กล้าดื่มหรือเปล่า? "ไวน์ทุเรียน"ผลงานนักวิจัยสิงคโปร์

"ทุเรียน" ผลไม้เจ้าของฉายา"ราชาแห่งผลไม้" ที่ไม่ใช่ทุกคนจะโปรดปราน อันเนื่องมาจากกลิ่นที่ชวนเวียนหัวของมัน อย่างไรก็ดี ได้มีผู้พยายามแปรรูปทุเรียนให้กลายเป็นสินค้าที่ชวนรับประทานมากกว่า

คริสทีน ลี และฟรานซิสกา ทาเนียซูรี นักศึกษาปริญญาเอกจากโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ได้ร่วมพัฒนาไวน์ทุเรียนและมะละกอ ที่มีแอลกอฮอล์ 6% หลังจากการค้นคว้าและวิจัยอย่างต่อเนื่องนานกว่า 3 ปี และมีแผนการพัฒนาเพื่อนำไปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์

ทาเนียซูรีเปิดเผยว่า สำหรับผู้ที่ชอบทุเรียนเป็นชีวิตจิตใจ นี่เป็นสินค้าตัวใหม่ที่น่าลอง แต่สำหรับผู้ที่ไม่โปรดปราน กระบวนการหมักจะช่วยลดกลิ่นฉุนของทุเรียนลงได้มาก และทำให้ดื่มง่ายขึ้น

จากข้อมูลการศึกษาของราชสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหารสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า

แม้ว่าทุเรียนจะเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ค่อนข้างสูง แต่มันก็มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงเช่นกัน ขณะที่มันยังไม่สุกงอม เมื่อเทียบกับฝรั่งหรือมะม่วง ส่วนข้อมูลจากหอสมุดแห่งชาติอังกฤษ ชี้ว่าทุเรียนเป็นผลไม่ที่มีวิตามิน บี ซี และอี ในระดับสูง เช่นเดียวกับธาตุเหล็ก ส่วนในมาเลเซีย บางคนใช้ใบทุเรียนเพื่อรักษาอาการไข้และโรคดีซ่าน

แม้จะมีความเชื่อกันว่า การบริโภคทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการหัวใจวายได้นั้น

ศาสตราจารย์ หลิว เฉาควน จากโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่าผลการศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่ามีส่วนประกอบของสารซัลเฟอร์ในทุเรียนที่อาจทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต แต่หลังจากกระบวนการหมัก สารซัลเฟอร์ดังกล่าวจะลดลงอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย การดื่มไวน์จากทุเรียนจึงไม่ส่งผลต่อสุขภาพใดๆ

ทาเนียซูรีกล่าวว่า ผลการศึกษาเรื่องไวน์ทุเรียนถือว่ายังใหม่มาก และเป็นเพียงขั้นเริ่มต้น จึงยังคงต้องมีการลองผิดลองถูกอีกมาก

ในอนาคต กลุ่มนักวิจัยได้เตรียมศึกษาและประเมินระบบรับรสและความรู้สึกของมนุษย์

เพื่อผลิตไวน์ทุเรียนให้มีรสชาติถูกปากผู้บริโภคต่อไป และสนใจที่จะพูดคุยกับผู้ผลิตไวน์ เพื่อนำไวน์ทุเรียนและมะละกอไปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต่อไป