ปกติการสร้างสิ่งใหญ่โตจะต้องมีหลายๆ คนที่ช่วยกันคิดช่วยกันทำ แต่บางครั้งก็ต้องมีข้อยกเว้นบ้าง และนี่คือสิ่งก่อสร้างใหญ่ยักษ์ที่ดูน่าประทับใจจากไอเดียของคนเพียงคนเดียว

 

 

โบสถ์จากของเหลือใช้

สถานที่ : มาดริด ประเทศสเปน

Justo Gallego Martinez

ที่มาภาพ city noise

อะไรกันที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชายคนหนึ่งยอมใช้เวลา 50 ปี เพื่อสร้างโบสถ์ของตัวเองขึ้นมาจากเศษของเหลือใช้ บาทหลวงชาวสเปน Justo Gallego Martinez ประสบกับปัญหาชีวิตในปี ค.ศ.1961 เมื่อเขาเป็นโรควัณโรคและถูกขับไล่ออกจากศาสนจักร ดังนั้น เขาจึงเริ่มก่อสร้างโบสถ์ของตัวเองขึ้นมาโดยที่ไม่มีทั้งแบบพิมพ์เขียว ความรู้ด้านวิศวกรรม และไม่ได้ขออนุญาตสร้างตึกมาก่อน ส่วนวัสดุที่ใช้ในการสร้างส่วนใหญ่ก็คือข้าวของเครื่องใช้ที่คนทิ้งแล้วซึ่งได้มาจากการบริจาคจากในชุมชนกับอิฐที่ได้รับบริจาคมาจากโรงงานผลิตอิฐใกล้ๆ นั้น ทำให้ในที่สุดเขาก็มีวัสดุมากพอที่จะใช้ในการสร้างโบสถ์

โบสถ์ที่สร้างขึ้นนั้นมีขนาดประมาณ 20×50 เมตร และความสูง 40 เมตร หลังคาทรงโดมทำขึ้นจากกล่องอาหารพลาสติก เสาทำมาจากถังน้ำมัน และหอคอยก็ทำมาจากกระป๋องสีวางเรียงต่อๆ กัน Justo Gallego สร้างทั้งหมดนี้โดยไม่ใช้ทั้งคนงานหรือปั้นจั่น แต่โบสถ์นี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดใช้งานจริงได้เพราะไม่มีใครมั่นใจว่ารากฐานและคานต่างๆ จะแข็งแรงพอ จึงกลัวกันว่าถ้ามีคนเข้าไปใช้งานจริงโบสถ์อาจจะถล่มลงมาได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเมืองก็ยอมปล่อยให้เขาสร้างโบสถ์ต่อไปด้วยความชื่นชมในความพยายามของเขาและเพื่อให้สถานที่นี้กลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

ที่มาภาพ city noise

ถึงแม้โดยส่วนใหญ่แล้ว Justo Gallego จะทำงานก่อสร้างเพียงคนเดียว แต่บางครั้งก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้น นอกจากนั้นเขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากหลานๆ ทั้ง 6 คนอีกด้วย ในปี ค.ศ.2005 เครื่องดื่มยี่ห้อ Aquarius ได้จัดทำโฆษณาที่ทำให้ Justo Gallego และโบสถ์ของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ

ปัจจุบันนี้ Justo Gallego มีอายุได้ 87 ปีแล้ว ส่วนโบสถ์ของเขายังสร้างไม่เสร็จและประมาณกันว่าต้องใช้เวลาอีก 15-20 ปี

 

 

ปราสาทของ Solomon

สถานที่ : รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

Howard Solomon

ที่มาภาพ floridanabob

ปกติแล้วถ้าเราพูดว่า บ้านอย่างกับปราสาท หมายความถึงบ้านหลังใหญ่มากๆ จนเหมือนกับเป็นปราสาท แต่สำหรับ Howard Solomon ถ้าเขาพูดว่า เขาอาศัยอยู่ในบ้านที่เหมือนปราสาท นั่นก็เพราะเขาอาศัยอยู่ในปราสาทจริงๆ ที่สร้างขึ่นมาด้วยตัวเองกลางหนองน้ำที่รัฐฟลอริดา

