึกของทุกฝ่ายให้เกิดความรู้สึกพอใจ สบายใจ มั่นใจและปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีของความเป็นครู เชื่อว่าทุกชีวิตมีค่าเท่ากันหมด เพียงแต่ต้องดูแลกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอเป็นพิเศษ
จากนั้นนายจาตุรนต์ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ในพื้นที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นางนายีหะ ยีระ อายุ 38 ปี พนักงานราชการ และนางนุรยาฮาน อาแว อายุ 44 ปี ครูผู้ช่วย นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคือ นายอภิชาติ เบญจุฬามาศ อายุ 33 ปี ครู คศ.1 ผู้ขับรถ เบื้องต้นรมว.ศึกษาธิการมอบเงินช่วยเหลือจากกระทรวงศึกษาฯ จำนวนหนึ่ง
ด้านเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ พ.ต.ท. มุสตอพา มะนิ สวญ. สภ.อัยเยอร์เวง รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 21/1 ม.4 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา จึงพร้อมด้วยนายสุทธินัย เปรมรัชชานนท์ ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายอาหแมะ ดอเลาะ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.4 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนตาดีกาดารุล อามาน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าที่บริเวณศีรษะ แขนขาว และลำตัว นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 รวม 21 ปลอก และร่องรอยกระสุนปืนที่ฝาผนังหน้าบ้าน สอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตเพิ่งกลับจากละหมาดกำลังจะเดินเข้าบ้าน มีคนร้ายเป็นชายสองคนเข้ามาเรียกผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะลงมือยิงแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากการตรวจสอบประวัติของผู้เสียชีวิตทราบว่าเมื่อปี 2551 เคยถูกออกหมาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทางญาติได้นำ ไปประกอบพิธีทางศาสนาโดยไม่ยินยอมให้ เจ้าหน้าที่นำไปชันสูตรที่โรงพยาบาล ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้สองประเด็น คือเรื่องส่วนตัว และการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่