รวบฆาตกรแทงเจ้าอาวาสนักพัฒนาดับคากุฎิ ญาติโยมสุดแค้นปรี่รุมยำ-ตร.สกัดวุ่น

 จากกรณีคนร้ายใช้มีดปลายแหลมบุกเข้าฟันและแทงกว่า 10 แผล พระอธิการ ถนอม จันทสาโร อายุ 49 ปีเจ้าอาวาสวัดอรัญคีรี บ้านไทรงาม หมู่ที่ 5 ต.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จนมรณภาพจมกองเลือดคากฎิกลางดึกเมื่อคืนวันที่ 25 ก.ค 56 โดย พ.ต.ท ยอมยม อุปกา พนักงานสอบสวน สภ.โซ่พิสัยรับแจ้งเหตุ แล้วแจ้งผู้บังคับบัญชารุดไปตรวจชันสูตร พร้อมด้วย พ.ต.อ.กำพล ทันตสุวรรณ ผกก.พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ โคตรวงศ์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.สมเจตน์  ศุภจัตุรัส รอง ผกก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดสายสืบ แพทย์เวร ร.พ.โซ่พิสัย ตำรวจชุดสายสืบและตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พบผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ชั้นล่างของกุฎิ 2 ชั้น พบเศษไม้กวาดที่เหลือจากจุดไฟเผารมควันเจ้าอาวาสขณะนอนหลับและรอยเท้าเปื้อนเลือดของคนร้ายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นตั้งประเด็นความขัดแย้งกับกรรมการวัดเรื่องเงินถวายพระวันเข้าพรรษา จนผู้ตายไม่พอใจจะหนีไปจำพรรษาที่อื่น แต่มาถูกฆาตกรรมเสียก่อน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เรียกกรรมการวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวนหลายปาก แต่ไม่พบพิรุธตามข่าวที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้

 ต่อมาวันที่ 26 ก.ค. ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ ได้สั่งการ พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผกก.สืบสวน ภ.จ.บึงกาฬนำกำลังประสานกับ พ.ต.ต.วัษณุ  พิมพ์โพธิ์ สว.กก.3 สส.ภ.4 และ พ.ต.ท.ชาติชาย วัฒนาสุข สว.สส.สภ.โซ่พิสัย ออกหาข่าวกดดันคนร้ายทั้งเรียกตัวมาสอบสวนตามที่มีพยานกล่าวอ้างถึง ทั้งสามล้อเครื่องขาประจำพระผู้ตายที่พาไปรับ-ส่งตามกิจนิมนต์ต่างๆ พระลูกวัด 2 รูป ทั้งญาติโยมสีกาผู้ใกล้ชิด แต่ไม่มีความคืบหน้า ต่อมาพบพยานที่มีผู้พบเห็น นายต้อม ซึ่งไม่มีงานทำ มีบ้านอยู่ใกล้วัด มักเข้าออกไปขอเงินเจ้าอาวาสเป็นประจำ และคืนวันเกิดเหตุก็เห็นเดินวนเวียนอยู่แถวๆ วัด จึงได้เชิญตัวมาสอบสวน ทราบชื่อจริงว่า นายสมาน พะชัย อายุ 27 ปีบ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 6 บ้านโนนภูดิน ต.โซ่พิสัย  

 เบื้องต้นให้การปฏิเสธอ้างมีพยานที่อยู่ด้วยกันตลอดในคืนเกิดเหตุ จึงได้ปล่อยตัวไป แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บรอยเท้าตัวจริงไปเปรียบเทียบกับรอยเท้าเปื้อนเลือดที่พบในวันเกิดเหตุผลปรากฏว่าตรงกันพอดี จึงได้นำหมายศาลเข้าจับกุมตัวได้ในบ้านพักในช่วงเย็นวันเดียวกัน พร้อมกับค้นพบเสื้อโปโลแขนสั้นลายขวางสีฟ้า-ขาว เปื้อนเลือดที่แขวนอยู่ในบ้านนอกจากนี้ยังพบเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงินซักแล้ว แต่ยังมีคราบเลือดเหลืออยู่ จึงนำมาตรวจสอบเพื่อเปรียบเทียบกรุ๊ปเลือดหรือหา DNA ของเจ้าอาวาสผู้ตายว่าตรงกันหรือไม่ แต่เบื้องต้น นายสมานหรือต้อม ยังยืนยันว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง 

