5 ขั้นตอนการพิจารณาก่อนเลือกซื้อแฟลชไดรฟ์ไว้คู่กาย
หนึ่งในสื่อบันทึกข้อมูลที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนั้น นอกจาก External Harddisk ที่มีความจุมากแล้วก็มีแฟลชไดรฟ์ที่หลายๆ คนเลือกใช้เพราะความสะดวกในการพกพาและมีความจุหลากหลายขนาดให้เราเลือกซื้อได้ แต่เวลาจะเลือกซื้อแฟลชไดรฟ์กันสักทีนั้นควรคิดถึงเรื่องใดบ้างนั้น ทางทีมงานมีวิธีการง่ายๆ 5 ขั้นตอนมาฝากกันในบทความนี้ครับ
1 เลือกความจุที่ต้องการกันก่อน โดยคำนึงถึงว่าเราเน้นเอาไปเก็บไฟล์ประเภทไหน ซึ่งถ้าเป็นไฟล์เอกสารทั่วไปและมีไฟล์รูปภาพอยู่บ้างล่ะก็ แฟลชไดรฟ์ขนาด 8 GB ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีไฟล์หนังหรือไฟล์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ล่ะก็ แนะนำให้หาความจุที่ 16 GB ขึ้นไป จะได้ไม่ต้องขนถ่ายไฟล์ทีละหลายๆ รอบให้เสียเวลา
2 ดูสักนิดว่าพอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบไหน ซึ่งในปัจจุบันนี้แฟลชไดรฟ์ยังถูกผลิตออกมาโดยใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อเป็น USB 2.0 เป็นหลัก และมีมาตรฐาน USB 3.0 อยู่บ้าง แต่ยังไม่แพร่หลายนัก โดยนิยมนำมาใช้ในแฟลชไดรฟ์ที่มีความจุสูงๆ ตั้งแต่ 16 GB ขึ้นไป ซึ่งถามว่าจำเป็นหรือไม่? ก็ขึ้นอยู่กับประเภทไฟล์ที่เราบันทึกเช่นกัน ถ้ามีขนาดใหญ่และมีจำนวนมากก็แนะนำเป็น USB 3.0 ไปเลย แต่ถ้าเป็นเพียงไฟล์เล็กๆ เช่นไฟล์เอกสารหรือไฟล์ภาพจำนวนไม่มากล่ะก็ USB 2.0 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
3 ขนาดและดีไซน์เป็นอย่างไร? เรื่องนี้นับเป็นความชอบโดยส่วนตัวเฉพาะบุคคลว่าชอบแบบไหน ดีไซน์อย่างไร โดยแฟลชไดรฟ์นั้นจะมีหลากแบบหลายดีไซน์ทีเดียว ซึ่งตอนนี้จะมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
4 ประกันแฟลชไดรฟ์ยาวนานแค่ไหน? เรื่องของเสียแล้วใครจะรับผิดชอบเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ใครๆ ก็ใส่ใจ เพราะแฟลชไดรฟ์นั้นก็เงินของเราทั้งนั้นและข้อมูลเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งถ้าเก็บภาพถ่ายความทรงจำดีๆ เอาไว้ หรือจะเป็นไฟล์เอกสารสำคัญของบริษัทเอาไว้แล้วเกิดเสียหายในช่วงประกันก็ยังพอส่งให้ทางบริษัที่เป็นผู้รับประกันเป็นคนรับผิดชอบได้
5 ราคาคุ้มค่ากับที่ลงทุนไปหรือเปล่า? ปัจจัยสุดท้ายนี้เป็นเหมือนตัวกำหนดทุกสิ่งเมื่อจะเลือกซื้อสินค้าจริงๆ ซึ่งถ้าเรามีงบประมาณไม่เกิน 500 บาทก็อาจจะได้แฟลชไดรฟ์ขนาด 16 GB แต่เป็น USB 2.0 มาใช้งาน แต่ถ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,000-2,000 บาทก็จะเพิ่มเป็นแฟลชไดรฟ์ความจุ 32-64 GB และใช้มาตรฐานเชื่อมต่อเป็น USB 3.0 ได้ โดยทางทีมงานแนะนำให้รอช่วงงาน Commart หรือช่วงลดราคาพิเศษของห้างไอทีต่างๆ แล้วค่อยหาซื้อก็จะได้ในราคาที่ถูกลงจากเดิมอีกมาก หรือจะใช้วิชาส่วนตัวพูดคุยกับคนขายก็ได้ไม่ผิดกติกา
สำหรับห้าขั้นตอนที่ทางทีมงานแนะนำนั้นเป็นเหมือนไกด์ไลน์ง่ายๆ สำหรับมือใหม่ที่ต้องการมองหาแฟลชไดรฟ์มาใช้ส่วนตัวสักอันหนึ่ง ซึ่งจะนับแล้วในตอนนี้ แฟลชไดรฟ์เองก็มีความจุและมาตรฐานการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ แฟลชไดรฟ์ความจุ 512 GB อาจจะเพิ่มเข้ามาเป็นเพดานความจุมาตรฐานสูงสุดแทน 64 GB ก็ได้ ใครจะไปรู้!
Source : sanook