โลกเรามีงานศิลปะอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่ในจำนวนนี้ก็มีผลงานศิลปะชั้นยอดที่บางอันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีอยู่ด้วย และคนธรรมดาอย่างเราๆ คงไม่มีโอกาสได้ดูของจริง
พิพิธภัณฑ์ดวงจันทร์
ที่มาภาพ guardian
ในปี ค.ศ.1969 NASA เพิ่งประสบความเสร็จกับภารกิจมนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์และได้รับอนุมัติงบให้ทำงานชิ้นต่อไป ในชื่อ Apollo 12 ที่นอกเหนือจากส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดวงจันทร์อีกรอบแล้ว คราวนี้ NASA ตัดสินใจร่วมมือกับศิลปินเพื่อส่งผลงานศิลปะในชื่อ“พิพิธภัณฑ์ดวงจันทร์ (Moon Museum)” ขึ้นไปด้วย
ผลงานนี้วาดขึ้นโดยศิลปิน 6 คน บนแผ่นเซรามิกเล็กๆ ออกมาเป็นอย่างที่เห็น ปัญหาอยู่ที่ภาพซ้ายบนที่วาดโดย Andy Warhol
Moon Museum
ที่มาภาพ wikipedia
เมื่อวันปล่อยยานใกล้เข้ามา NASA เองก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าอยากจะเอาแผ่นที่มีภาพของจรวด (ที่ดูเหมือนอย่างอื่นมากกว่า) ขึ้นไปไว้บนดวงจันทร์ ไม่ใช่เพราะความอายแต่เพราะไม่มีอะไรรับประกันว่าผลงานชิ้นนี้จะไปอยู่บนดวงจันทร์ได้เรียบร้อยปลอดภัย
แต่วิศวกรของ NASA คนหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ John F. แอบวางแผนลับๆ เพื่อพาผลงานชิ้นนี้ขึ้นไปพร้อมกับยาน Apollo 12 ด้วยความร่วมมือของเหล่านักบินอวกาศที่ทำภารกิจนี้ ในที่สุดมันก็ได้ไปอยู่บนดวงจันทร์ตามแผนเดิม
ที่มาภาพ monyeux
ดังนั้น ถ้าวันไหนคุณได้แหงนมองดวงจันทร์ ก็อย่าลืมว่าบนนั้นมีผลงานศิลปะชิ้นสุดยอดของมนุษย์ที่เราคงไม่มีทางได้เห็นของจริงอยู่บนนั้นด้วย
ภาพวาดในถ้ำ Chauvet และถ้ำ Cosquer
ที่มาภาพ wikipedia
ภาพวาดยุคก่อนประวัติศาสตร์ในถ้ำที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด คือ ที่ถ้ำ Lascaux ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันนี้ภาพที่ว่านี้เสียหายไปมากแล้ว เพราะแต่ก่อนถ้ำนี้เปิดให้คนเข้าชมได้ด้วยความไม่รู้ว่า ลมหายใจของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ไปทำให้เกิดความเสียหายต่อผลงานทางประวัติศาสตร์นี้ หลังจากนั้นทางการฝรั่งเศสจึงต้องจำกัดการเข้าชมเพื่อรักษาสภาพของภายในถ้ำเอาไว้
ภาพวาดภายในถ้ำ Lascaux
ที่มาภาพ nationalgeographic , faculty.umb.edu
ดังนั้น ในปี ค.ศ.1994 เมื่อมีการค้นพบถ้ำที่มีผลงานศิลปะก่อนประวัติศาสตร์อยู่ที่ ถ้ำ Chauvet ทางการฝรั่งเศสจึงต้องรีบดำเนินการป้องกันไว้ก่อน โดยการห้ามคนเข้าไปในถ้ำนั้น ทำให้จนถึงทุกวันนี้ มีคนเพียงจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่เคยเห็นภายในของถ้ำ
