โรงพยาบาลโรคจิตร้าง

โรงพยาบาลโรคจิตแต่ละแห่งในบทความนี้มีประวัติความเป็นมาอันน่ากลัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็โดนกาลเวลากลืนกินไปจนหมดเหลือแต่เพียงเศษซากที่เสื่อมโทรม แต่ถ้าดูดีๆ แล้วก็ยังมีความสวยงามและบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี

 

  Deva Asylum

ที่มาภาพ weirdlyodd , sickbritain , tipsfromthetlist

Deva Asylum ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล Countess of Chester Hospital ซึ่งโรงพยายาลนี้ก็ยังเปิดทำการตามปกติ แต่ส่วนของโรงพยาบาลโรคจิตนี้ถูกทิ้งร้างไปแล้ว

เริ่มเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1829 ออกแบบโดย William Cole Jr. เพื่อรองรับคนไข้ได้ 500 คน ต่อมาก็มีการขยายเพิ่มอีกจนรับคนไข้ได้ถึง 1,500 คน โรงพยาบาลโรคจิตนี้ถูกปิดตายจริงๆ ในปี ค.ศ.2005 ทำให้มีบางส่วนยังดูใหม่และดูเหมือนเพิ่งถูกใช้งานมาไม่นานมานี้

บางห้องของโรงพยาบาลยังมีไฟสำรองเลี้ยงอยู่ และก๊อกน้ำบางอันที่ต่อกับถังเก็บน้ำก็ยังคงใช้การได้ Deva Asylum นี้เองยังเป็นสถานที่ตั้งของ ห้องอันตราย (Hazard room) ห้องที่ถูกทาด้วยลายสีดำเหลือง ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1998 ส่วนห้องทดลองและห้องขังคนไข้โรคจิตอื่นๆ ก็ยังคงอยู่ในสภาพดี ทำให้คนที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลที่ยังคงถูกใช้งานอยู่จริงๆ

Hazard room

ที่มาภาพ flickrhivemind

 

Whittingham Asylum

ที่มาภาพ tumblr , toddlertime

ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลโรคจิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1869 ออกแบบโดย Henry Littler ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าและต้นไม้ในเมือง Lancashire ในตอนที่ยังเปิดทำการอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้เคยรองรับคนไข้มากที่สุดถึง 3,533 คน และเจ้าหน้าที่ 548 คน โรงพยาบาลนี้ใหญ่โตมากขนาดมีกระทั่งฟาร์ม ระบบโทรศัพท์ ที่ทำการไปรษณีย์ อ่างเก็บน้ำ สถานีน้ำมัน วงออร์เคสตรา ร้านขายเนื้อ โรงกลั่นเหล้า และสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง สาเหตุก็เพราะโรงพยาบาลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นโรงพยาบาลแบบที่ทุกอย่างครบในที่เดียว ที่นี่เป็นที่แรกๆ ที่บุกเบิกการศึกษาและบันทึกการทำงานของคลื่นสมองมนุษย์

ภาพถ่ายทางรถไฟของโรงพยาบาลสมัยก่อนและสมัยนี้

ที่มา flickr , flickr2

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ทางทหารได้เข้าควบคุมโรงพยาบาลโรคจิตแห่งนี้ แต่ในช่วงปี ค.ศ.1960 โรงพยาบาลก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของสิ่งก่อสร้างและมาตรฐาน มีข้อกล่าวหาจำนวนมากอ้างถึงการทำร้ายคนไข้ในโรงพยาบาล ทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงการทำงานของโรงพยาบาลและมีเจ้าหน้าที่หลายคนโดนปลดออก แต่โรงพยาบาลก็ยังเปิดรักษาคนไข้จนถึงปี ค.ศ.1995 จึงปิดตัวลง

ปัจจุบัน ตึกและสิ่งก่อสร้างเหล่านี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ ตึกบางส่วนก็ถล่มลงมาแล้ว แต่ก็ยังคงมีแผนการจะบูรณะสร้างใหม่อยู่ ดูภาพถ่ายเพิ่มเติมได้ ที่นี่

 