ที่มาภาพ gypsyjournal , neatorama

Howard Solomon เริ่มต้นมาจากการเป็นศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะขึ้นมาจากขยะ เขาเริ่มสร้างปราสาทของเขาในปี ค.ศ.1972 ปัจจุบันนี้มันมีขนาดมากกว่า 12,000 ตารางฟุตและมีสามชั้น และถ้าแดดจัดๆ จะไม่สามารถถ่ายภาพปราสาทนี้ได้เลยเพราะผนังด้านนอกทั้งหมดทำมาจากแผ่นอะลูมิเนียมที่สะท้องแสงได้ ส่วนอิฐตรงทางเดินความจริงแล้วก็คือพื้นซีเมนต์ที่วาดเป็นรูปอิฐเอา มีกระทั่งคุกใต้ดินตามแบบปราสาทสมัยโบราณ ปราสาทนี้ใช้เป็นที่แสดงโชว์ผลงานนับร้อยๆ ชิ้นที่ขายไม่ออกของเขานั่นเอง

ผลงานศิลปะของ Howard Solomon

ที่มาภาพ gypsyjournal

จนถึงทุกวันนี้ Howard Solomon ก็ยังคงมีโปรเจคสร้างสิ่งของต่อเติมให้กับปราสาทของเขา โปรเจคล่าสุดคือ การสร้างเรือขนาด 60 ฟุต เลียนแบบเรือของโปรตุเกสในสมัยศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นห้องอาหาร ส่วนเป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือการขายปราสาทนี้ให้กับเศรษฐีสักคนเพราะเขาบอกไว้ว่า “มันชักจะใหญ่เกินไปแล้ว”

 

 

หอสังเกตการณ์ปล่องภูเขาไฟ Roden

สถานที่ : รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

James Turrell

ที่มาภาพ rodencrater

ถ้าดูจากภาพถ่ายทางอากาศแล้ว นี่ก็เป็นแค่ปล่องภูเขาไฟธรรมดาๆ ที่มีขนาดใหญ่เสียจนน่าสงสัยว่าแถวนั้นคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงไปอยู่ แต่ในขณะที่คนอื่นไม่ค่อยสนใจกับภูเขาไฟที่ดับแล้วแห่งนี้นัก James Turrell กับเห็นสิ่งนี้เป็นโอกาสอันดีในการสร้างสรรค์อันแปลกประหลาดของเขา

ที่มาภาพ echolocationexhibition

ในปี ค.ศ.1979 James Turrell ได้ซื้อพื้นที่ขนาด 3 ไมล์ ของปล่องภูเขาไฟที่มีอายุถึง 400,000 ปีนี้ไว้ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นผลงานศิลปะขนาดใหญ่ เขาใช้เวลา 30 ปี ในการขุดและเทคอนกรีตลงไปในปล่องนี้จนในที่สุดก็ได้เป็นห้องศิลปะขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันหลายๆ ห้องดูน่าทึ่ง และใช้สำหรับให้ผู้เยี่ยมชมได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ที่มาภาพ theasc , chriscoldewey , earthworksnearyou
ถ้าสร้างเสร็จสิ้นแล้ว สถานที่นี้จะมีอุโมงค์ยาวหลายพันไมล์เชื่อมต่อกับโถงใต้ดิน 7 แห่ง แต่อย่างไรก็ตาม กำหนดการเสร็จสมบูรณ์ก็ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้คนที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่นี่ก็มีแต่ตัวของ James Turrell เอง ยังมีคนงานก่อสร้าง เพื่อนสนิทไม่กี่คน และผู้บริจาคเงินรายหลักๆ เท่านั้น

 

 