ภาพวาดภายในถ้ำ Chauvet
ที่มาภาพ francedc
อย่างไรก็ตาม ผลงานศิลปะในถ้ำพวกนี้บางอันเราไม่มีทางได้เห็นไม่ใช่เพราะมันถูกจำกัดโดยรัฐบาล แต่เพราะมันอยู่ในสถานที่ๆ ยากจะเข้าถึงได้ อย่างเช่น ที่ถ้ำ Cosquer ซึ่งมีผลงานศิลปะชิ้นเก่าแก่อยู่ ถ้ำนี้อยู่มานานถึงขนาดที่ว่าสภาพภูมิประเทศแถวนั้นได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว จากที่เคยเป็นพื้นดินที่คนอยู่อาศัยได้ ปัจจุบันถ้ำแห่งนี้ได้กลายเป็นถ้ำใต้ทะเล
ถ้ำ Cosquer
ที่มาภาพ culture.gouv.fr , bradshawfoundation
ถ้าคุณอยากจะไปชื่นชมกับผลงานศิลปะในถ้ำนี้ คุณจะต้องดำน้ำลึกลงไป 100 ฟุต จากนั้นก็ว่ายผ่านช่องแคบมืดๆ ที่ยาว 574 ฟุต เพื่อเข้าไปชม
คอลเลคชั่นผลงานศิลปะของ Steven A. Cohen
ที่มาภาพ online.wsj.com
Steven A. Cohen สุดยอดนักลงทุนแห่ง Wall Street ผู้ร่ำรวย มีความหลงไหลอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือ งานศิลปะ เขาซื้อผลงานของ Jackson Pollock ไปในราคา 52 ล้านเหรียญดอลล่าร์
ผลงานโดย Jackson Pollock
ที่มาภาพ bornrich
ปลาฉลามดอง (ของจริง) โดยศิลปิน Damien Hirst ในราคา 12 ล้านเหรียญดอลล่าร์
ปลาฉลามดอง โดย Damien Hirst
ที่มาภาพ bornrich
และผลงานของปิกัสโซ
ผลงานของปิกัสโซ
ที่มาภาพ bornrich
แต่ต่างจากนักสะสมผลงานศิลปะคนอื่นๆ ซึ่งมักจะเปิดแสดงงานสะสมหรือสร้างพิพิธภัณฑ์เป็นของตัวเอง Cohen กลับซื้อผลงานสุดแพงพวกนี้เพียงเพราะเขาชอบมันและอยากเก็บเอาไว้ดูเองเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางวิธีที่คุณจะได้เห็นผลงานศิลปะในครอบครองของเขา อย่างเช่นในปี ค.ศ.2006 เขาได้นำเอาบางชิ้นมาแสดงที่งานประมูล Sotheby’s auction house แต่ก่อนที่คุณจะเข้าไปร่วมงานประมูลนี้ได้ คุณก็ต้องมีเงินประมาณพันล้านเหรียญดอลล่าร์มาโชว์ก่อนผู้จัดงานถึงจะให้คุณเข้า หรือไม่อีกทางหนึ่งก็คือ เข้าไปดูในห้องทำงานส่วนตัวของเขาเลย แต่วิธีนี้คุณอาจจะถูกเตะโด่งออกมาเสียก่อนจะได้ก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไปอีก
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์แห่งที่ 2
ที่มาภาพ famouswonders
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre) ในประเทศฝรั่งเศส น่าจะเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกซึ่งเก็บผลงานศิลปะอันหาค่ามิได้หลายชิ้นเอาไว้ แต่ที่คุณอาจจะไม่รู้ก็คือ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีสถานที่ๆ เรียกว่า ห้องเก็บของลูฟวร์ หรือ ลูฟวร์ที่ถูกลืม หรือแม้แต่ทางระบายน้ำลูฟวร์ อยู่ด้วย
ที่มาภาพ vacation-tours
