เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อดีตลูกศิษย์เณรคำแฉ มีหน่วยงานราชการสนับสนุน เผยรถหรูซื้อมาจากเสี่ยโย ย่านเพชรบุรี ด้านภรรยาและลูกชาย เรียกค่าดูแล 40 ล้าน ขณะที่พบพิกัดบ้านเณรคำริมทะเลสาบในสหรัฐฯ คาดยังคงกบดานอยู่ ส่วนด้าน ปปง. ขู่ คนเอี่ยวย้ายเงิน เณรคำ 300 ล้าน โดนโทษหนักด้วย
วานนี้ (16 กรกฎาคม 2556) อดีตลูกศิษย์เณรคำ ได้เปิดเผยถึงข้อมูลการครอบครองรถหรูของเณรคำ โดยระบุว่า รถที่ได้มานั้น ซื้อมาจากเสี่ยโย เจ้าของบริษัทจำหน่ายรถยนต์นำเข้าแห่งหนึ่งย่านเพชรบุรีตัดใหม่ ทั้งยี่ห้อมายบัช จำนวน 2 คัน, เบนซ์ จำนวน 2 คัน, บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น เอ็กซ์ 6 จำนวน 4 คัน, เลคซัส จำนวน 1 คัน และรถโรลรอยซ์มือสองอีกจำนวน 1 คัน
นอกจากนี้ อดีตลูกศิษย์ ยังเผยด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าเณรคำได้แจกรถหรูให้พระชั้นผู้ใหญ่ และบุคคลสำคัญนั้น ยังเปิดเผยไม่หมด อีกทั้งยังทราบมาว่าเณรคำมีส่วนราชการหลายแห่งให้การสนับสนุน จึงอยากให้หน่วยงาน DSI ตรวจสอบอย่างละเอียด
ส่วนทางด้าน ภรรยาวัย 26 ปี และลูกชายวัย 11 ปี ของเณรคำ ได้เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอให้ศาลสั่งเณรคำรับรองบุตรที่เกิดด้วยกัน เพื่อให้ลูกได้มีสิทธิในทรัพย์สินอย่างถูกต้อง โดยหญิงสาวคนดังกล่าว ระบุว่า ลูกชายของตนไม่ได้รับการส่งเสียเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องต่อศาล พร้อมฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่แรกคลอดไปจนถึงบรรลุนิติวะ หรือ อายุ 20 ปี โดยเรียกค่าเสียหายปีละ 2 ล้าน รวมเป็นเงิน 40 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เณรคำได้ไปกบดานที่สหรัฐอเมริกานั้น เมื่อตรวจสอบทราบว่า พื้นที่บ้านพักดังกล่าว ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Lake Elsinore โดยมีเทือกเขาเล็ก ๆ สลับกับทุ่งหญ้าล้อมรอบ ซึ่งตรงกับภาพที่เณรคำเคยมาท่องเที่ยวกับลูกศิษย์ก่อนหน้านี้ ส่วนบริเวณบ้านมีธงชาติและธงธรรมจักร พร้อมป้ายบอกสถานที่เป็นภาษาไทยว่า "วัดป่าขันติบารมี" และมีชื่อกำกับทั้งภาษาไทยและภาษาลาวด้วย
สำหรับบ้านหลังดังกล่าว พบว่าปิดประตูเงียบ ไม่มีคนเดินเข้าออกบ้านแต่อย่างใด มีเพียงแต่รถเบนซ์ อี 500 สีขาว จอดอยู่ โดยทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของเณรคำที่ใช้เป็นยานพาหนะในสหรัฐ เลยทำให้เชื่อว่า เณรคำยังคงกบดานอยู่ที่บ้านหลังนี้ ไม่ได้เดินทางออกจากสหรัฐฯ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนบ้านหลังนี้ ทราบว่ามีการซื้อต่อมาในราคา 230,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 7 ล้านบาท
ในส่วนของความคืบหน้าเรื่องคดีความ ทางด้าน พ.ต.ท. ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ว่า เริ่มเข้มงวดกว่าเดิม โดยจัดทีมลงพื้นที่ จนได้ข่าวความผิดมูลฐาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง และเส้นทางการเงินมากขึ้นพอสมควร
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า อดีตพระเณรคำ ยักย้ายถ่ายเทเงินในบัญชีจาก 300 ล้าน จนเหลือ 3 ล้านบาทนั้น ส่วนนี้จะมีการประสานกองปราบปราม ตรวจสอบยอดที่แท้จริงอีกครั้ง แต่การตรวจสอบไม่ได้ยึดเพียงชื่อเท่านั้น เพราะเชื่อว่าต้องมีการโยกย้ายเงินแน่นอน โดยจะตรวจสอบบัญชีของเครือญาติด้วย ซึ่งมีร่องรอยให้ติดตามได้ และเป็นหลักฐานที่ชัดเจน จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องอยู่นิ่ง เพราะหากเกี่ยวข้องก็จะผิดฐานฟอกเงินด้วย โอน 1 ครั้ง นับเป็น 1 กรรม 1 วาระ โทษเพิ่มเป็นทวีคูณด้วย
ส่วนข่าวทองคำ 8,000 กิโลกรัม ตอนนี้ยังพบเป็นเพียงข่าวที่พูดต่อ ๆ กันมา ซึ่งยากกว่าการติดตามเส้นทางเงิน แต่หากผู้มีเบาะแสก็ให้แจ้งเข้ามาจะเร่งตรวจสอบเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก