18 กรกฎาคม 2556 ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดแถวๆ ศรีราชา เดินผ่านร้านที่ขายแผ่นเพลง มีเสียงเพลงหนึ่ง แว่วเข้ามาที่หู "ที่รักจ๋า เรามาสัญญากันใหม่ อย่าคิดให้มันช้ำใจ มาดีกันใหม่อย่าใจน้อยเลย" ยืนฟังจนเกือบจบเพลง แล้วทำให้ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปีก่อน
ในทุกเช้าจะได้ฟังเพลงนี้ จากห้องข้างๆ ทุกวัน ย้อนกลับไปครั้งครานั้น สมัยที่ฉันอายุแค่ 12 ปี ฉันเกิดเป็นลูกเด็กก่อสร้าง พ่อและแม่มีอาชีพทำงานก่อสร้าง
ซึ่งสมัยนั้น ฉันถือว่าฉันเป็นคนที่จนที่สุดในห้อง บ้านที่ฉันพัก พักอยู่ในแค้มป์คนงาน ที่ปลูกด้วยเสาร์ไม้ยูคาลิปและมุงด้วยสังกะสีที่ปลูกเรียงรายติดกัน
แม้ฉันจะถูกเอ่ยนามว่าเป็นแค่เพียงลูกเด็กก่อสร้าง แต่ฉันก็มานะที่จะไปเรียน และอยากเรียน ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนหนึ่งในอำเภอสัต-บ จังหวัดชลบุรี โรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า "สัต-บวิทยาคม" เป็นโรงเรียนที่พร่ำสอนให้ฉันเป็นคนอดทน ฉันได้ทุกเรียนดีทุกปี แม้ว่าจะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ไม่ค่อยเก่ง แต่อย่างน้อยวิชาอื่นฉันก็ได้เกรดดีพอดู
ทุกครั้งที่มีการจัดทัศนะศึกษาไปนอกสถานที่ ฉันจะเป็นนักเรียนคนเดียวในห้องที่ไม่ไปกับพวกเขา เพราะเวลาไปทัศนะศึกษามันต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งฉันไม่มีเงินมากพอขนาดนั้น ฉันจึงไม่เคยได้ไปในทุกครั้ง
แต่ฉันโชคดีนัก ที่มีเพื่อนในห้องที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันอยู่คนหนึ่ง ฉันเรียนมันว่า "อีวอ" วอ มากจากคำว่า "วรพจน์" วอ มีพ่อเป็นภารโรง และขายก๋วยเตี๋ยวในโรงเรียน
บ่อยครั้งที่ฉันไม่มีเงินซื้ออาหารกลางวัน ฉันจะมาช่วยพ่อของวอ ขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อแลกมาซึ่งก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม ในมื้อกลางวันเช่นนี้ บางครั้งฉันไม่มีค่ารถมาโรงเรียน ฉันก็จะมาอาศัยนอนบ้านของ "วอ"
ชีวิตฉันล่วงเลยมาจนฉันขึ้น ม.2 ฉันและวอกับเพื่อนร่วมชะตากรรมออกหางานทำกัน และแล้วเราก็พบร้านอาหารร้านหนึ่ง ที่ให้โอกาสเด็กนักเรียนทั้งหมด 7 ชีวิต
ได้ทำงานในทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ด้วยค่าจ้างของเราวันละ 80 บาท และมีอาหารให้เรากินทุกมื้อ ชีวิตของฉันและพองเพื่อนดำเนินต่อไป ร้านอาหารนี้ชื่อว่า "ร้านอาหารลุงไสว"
อยู่สุดเขตทะเลนาจอมเทียน ร้านนี้สอนอะไรพวกเราหลายๆ อย่าง สอนให้เราใช้ชีวิตในกรอบแห่งความดี ความสามัคคี และการตรงต่อเวลา สอนให้เราเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน และรักใคร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขอบคุณมากมาย ที่ทำให้พวกเราทั้ง 7 ชีวิตได้ร่วมทุกข์และสุขกันเรื่อยมา
จวบจนพวกเรา จบ ม.3 ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป ฉันก็ยังคงหาที่เรียนที่ฉันคิดว่าเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และสามารถให้ความรู้ฉันได้ แม้ชีวิตฉันไม่ได้สวยหรูเหมือนครอบครัวคนอื่นๆ แต่ฉันตั้งมั่นไว้เสมอ ว่าฉันจะอยู่ในกรอบแห่งความดี
ตอนนี้...ฉันโชคดี ฉันทำงานในตำแหน่ง ผู่ช่วยผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ในโรงงานแห่งหนึ่งแถวๆ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ศรีราชา ชลบุรี และเมื่อย้อนมองกลับไป ณ วันนี้ ฉันอยากขอบคุณมากนัก
** อีวอ เพื่อนคนหนึ่ง ที่ฉันไม่เคยลืมในชีวิต ถ้าไม่มีแก ฉันคงไม่มีวันนี้
** นังโรส ถ้าไม่ได้แก ในวันที่ฉันป่วยมาก ฉันคงไม่มีเงินและคนพาไปหาหมอ
** ปุ๊กกี้ จอย โอ่ง มล ติ๊ดตี่ เพื่อนที่ร่วมชะตากรรมในการเป็นเด็กเสริฟ ที่่่คอยอยู่ข้างกันเสมอ
** ร้านลุงไสว ที่ให้โอกาสเด็กจนๆ อย่างฉันทำงานเพื่อชีวิตที่อยู่รอดและมีเงินไปโรงเรียน
ขอบคุณ พ่อและแม่...ที่ให้ความแข็งแกร่ง จนฉันเติบใหญ่เช่นทุกวัน
ขอบคุณกับความลำบาก ถ้าฉันไม่ได้ลำบากเมื่อวันนั้น ฉันคงไม่ได้ดีในวันนี้
ขอบคุณทุกคนที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่เคยให้โอกาสเด็กจนๆคนหนึ่งที่ชื่อ"ป้อม" ได้ทำในสิ่งที่ฝันใฝ่
อย่างน้อยครั้งหนึ่ง ฉันก็เคยโชคดีกับเขา
ป้อม..ลูกเด็กก่อสร้าง
หมีกะอ้วน
เมื่อวานนี้ เวลา 11:35 น.