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นเจ้าของโรงเก็บของหลายแห่งทั่วกรุงปารีส ซึ่งโรงเก็บของเหล่านี้ใช้สำหรับเก็บงานศิลปะที่ไม่รู้จะเอาวางไว้ไหนหรือ เอาไปเก็บไว้นานมากจนลืมไปแล้ว อย่างเช่น หีบศพโบราณจากอียิปต์ถูกเก็บไว้ในห้องลับในทางระบายน้ำใต้พิพิธภัณฑ์มาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว เนื่องจากไม่มีที่ให้วาง หรือกระเบื้อง 3,000 ชิ้นจากยุคปีที่ 16 ของจักรวรรดิออตโตมัน ที่ถูกจับยัดไว้ให้ห้องเก็บของตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 และถูกลืมไปแล้วจนกระทั่งเร็วๆ นี้เ้องที่มีคนไปพบเข้าและนำออกมาจัดเรียงใหม่
ทางระบายน้ำใต้ลูฟวร์และแผ่นกระเบื้องสมัยจักรวรรดิออตโตมัน
ที่มาภาพ google , nytimes
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็มีระบบจัดการของที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผลงานศิลปะทั้งหมดจะได้ขึ้นมาจัดแสดงให้พวกเราได้เห็นกันในเร็วๆ นี้ เหตุก็เพราะว่าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผลงานศิลปะในครอบครองมากเกินไปจนไม่มีที่ให้วางทั้งหมดนั่นเอง
ห้องน้ำของพระสันตะปาปา
ที่มาภาพ dangelos
เราสามารถบอกอะไรได้มากมายจากการดูห้องน้ำของคนๆ หนึ่ง ถ้าในนั้นมีสบู่กลิ่นแฟนซีๆ อยู่ ก็อาจจะแปลได้ว่ามีผู้หญิงอยู่ในบ้าน หรือถ้ามีแชมพูแบบพิเศษอยู่เจ้าของห้องน้ำก็อาจจะมีปัญหาเรื่องรังแค แล้วถ้าเป็นห้องน้ำของพระสันตะปาปาล่ะ คุณคิดว่าจะเป็นห้องน้ำแบบไหน?
ที่มาภาพ margefenelon
ห้องน้ำของพระสันตะปาปาเป็นสถานที่ๆ ไม่ใช่ใครก็เข้าไปดูได้ เพราะนอกจากมันที่สถานที่ทำธุระส่วนตัวของท่านแล้ว ยังเป็นเพราะห้องน้ำนี้เต็มไปด้วยผลงานภาพเปลือย โป๊ และติดเรทที่วาดขึ้นตั้งแต่สมัยก่อน
เพื่อให้เข้าใจได้อย่างถูกต้องว่าทำไมต้องภาพโป๊ เราต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายศตวรรษที่แล้วที่ภาพแบบนี้ถือว่าเป็นศิลปะและไม่ใช่ภาพอนาจาร ในยุคศตวรรษที่ 16 Raphael ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ได้สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงในชื่อ “Stufetta del Cardinal Bibbiena” ขึ้นมาตามคำสั่งของพระคาดินัล Bibbiena ผู้ซึ่งชอบผลงานภาพวาดอีโรติกของชาวพีแกนมากเป็นพิเศษ และขอให้ Raphael วาดภาพแบบนี้ไว้เต็มผนังห้องน้ำของเขา
ห้องน้ำของ Bibbiena
ที่มาภาพ wikipedia
เมื่อเวลาผ่านไป ห้องน้ำของ Bibbiena ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในที่พักของพระสันตะปาปา และแน่นอนว่าห้องน้ำนี้ไม่มีทางถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะเห็นผลงานชิ้นนี้จริงๆ คุณต้องอุทิศตัวให้กับศาสนาแล้วพยายามเป็นพระสันตะปาปาให้ได้ จึงจะมีโอกาสได้เห็น
ที่มา Cracked
ที่มาภาพประกอบ ramp.ie