 เจ้าหน้าที่จึงเค้นสอบอย่างหนักจนเวลา 01.35 น.วันที่ 27 ก.ค. จึงยอมรับสารภาพความจริงออกมาว่าตนเพียงจะไปปลุกพระอธิการถนอม เพื่อขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ผู้ตายไม่ยอมลุกออกมาหา จึงจุดไฟเผาไม้กวาดยัดเข้าช่องว่างประตูกับพื้นห้องรมควันให้ตื่น แต่พอเปิดประตูออกมากับได้รับคำด่าแทนเงินที่ขอ จึงโมโหผลักเข้าไปในห้องนอนแล้วใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 15 เซนติเมตรที่ถือมาด้วยจ้วงแทง แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจึงแทงไม่ยั้งล้มลงหมอบกับพื้น แล้วแทงด้านหลังอีกจนล้มฟุบแน่นิ่งไป จากนั้นตนจึงเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้เงินติดตัวไปเลย แล้วกระโดดข้ามกำแพงวัดหลบหนีพร้อมกับขว้างมีดปลายแหลมทิ้งทุ่งนา จึงถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา

 และเช้านี้เวลา 08.30 น. พ.ต.อ.ธนันชัย สุขา รอง ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผกก.สืบสวน ภ.จ.บึงกาฬ พ.ต.อ.กำพล ทันตสุวรรณ ผกก.โซ่พิสัย พร้อมชุดสายสืบกว่า 50 นายได้ควบคุมตัว นายสมานหรือต้อม ไปค้นหามีดของกลางในทุ่งนา แต่ยังไม่พบเนื่องจากมีนาข้าวชาวบ้านกำลังขึ้นเขียวขจีและมีน้ำขัง จึงต้องรีบพาผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  เมื่อชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่กันไปรอดูหน้าคนร้ายใจอำมหิตกันแน่นวัด ขณะตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาจะลงจากรถตู้ต่างจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ จึงต้องยกมือไหว้ขอร้องจะเป็นการทำผิดกฎหมายไปด้วยพร้อมกับให้ผู้นำชุมชนช่วยกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไป การทำแผนจึงได้เริ่มขึ้นและจบลงด้วยดี

 ด้านนายเสนา คุณพา อายุ 65 ปี กรรมการวัดและนายชม สายสา อายุ 57 ไวยาวัจกรวัด พร้อมพวกอีก 6 คนที่ตกเป็นข่าวช่วงแรกว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเจ้าอาวาสเรื่องเงินถวายวันเข้าพรรษา ได้เข้ามาต่อว่าผู้สื่อข่าว เพราะหลังจากมีข่าวออกมาต่างถูกชาวบ้านและคนรู้จักทั้งที่กรุงเทพฯ และต่างประเทศโทรมาต่อว่าจะไม่มาทำบุญที่บ้านนี้อีกแล้ว ทำให้เสียหายจึงขอร้องแก้ข่าวให้ใหม่ว่าพวกตนไม่เกี่ยวข้องจริงๆ ที่พูดกันในวันถวายเงินก็เป็นการหยอกล้อกันเล่น แต่จะเสียงดังไปหน่อย อาจทำให้ผู้ได้ยินเข้าใจผิดจึงยอมรับความผิดพลาด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานศพพระอธิการถนอม จันทสาโร ที่ตั้งอยู่บนศาลาภายในวัดอรัญคีรี เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากชาวบ้านมีความศรัทธารักใคร่มาก เป็นพระลูกหลานที่อยู่ในบ้านนี้ตั้งแต่เกิดบวชมาแล้วได้ 7 พรรษา  เป็นพระนักเทศน์และพระนักพัฒนา ถึงแม้งานสวนอภิธรรมศพจะมีฝนตกลงมาตลอดประชาชนต่างแวะเวียนมากราบไหว้ศพกันไม่ขาดสาย และจะตั้งศพสวดพระอภิธรรม 7 วัน หลังจากนั้นจะนำไปเก็บไว้อีก 3 ปีจึงนำศพขึ้นมาทำบุญต่อไป 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...