เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กล่าวถึงการติดตามตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก (หลวงปู่เณรคำ) กลับมาดำเนินคดีว่า ล่าสุดได้ตรวจสอบข้อมูลพบการเดินทางไปต่างประเทศของอดีตเณรคำที่พบว่าออกเดินทางไปต่างประเทศพร้อมคณะสงฆ์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้บางส่วนได้เดินทางกลับมาแล้ว โดยมี 6 รูปเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.จำนวน 1 รูปและเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.อีก 5 รูป ส่วนที่เหลืออีก 4 รูปยังอยู่ในสหรัฐฯ
สำหรับรายชื่อพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เดินทางกลับมา ประกอบด้วย 1.อดีตเณรคำ 2.พระภูมินทร์ สองสี 3.พระจำรัส ผู้ดี และ4.พระสุดใจ ทิศกระโทก ส่วนอีก 6 รูปที่เดินทางกลับมาแล้วคือ 1.พระอภิรักษ์ ทันงาม 2.พระสุทธิ จรัมพรสกุล 3.พระเสียน มีมัน 4.พระสมใจ จำนง 5.พระฐกฤต โสรี และ6.พระไกรศักดิ์ ปากวิเศษ
ด้านพ.อ.ชัชนันท์ เมธีธรรมาภรณ์ รองผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวถึงผลการสอบสวนในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และจ.ศรีสะเกษ ว่า ล่าสุดดีเอสไอได้พิจารณาออกหมายเรียกพ่อ แม่และน้องชายของอดีตเณรคำคือนายสุริ สุขผล มาให้ปากคำกับดีเอสไอ ส่วนประเด็นภาพถ่ายคู่กับสีกาที่มีปัญหาและน้องชายอดีตเณรคำอ้างว่าเป็นบุคคลในภาพนั้น ดีเอสไอจะเรียกสอบปากคำ หากการสอบสวนพบว่าให้การเป็นเท็จจะถูกดำเนินคดีด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพดังกล่าวของดีเอสไอ พบว่ามีจุดต้องสงสัยที่ทำให้มั่นใจว่าไม่ใช่นายสุริ มากถึง 6 จุด ประกอบด้วย
ใบหูนายสุริที่มีลักษณะกลม แต่อดีตเณรคำใบหูหยัก คางไม่เท่ากัน จมูกนายสุริ ไม่เหมือนในภาพ จุดไฝนายสุริ ต่างจากในภาพ หน้าผาก และสุดท้ายคือจุดต่าง ๆ โดยรวมตรงกับอดีตเณรคำทั้งหมด ทั้งนี้ ดีเอสไอ ยังมีพยานปากคำสำคัญรายหนึ่งเป็นคนใกล้ชิดและดำเนินการให้ทุกเรื่องรวมถึงการจ่ายเงิน โดยพยานรายดังกล่าวยอมให้การที่เป็นประโยชน์ยืนยันประเด็นสำคัญ 3-4 ประเด็น เช่น ยืนยันว่าหญิงรายดังกล่าวมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตเณรคำ แน่นอนเพราะเป็นผู้ทำหน้าที่ส่งเสียเงินให้แทนอดีตเณรคำ ส่วนหญิงที่มีการนำเงินไปสร้างบ้านให้ก็ให้การว่า มีสัมพันธ์ลึกซึ้งเช่นกันเพราะเคยติดตามไปหลายครั้ง นอกจากนี้ยังให้การถึงแหล่งมั่วสุมที่เป็นจุดหลัก 3-4 จุด ซึ่งใช้เป็นสถานที่เสพยาเสพติด เสพเมถุนเป็นประจำคือที่บ้านคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และรถบัสที่ดัดแปลงเอาที่นั่งออกเพื่อใช้เป็นสถานที่เสพเมถุน
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้ายื่นเรื่องขอให้สืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีการแอบอ้างนำดอกไม้พระราชทานไปถวายให้อดีตพระวิรพล ฉัตติโก (หลวงปู่เณรคำ) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2555 ณ สำนักสงฆ์ขันติบารมี สาขา 101 อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยตนต้องการให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่าเป็นความจริงหรือไม่ มีพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใดหรือไม่ในการนำพานพุ่มดอกไม้สดพระราชทานบิดเบือนข้อเท็จจริงในการพระราชทานถวายหรือไม่
โดยขอตั้งประเด็นสงสัย อาทิ กรณีเป็นทางการจะต้องมีหมายแจ้งหรือไม่ และจะต้องมีพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังไปควบคุมอำนวยการณ สถานที่รองรับดอกไม้พระราชทานหรือไม่ กรณีไม่เป็นทางการนั้นจะไม่มีหมายแจ้งและจะไม่มีพิธีการใด ๆ โดยดอกไม้สดพระราชทานนั้นตามประเพณีปฏิบัติ พระสงฆ์ผู้ปกครอง จะเป็นผู้รับและนำไปถวายแด่องค์พระประทานในพระอุโบสถอันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสงฆ์
นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่ปรากฏภาพดังกล่าวในยูทูบของอดีตเณรคำยังพบความผิดปกติคือไม่มีพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังไปควบคุม และขั้นตอนในพิธีการไม่น่าจะเป็นตามประเพณีปฏิบัติของสำนักพระราชวัง สถานที่ตั้งพานพุ่มดอกไม้สดสูงจากพื้นเพียง 1 เมตรเศษ
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จะรับข้อมูลไปตรวจสอบพร้อมประสานสำนักพระราชวังอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักพระราชวังโดยตรง