ครูหนุ่มโคราช โร่แจ้งความถูกตร.จราจรตบหน้า

พนักงานราชการ ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต 11 นครราชสีมา เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีภูธรเมืองนครราชสีมา หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตบหน้า

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (20ก.ค.56) นายศิริวัฒน์ สุพรหม อายุ 29 ปี พนักงานราชการ ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต 11 นครราชสีมา พร้อมด้วยภรรยา และลูกชาย วัย 1 ขวบ ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีภูธรเมืองนครราชสีมา หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรไม่ทราบ ยศ ชื่อสกุล ตบหน้า เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา บนถนนมิตรภาพ หน้าโรงเรียนสุรนารีวิทยา เขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมี พ.ต.ต.อธิเมศร์ พงศ์ทองวิทย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นผู้รับแจ้งความ

นายศิริวัฒน์ สุพรหม อายุ 29 ปี กล่าวว่า ตนเป็นครูสอนเด็กพิเศษ อยู่ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 11 ซึ่งวันเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์ มาเพียงลำพังเพื่อที่จะไปทำธุระให้กับโรงเรียนบริเวณ ถ.ช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อขับมาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนสุรนารีวิทยา ตนเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์หลายคันกลับรถ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณเกาะกลางถนน จึงจอดรถถามว่ารถยนต์สามารถกลับรถได้หรือเปล่า แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนดังกล่าว ตอบกลับมาด้วยกริยาวาจาไม่สุภาพ ด้วยความไม่พอใจตนจึงพูดออกไปว่า บอกกันดีๆ ก็ได้ ก่อนจะขับรถไปกลับตรงจุดที่กำหนด 

ขณะที่ตนขับรถมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนเดิมยืนอยู่ ถูกเพื่อนตำรวจเรียกตรวจ ซึ่งตนก็ยอมให้ตรวจแต่โดยดี และเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนดังกล่าว เดินเข้ามาหาพร้อมกับพูดว่า มึงว่าอะไรกู ก่อนที่จะยื่นมือเข้ามาตบที่หน้าของตนในรถ 1 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจและกลัว จนกระทั่งได้ปรึกษากับภรรยาและญาติพี่น้อง และต้องการไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวไปปฏิบัติกับประชาชนคนอื่น จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อต้องการให้ผู้บังคับบัญชาได้ตักเตือนเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ซึ่งต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชน เพื่อไม่ให้ไปทำร้ายประชาชนอีก

ด้านพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ ตนได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อให้แพทย์ทำบันทึกตรวจร่างกายตามขั้นตอน จากนั้นจะได้มีการสอบปากคำ ก่อนจะดำเนินการสืบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนดังกล่าวมาสอบปากคำตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ยืนยันว่าจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด

Credit: http://news.sanook.com/1198355/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...