Hellingly Asylum

ที่มาภาพ photography , hauntedasylum , weburbanist

ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เห็นวิวทั่วทั้งแถบนอกเมืองของ East Sussex โรงพยาบาลที่ชื่อมีคำว่า Hell อยู่ด้วยนี้ฟังดูไม่น่าเข้าไปเยี่ยมชมสักเท่าไหร่ ออกแบบและสร้างโดย GT Hine ซึ่งเป็นหนึ่งในนักออกแบบโรงพยาบาลโรคจิตที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคนั้น เปิดทำการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1903 ถือเป็นอาคารที่ออกแบบได้อย่างสวยงามและลงตัวที่สุดในหมู่โรงพยาบาลโรคจิตด้วยกัน

โรงพยาบาลนี้มีขนาดใหญ่ มีการแยกตึกที่อยู่ของผู้ป่วยหญิง ชาย และเด็กออกจากกัน รวมถึงยังมีโรงพยาบาลเล็กๆ อีกแห่งอยู่ลึกเข้าไปในป่า เพื่อเป็นที่พักของผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่ออีกด้วย

หอเก็บน้ำ ห้องผู้ป่วย และห้องครัว

ที่มาภาพ derelicte

พอถึงช่วงยุค 1980 โรงพยาบาลนี้ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง และในที่สุดก็ปิดตัวลงในปี ค.ศ.1994 หลังจากนั้นที่แห่งนี้ก็กลายเป็นเป้าหมายของวัยรุ่นที่ชอบแอบเข้าไปทำลายทรัพย์สินและลอบวางเพลิง โรงพยาบาลโรคจิตนี้ถูกทิ้งร้างไว้นานไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างเริ่มเข้ามารื้อถอนตัวอาคารลง และก็ยังคงเป็นสถานที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวผู้ชอบเรื่องแปลกมาเยี่ยมชมห้องต่างๆ บางห้องในโรงพยาบาลที่ยังคงมีสภาพดีอยู่ ลองดูภาพถ่ายบางภาพได้ ที่นี่

 

Denbigh Asylum

ที่มาภาพ flickr , toddlertime

Denbigh Asylum ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปัตยกรรมแบบยุควิคตอเรียแท้ๆ ถึงแม้จะเก่าทรุดโทรมไปมากแล้ว แล้วตัวอาคารก็ยังดูใหญ่โตและน่าเกรงขามเหมือนเดิม สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1846 ถึงปี ค.ศ.1848 โดย Thomas Fulljames เพื่อแก้ไขปัญหาที่ชาว Welsh จำนวนมากป่วยเป็นโรคทางประสาท ตอนแรกสร้างเพื่อให้รองรับคนไข้ได้ 200 คน แต่เมื่อถึงปี ค.ศ.1956 โรงพยาบาลนี้ก็ถูกปรับปรุงให้รองรับคนไข้ได้ถึง 1,500 คน

สถานที่นี้ปิดตัวลงในปี ค.ศ.1995 อาคารถูกทิ้งไว้รกร้าง ที่ดินที่มันตั้งอยู่ก็กลายสภาพเป็นป่า และสถานที่นี้ก็กลายเป็นแห่งเป้าหมายของพวกทำลายข้าวของที่ทำลายตัวอาคารให้ทรุดโทรมหนักยิ่งขึ้น จนถึงปัจจุบันนี้ พื้นอาคารผุผังจนการเดินในโรงพยาบาลอาจทำให้เกิดอันตรายได้ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนของห้องเก็บศพยังคงอยู่ในสภาพดี ดูภาพเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ห้องเก็บศพและตู้แช่ศพ

ที่มาภาพ flickr , 28dayslater

 

West Park Asylum

ที่มาภาพ tumblr , benscamera

ชื่อจริงๆ แล้วของโรงพยาบาลนี้คือ West Park Mental Hospital (โรงพยาบาลจิตเวช West Park) แต่คนส่วนมากจะเรียกกันในชื่อ West Park Asylum มากกว่า เปิดใช้งานเมื่อปี ค.ศ.1923 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลโรคจิตแห่งสุดท้ายที่เปิดอยู่ในเขตเมืองลอนดอน ออกแบบให้เป็นอาคารปิดที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่ละตึกจะเชื่อมกันด้วยทางเดินยาวที่ซับซ้อนเหมือนเขาวงกต รองรับคนไข้ได้ 2,000 คน โดยให้อยู่รวมกัน จึงต้องมีห้องโถงใหญ่โต รวมถึงมีครัว ห้องต้มน้ำ โรงเพาะชำ และห้องโถงขนาดใหญ่ (ปัจจุบันนี้ถูกเผาเหลือแต่โครง)

โรงพยาบาลแห่งนี้เข้าสู่ช่วงตกต่ำในช่วงกลางปี 1990 แต่ก็ยังเปิดใช้งานอยู่จนถึงปี ค.ศ.2003 แต่ตัวอาคารก็ทรุดโทรมลงไปอย่างรวดเร็วจะเหลือแต่ห้องคนไข้บางห้องเท่านั้นที่สภาพยังดีอยู่ ผู้ที่มาเที่ยวชมจะยังเห็นข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของคนไข้กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์บางอย่าง เช่น เตียงผู้ป่วย หรือห้องขัง ก็ยังคงอยู่ในสภาพดี ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่

เตียงผู้ป่วยและห้องขัง

ที่มาภาพ deviantart , benscamera

 

Severalls Asylum

ที่มาภาพ midlandsheritage , tuckerphotography

หนึ่งในโรงพยาบาลโรคจิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาด 1.2 ตารางกิโลเมตร รองรับคนไข้ได้ 2,000 คน ออกแบบโดย Frank Whitmore และเปิดทำการในปี ค.ศ.1913 ออกแบบให้ตึกทั้งหมดเชื่อมต่อกันโดยทางเดินยาวๆ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเดินไปได้ทั่วทั้งโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกตึกเลย โรงพยาบาลนี้ปิดตัวลงในปี ค.ศ.1997

Severalls Asylum เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลโรคจิตไม่กี่แห่งที่อนุญาตให้แพทย์ทำการทดลองกับคนไข้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงการทดลองโหดร้ายที่ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดมนุษย์ คนไข้ส่วนใหญ่จะถูกรักษาด้วยวิธีการช็อตไฟฟ้า หรือการเจาะกระโหลกผ่านทางเบ้าตาเพื่อทำลายสมองส่วนหน้า ซึ่งวิธีการรักษาเหล่านี้เป็นที่นิยมมากในช่วงปี ค.ศ.1950

การรักษาด้วยวิธีการใช้ไฟฟ้าช็อตและการเจาะกระโหลกผ่านทางเบ้าตา

ที่มาภาพ tumblr

ในสมัยนั้นมีผู้หญิงจำนวนมากที่ถูกส่งมาอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตเนื่องจากถูกข่มขืนหรือตั้งครรภ์โดยไม่ได้แต่งงาน และผู้หญิงเหล่านี้เองที่ถูกนำมาใช้ทดลองในการรักษาแบบน่ากลัวเหล่านี้ จนกระทั่งในช่วงยุค ค.ศ.1960 ที่การรักษาอาการทางประสาทเริ่มเปลี่ยนแปลงและเน้นการรักษาด้วยใช้ศิลปะและดนตรีบำบัด รวมถึงมีการใช้ยาเพื่อรักษาอาการทางประสาทแทน

ถึงแม้ปัจจุบันนี้ตัวอาคารจะถูกทำลายลงไปมากแล้ว และถูกล้อมรั้วไว้เป็นสถานที่อันตรายห้ามเข้า ยังคงมีนักท่องเที่ยวแอบบุกเข้าไปเพื่อถ่ายภาพและเยี่ยมชมเพื่อสัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันน่าขนลุกของโรงพยาบาลโรคจิตแห่งนี้ ส่วนที่มักมีคนแอบมาเยี่ยมชมมากที่สุดคือ ห้องเก็บศพ ซึ่งยังคงมีตู้แช่ที่ใช้เก็บศพอยู่ในสภาพดี ดูภาพเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ตู้แช่ศพ

ที่มาภาพ tuckerphotography

 

22 ก.ค. 56 เวลา 21:19 4,197 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...