Enchanted Highway

สถานที่ : รัฐนอร์ทดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา

Gary Greff

ที่มาภาพ vimeo

เมือง Regent ตั้งอยู่ในรัฐนอร์ทดาโคตา เป็นเมืองที่เหงียบเหงาเพราะมันไม่มีทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ไม่มีพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ไม่มีทะเลสาบ ป่า หรือภูเขา ทำให้เมืองนี้แทบจะไม่มีใครแวะผ่านมาเยี่ยม Gary Greff ชาวเมือง Regent เองก็เข้าใจปัญหาข้อนี้ดี เขาจึงตั้งใจจะสร้างอะไรสักอย่างที่จะทำให้เมืองเป็นที่สนใจขึ้นมาบ้าง

ในปี ค.ศ.1991 Gary Greff ซึ่งได้สร้างสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะทำให้ผู้คนมาเที่ยวที่เมืองมากขึ้นได้ นั่นก็คือ ครอบครัวหุ่นตะกั่ว ที่เขาคิดและสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง เป็นงานศิลปะหุ่นคนขนาดใหญ่ที่ดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาได้แน่นอน

ครอบครัวหุ่นตะกั่ว

ที่มาภาพ jqjacobs

นอกจากนั้นก็ยังมีตั๊กแตนขนาดใหญ่ งานศิลปะสร้างเป็นตัวนก และหุ่นปลาจำนวนมาก ทั้งหมดนี้ขนาดใหญ่โดน่าตื่นตาทั้งสิ้น

ที่มาภาพ jqjacobs , armchairtravelogue

สำหรับโครงการต่อไป Gary Greff มีโครงการจะสร้างใยแมงมุมจากโลหะขนาดใหญ่ เปิดร้านอาหาร และสวนน้ำในบริเวณนี้ด้วยเพื่อให้เข้ากับผลงานของเขา

 

 

อนุสาวรีย์ The Orange Show

สถานที่ : รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

Jeff McKissack

ที่มาภาพ orangeshow

Jeff McKissack พนักงานไปรษณีย์ ชาวเมือง Houston เป็นคนที่ชอบส้มมาก ชอบมากขนาดที่เขาใช้เวลา 24 ปี ในการสร้าง The Orange Show สถานที่เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ผลไม้ที่เขารักโดยเฉพาะ

สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1956 ถึง 1980 โดยใช้วัสดุเหลือใช้อย่างเช่น อิฐ กระเบื้อง รั้วไม้ และเครื่องมือเกษตรกรรมในการเปลี่ยนพื้นที่ว่างใกล้ๆ บ้านของเขาให้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่เต็มไปด้วยทางเดินซับซ้อนวกวน มีทั้งระเบียง ลานกว้าง และส่วนจัดแสดงที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคและหุ่นเหล็กทาสีสันสดใส จากนั้นเขาก็นำเอาสิ่งของต่างๆ มาใส่ในตึกนี้ ทั้งๆ ที่บางอันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส้มเลย เช่น อุปกรณ์ทำการเกษตร ชุดเจ้าสาว หรือเครื่องจักรพลังไอน้ำเก่าๆ

ที่มาภาพ toptenz , abitamysteryhouse

ที่มาภาพ orangeshow

Jeff McKissack มีความหวังว่าอยากให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่จะดึงดูดคนจากทั่วประเทศให้มาเที่ยว แต่น่าเศร้าที่หลังจากมันเปิดตัวได้ไม่นานเขาก็เสียชีวิตลงเสียก่อน หลังจากนั้นสิ่งก่อสร้างนี้ก็ค่อยๆ ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา จนกระทั่งปี ค.ศ.19282 กลุ่มผู้ชื่นชอบและศิลปินหลายคนก็รวมตัวกันจัดตั้งศูนย์แสดงงานศิลปะ Orange Show Center for Visionary Art ขึ้นมา เพื่อใช้สถานที่นี้ในการแสดงผลงานศิลปะ จัดงานคอนเสิร์ตของศิลปินอินดี้ และจัดปาร์ตี้แทน แต่โดยหลักๆ แล้วก็เพื่ออนุรักษ์ผลงานของชายผู้รักส้มคนนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูต่อไป

งานกาล่าของสมาคม Orange Show Center for Visionary Art