เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมกรณีมีการแอบอ้างนำดอกไม้พระราชทานไปถวายให้อดีตพระวิรพล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2555 ณ สำนักสงฆ์ขันติบารมี สาขา 101 อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
นายสงกรานต์ กล่าวว่า ตนต้องการให้ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียด ว่าเป็นความจริงหรือไม่ มีพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใดหรือไม่ในการนำพานพุ่มดอกไม้สดพระราชทานบิดเบือนข้อเท็จจริงในการพระราชทานถวายหรือไม่ โดยขอตั้งประเด็นสงสัยอาทิ กรณีเป็นทางการจะต้องมีหมายแจ้งหรือไม่ และจะต้องมีพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังไปควบคุมอำนวยการ ณ สถานที่รองรับดอกไม้พระราชทานหรือไม่ กรณีไม่เป็นทางการนั้นจะไม่มีหมายแจ้งและจะไม่มีพิธีการใดๆ โดยดอกไม้สดพระราชทานนั้นตามประเพณีปฏิบัติ พระสงฆ์ผู้ปกครองจะเป็นผู้รับและนำไปถวายแด่องค์พระประทานในพระอุโบสถอันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสงฆ์ และประเด็นดังกล่าวนี้พบความผิดปกติคือไม่มีพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังไปควบคุม และขั้นตอนในพิธีการไม่น่าจะเป็นตามประเพณีปฏิบัติของสำนักพระราชวัง สถานที่ตั้งพานพุ่มดอกไม้สดสูงจากพื้นเพียง 1 เมตรเศษเท่านั้น
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จะรับข้อมูลไปตรวจสอบพร้อมประสานสำนักพระราชวังอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักพระราชวังโดยตรง
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กล่าวถึงการติดตามตัวนายวิรพล กลับมาดำเนินคดี ว่า ล่าสุดได้ตรวจสอบข้อมูลพบการเดินทางไปต่างประเทศของอดีตเณรคำที่พบว่าออกเดินทางไปต่างประเทศพร้อมคณะสงฆ์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้บางส่วนได้เดินทางกลับมาแล้ว 6 รูป เหลืออีก 4 รูปที่ยังอยู่ในสหรัฐฯ สำหรับรายชื่อพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เดินทางกลับมาในไทย ประกอบด้วย 1.นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ 2.พระภูมินทร์ สองสี 3.พระจำรัส ผู้ดี และ4.พระสุดใจ ทิศกระโทก ส่วนอีก 6 รูปที่เดินทางกลับมาแล้ว คือ 1.พระอภิรักษ์ ทันงาม 2.พระสุทธิ จรัมพรสกุล 3.พระเสียน มีมัน 4.พระสมใจ จำนง 5.พระฐกฤต โสรี และ 6.พระไกรศักดิ์ ปากวิเศษ
ด้านพ.อ.ชัชนันท์ เมธีธรรมาภรณ์ รองผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวถึงผลการสอบสวนในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และจ.ศรีสะเกษ ว่า ล่าสุดดีเอสไอได้พิจารณาออกหมายเรียกพ่อ แม่และน้องชายของอดีตเณรคำคือ นายสุริ สุขผล มาให้ปากคำกับดีเอสไอ ส่วนประเด็นภาพถ่ายคู่กับสีกาที่มีปัญหาและน้องชายอดีตเณรคำอ้างว่าเป็นบุคคลในภาพนั้นดีเอสไอจะเรียกสอบปากคำ หากการสอบสวนพบว่าให้การเป็นเท็จจะถูกดำเนินคดีด้วย
“จากการตรวจสอบภาพดังกล่าวของดีเอสไอพบว่ามีจุดต้องสงสัยที่ทำให้มั่นใจว่าไม่ใช่นายสุริฯ มากถึง 6 จุด ประกอบด้วย ใบหูนายสุริที่มีลักษณะกลม แต่อดีตเณรคำใบหูยัก คางไม่เท่ากัน จมูกนายสุริไม่เหมือนในภาพ จุดไฝนายสุริต่างจากในภาพ หน้าผาก และสุดท้ายคือจุดต่าง ๆ โดยรวมตรงกับอดีตเณรคำทั้งหมด” รองผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าว
รองผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ดีเอสไอยังมีพยานปากคำสำคัญรายหนึ่งเป็นคนใกล้ชิดและดำเนินการให้ทุกเรื่องรวมถึงการจ่ายเงิน โดยพยานรายดังกล่าวยอมให้การที่เป็นประโยชน์ยืนยันประเด็นสำคัญ 3-4 ประเด็น เช่น ยืนยันว่าหญิงรายดังกล่าวมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตเณรคำแน่นอนเพราะเป็นผู้ทำหน้าที่ส่งเสียเงินให้แทนอดีตเณรคำ ส่วนหญิงที่มีการนำเงินไปสร้างบ้านให้ก็ให้การว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งเช่นกันเพราะเคยติดตามไปหลายครั้ง นอกจากนี้ยังให้การถึงแหล่งมั่วสุมที่เป็นจุดหลัก 3-4จุด ซึ่งใช้เป็นสถานที่เสพยาเสพติด เสพเมถุนเป็นประจำคือที่บ้านคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และรถบัสที่ดัดแปลงเอาที่นั่งออกเพื่อใช้เป็นสถานที่เสพเมถุน