อาชีพจัดสวน-ขายต้นไม้ ใช่ว่าไม่ต้องปรับตัวเหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ หากแต่การมองตลาด-การจับกระแสก็ยังเป็นหัวใจสำคัญของการประกอบอาชีพด้านนี้ อย่างงาน “สวนกรอบรูป” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอวันนี้ นี่ก็เป็นตัวอย่างการพลิกแพลงรูปแบบงานจากแบบเดิม ๆ จนกลายเป็นงานไอเดียที่น่าสนใจ...
   
“ณรงค์ หมีสมุทร” เจ้าของร้านเฮือนกระดาษสา ย่านบางใหญ่ นนทบุรี เล่าว่า สำหรับงานชิ้นนี้พัฒนาและต่อยอดจากงานจัดสวนในกระถางที่เคยทำอยู่ โดยเริ่มทดลองตลาดในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าดี โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และร้านอาหาร
   
รูปแบบของงานดัดแปลงพัฒนามาจากงาน “จัดสวนแนวตั้ง” ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มงานตกแต่งบ้าน โดยมองว่างานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นงานชิ้นใหญ่ ๆ มีราคาสูง และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงพัฒนาและดัดแปลงให้งานมีขนาดที่เล็กลง โดยเลือกใช้ “กรอบรูป” มาเป็นพื้นที่ในการถ่ายทอดผลงาน “จัดสวน” โดยยังคงกลิ่นอายของงานจัดดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของร้านอยู่เหมือนเดิม
   
สำหรับรูปแบบที่คิดขึ้นนั้น เขาบอกว่า ต้องการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนเมือง ที่มีพื้นที่จำกัด แต่อยากจะได้สวนขนาดเล็ก ๆ เพื่อประดับตกแต่งห้องพัก
   
“กลุ่มแรกคือ ลูกค้าซึ่งที่อยู่อาศัยมีพื้นที่จำกัด เช่น ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียมคนที่ชอบต้นไม้ ชอบตกแต่งสวน ลูกค้ากลุ่มต่อมาคือกลุ่มของขวัญ ของที่ระลึก ที่มักจะมาซื้อในช่วงเทศกาลสำคัญ”
   
เจ้าของผลงาน เล่าว่า ทดลองและพัฒนารูปแบบอยู่พอสมควรจนมาลงตัวเป็นรูปแบบอย่างที่เห็น โดยตอนแรกจะเป็นชั้นวาง แต่มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนย้าย ต่อมาคิดว่าน่าจะนำกรอบรูปมาพัฒนาให้เป็นชั้นสำหรับวางต้นไม้ได้ จึงทดลองนำต้นไม้มาจัดวาง แต่ก็เกิดปัญหาเรื่องของน้ำที่ใช้รดต้นไม้ จึงทำการปรับเปลี่ยนให้แต่ละชั้นวางในกรอบรูปเกิดการเอียงประมาณ 45 องศา เพื่อให้ต้นไม้ไม่เบียดกันและน้ำสามารถไหลเวียนได้ทั่วถึง
   
“ตอนนี้ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนถือว่าสร้างรายได้ที่พออยู่ได้ แต่สิ่งที่จะได้เพิ่มก็คือ ลูกค้าเดิมบางรายอาจจะอยากเปลี่ยนต้นไม้ใหม่ ก็อาจจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาอีกทางจากการขายต้นไม้ ขายดอกไม้เพิ่มเติม เพราะงานของเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด” เจ้าของงานไอเดียระบุ 
   
รูปแบบชิ้นงานที่จำหน่ายอยู่ มี 2 แบบ ตามชนิดกรอบรูป คือ แบบกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ขนาดกว้าง 40 เซนติเมตร x ยาว 70 เซนติเมตร) และ แบบกรอบสามเหลี่ยม (ตั้งบนขาตั้งหรือเอเฟรม) โดยราคาจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 1,500 ไปถึง 2,000 บาท โดยในชิ้นงานจะประกอบไปด้วยไม้ดอกและไม้ใบ ข้อดีคือ งานแนวนี้สามารถปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายได้ตลอด จึงเหมาะกับลูกค้าที่ไม่ชอบความจำเจ
   
การเลือกต้นไม้ที่จะนำมาใช้นั้น เนื่องจากเป็นสวนแนวตั้ง การเลือกพันธุ์ไม้ที่จะใช้จึงควรดู  “ทิศทางการเติบโต” ของต้นไม้ที่จะปลูกเป็นสำคัญ โดยต้นไม้ที่จะใช้จะเน้นไปที่พันธุ์ไม้ที่มีการเติบโตแบบเลื้อยเป็นหลัก โดยที่นิยมนำมาจัดคือ ประเภทไม้พุ่มเตี้ย และกลุ่มสับปะรดสี โดยชิ้นงานแต่ละชิ้นงาน จะมีอายุการใช้งานที่ลูกค้านำไปประดับตกแต่งอย่างน้อยที่สุดก็ประมาณ 1 ปี
   
“นอกจากควรจะต้องมีความรู้เรื่องพันธุ์ไม้บ้างแล้ว ก่อนจัดก็ควรจะดูว่าต้นไม้แต่ละพันธุ์เหมาะกับสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ ชีวิตของกลุ่มลูกค้าแบบไหน ลูกค้าที่ซื้อไปจะนำไปจัดวางในร่มหรือกลางแจ้งเป็นหลัก เพราะองค์ประกอบเหล่านี้มีผลต่อความสวยงามของชิ้นงาน จึงควรสอบถามลูกค้าก่อน”
   
ทุนเบื้องต้นสำหรับทำงานประเภทนี้ อยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นค่ากรอบรูป และค่าต้นไม้ โดยจำเป็นต้องสต๊อกกรอบรูปและต้นไม้เก็บไว้จำนวนหนึ่งตลอด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องตระเวนหาซื้อซึ่งจะส่งผลให้มีต้นทุนมากขึ้น ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 50% จากราคาขาย
   
ขั้นตอนการทำ เริ่มจากออกแบบสวนที่จะจัด หากไม่ชำนาญอาจใช้การร่างแบบลงกระดาษจะทำให้สามารถระบุตำแหน่งต้นไม้ได้ ชัดเจนขึ้น จากนั้นจึงลงต้นไม้ ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้สำเร็จรูปที่เพาะใส่กระถางพลาสติกเตรียมไว้หลากหลายต้น หลากหลายพันธุ์ จากนั้นกำหนดตำแหน่ง เมื่อได้ตำแหน่งที่ต้องการก็จัดวางลงไป ที่สำคัญควรเลือกใช้ต้นไม้ที่มีสีขัดแย้งกันบ้าง เพื่อให้มีจุดนำสายตา จะได้ไม่เป็นโทนเดียวกันไปหมด
   
ใครสนใจงาน “สวนกรอบรูป” ไปดูได้ที่ ตลาดไม้งาม ถนนกาญจนาภิเษก ต.เสาธงหิน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หรือติดต่อณรงค์ที่ โทร. 08-1834-6219 หรือดูได้ในเว็บไซต์ www.kadardsa.th.com ซึ่งใครที่สนใจอาชีพใช้ความคิดสร้างสรรค์แบบนี้ ก็ลองปรึกษากับเจ้าของงานได้.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=498&contentId=53697