ในยุคที่พระออกนอกลู่นอกทางกันเยอะ เป็นกระแสให้เกิดวิกฤต
ศรัทธา "พระไทย" กันมากขึ้น เห็นได้จากข่าวตามหน้าหนังสือ
พิมพ์และสื่อต่างๆ ทีมีข่าวจนคนต้องทุกข์เพราะ "พระ" ไม่เว้นแต่
ละวัน
มาคราวนี้แม้จะไม่ใช่เรื่องของพระที่สร้างความสั่นสะเทือนวงการ
ศาสนาเหมือนที่ผ่านๆมา แต่ก็มีประเด็นให้พูดถึงในเรื่องความไม่
เหมาะสมของ "พระแจ๊ส" อดีตมิสทิฟฟานี่ปี 2009 ที่ถูกนิมนต์ให้
เดินทางมาเทศน์สอนธรรมะที่ร้าน "จีสตาร์ พาวิลเลี่ยน" ซึ่งเป็นผับ
เกย์ของเพื่อนคนสนิท
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหู ถึงลีลาการเทศน์และความ
เหมาะสมเรื่องสถานที่ในการแสดงธรรมครั้งนี้
สร้างปรากฎการณ์ เทศน์ในผับ (เกย์)
หลังจากที่ "แจ๊ส-สรวีย์ นัดที" อดีตมิสทีฟฟานี่ปี 2009 ตัดสินใจผ่านมดึงซิลิโคนออก แล้วไปบวชที่วัดเลียบ จังหวัดสงขลา และได้ฉายา "พระมหาวิริโยภิกขุ" จนกลายเป็นข่าวหน้า 1 ไปทั่วประเทศนั้น ก็ได้เดินทางไปเทศน์ตามโรงเรียน โรงพยาบาล แล้วแต่ญาติโยมจะนิมนต์ จนล่าสุดพระพระแจ๊สได้ถูกนิมนต์ให้มาแสดงธรรมะในผับเกย์ของเพื่อนคนสนิทชื่อ "หนุ่ม จีสตาร์" และเป็นสถานบันเทิงที่พระแจ๊สเคยมาบ่อย ๆ สมัยยังไม่ได้บวช
เรื่องนี้ ดูเหมือนจะไม่เกิดกระแสขึ้นมา หากไม่มีการเผยแพร่คลิปผ่านทางเว็บไซต์ยูทิวบ์โดยผู้ใช้นามว่า knewstation และตั้งชื่อคลิปว่า "ลีลาเทศน์ พระแจ๊ส อดีตมิสทิฟฟานี่" ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา จากคลิปดังกล่าว ด้วยลีลา การใช้ภาษา และการแทนตัว รวมไปถึงสถานที่แสดงธรรม เป็นเหตุให้ถูกตั้งคำถามตามมาจากสังคมกลุ่มหนึ่งว่า เหมาะสมแล้วหรือกับความเป็นพระของท่าน!
เห็นได้จากความเห็นของคนที่เคยทำงานอบรมด้านคุณธรรมกับค่ายคุณธรรมร่วมกับพระนักสอนนักเทศน์มากมายท่านหนึ่ง เขาไม่ได้กล่าวโทษไปที่ความเป็นเพศสภาพ และความเหมาะสมในการบวช แต่อยากให้มองที่เนื้อหา กิริยา ท่าทาง ความเหมาะสมของการเทศน์ครั้งนี้ เพราะการบวชไม่ใช่เรื่องผิด ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ที่เกิดมาเป็นชายทุกคน แต่การดำรงตนอยู่ในสมณเพศนั้น เป็นเรื่องที่ยากกว่า และต้องพิสูจน์ตนให้สังคมได้เห็น
ส่วนความเห็นอื่น ๆ ในโลกออนไลน์ ได้มีความเห็นต่อกรณีนี้อย่างหลากหลาย แต่ที่น่าสนใจ คือ ความเห็นยอดนิยมในเว็บข่าว ASTVผู้จัดการ ออนไลน์ หลังจากมีการโพสต์ข่าว "พระแจ๊ส" จัดแน่นเทศน์ผับเกย์ ทำใจโดนวิจารณ์ พระตุ๊ดบุกผับเกย์ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.ค. ส่วนหนึ่งมองเป็นเรื่องดี และน่าชื่นชม
"พระแจ๊สเป็นบุคลที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า เกิดมามืดแต่ใช้ชีวิตสว่าง และต่อไปตายแบบสว่าง หมายถึงก่อนที่จะมาบวชพระอยู่ในกามโลกีย์ แล้วมาบวชพระเพื่อสั่งสอนเยาวชนให้ทำความดี ไม่เหมือนเณรคำนั้นเป็นแบบ มาสว่าง แต่ตายไปแบบมืด คือ เริ่มต้นดีเป็นเณร ต่อมากลายมาเป็นคนชั่วและต่อไปตายแบบคนชั่วตกนรก" (คุณ seamilar@hotmail.com)
"ทุกเย็นของวัดเลียบที่ จ.สงขลา จะมีสวดมนต์เย็น นั่งสมาธิ และเทศน์ พระแจ๊สขึ้นเทศน์บ่อยๆ วันไหนที่พระแจ๊สขึ้นเทศน์คนก็จะเยอะมาก คนแก่ๆจูงกันมา ชอบฟังธรรมะจากพระแจ๊ส ไม่มีใครบังคับพวกเขาให้มา เขามาด้วยศรัทธา" (คุณ Beer)
"..สิ่งที่พระแจ๊สพูดน่ะ ตั้งสติ อ่านให้จบอ่านแล้วทำความเข้าใจอย่าเพิ่งไปอคติ ว่านี่คือคำพูดของพระที่มีอดีตเป็นนางงามกะเทย อย่าเพิ่งอคติว่าเขาเพิ่งบวชไม่กี่วัน มาตั้งตนเทศน์ในผับในบาร์ ความรู้ในธรรมะ มันไม่แปลกปลอมหรอก อย่าหลงยึดติดในรูปแบบกันนักเลย ไม่ว่าจะออกมาจากปากใคร หากมันเป็นธรรมะอันแท้จริง มันก็ย่อมจะมีคุณค่าควรแก่การรับฟัง กิเลสที่หนาๆ นั่นน่ะเกลาเสียบ้าง ชีวิตจะได้ไม่อับเฉา.." (ไม่ได้ระบุชื่อ)
"ยังไม่พ้นนวกะเลย อุปัชฌาย์ ปล่อยมาสอนธรรมะได้ไงครับ อย่าเพิ่งใจร้อนริเป็นอาจารย์ครับ"
"เพิ่งบวชไปผับระวัง ตบะแตก"
"ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเพราะไม่ค่อยมั่นใจในกะเทย ส่วนมากอยากดัง พวกนี้จะทำได้ทุกอย่าง พูดเก่งหลอกลวงเก่ง"
"บวชได้ไม่นาน ทำไมอุปัชฌาย์ปล่อยให้รับนิมนต์เดินสายเทศน์นอกวัดเร็วจัง"
"ช่วงผ้าหลืองยึดข่าวหน้า 1 ทำอะไรเงียบๆๆ ไม่เป็นไง ต้องทำตัวให้เป็นข่าว ร้อนวิชามากไง"
แม้จะรู้ถึงผลที่ตามมาจากการมาเทศน์ในสถานที่อโคจรแบบนี้ แต่ "พระแจ๊ส" ก็น้อมรับถึงผลที่จะตามมา และไม่หวั่นที่จะโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และนี่คือข้อความตอนหนึ่งของพระแจ๊สที่ได้เคยพูดเอาไว้ ก่อนจะกลายมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเวลาต่อมา
"ตัวอาตมาเอง มาที่นี้ก็รู้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เยอะ เพราะข่าวหน้าหนึ่งพระเยอะมาก อาตมานั่งคุยกับโยมมาส่งก็เผื่อใจไว้แล้วแหละว่า เดี๋ยวก็คงจะมีพาดข่าวหน้าหนึ่งว่าพระตุ๊ดเข้าบาร์เกย์ พระตุ๊ดเข้าบาร์เกย์สยบข่าวเณรคำชะงัก ไม่ใช่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เจตนาฉันมาเพื่ออะไรเพื่อทุกคนที่นี่"
"อย่างซานติก้าผับโดนเผาตายวิญญาณอยู่ไหน แล้วฉันมาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อให้เจ้าของร้าน พนักงานที่นี่และลูกค้าได้ฟัง ถ้าเธอหนีไม่ได้ต้องทำงานที่นี่ต้องเที่ยวที่นี่ เที่ยวยังไงให้จิตไม่ถอยไปกับกิเลสจิตไม่ไปนรกก่อน ตาหูจมูกลิ้นได้สัมผัสก่อนไปเลย มารู้ตัวอีกทีสายไปซะแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันมาเพื่ออะไร ให้เธอรู้ทันจิตของเธอ แม้เธอเที่ยวเธอเที่ยวยังไงไม่ให้ไปนรก เที่ยวยังไงให้ไกลเปรตเดรัจฉาน"
อีกประเด็นที่ถูกจุดตามมาหลังคลิปถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ คือ การที่เจ้าของสถานบันเทิง ได้นิมนต์พระแจ๊สมาเทศน์ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม แม้เจ้าตัวจะให้เหตุผลว่า อยากจะให้พนักงานที่อยู่ในร้านได้ฟังธรรมะ ซึ่งไม่คิดว่าการที่พระมาสถานที่แห่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดแต่อย่างใด เพราะได้นิมนต์พระมาทำบุญที่นี่เป็นประจำ
เมื่อถามไปยังนักวิชาการด้านศาสนาอย่าง ดร.ธวัช หอมทวนลม อาจารย์จากคณะศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย นักวิชาการท่านนี้ ให้ทัศนะผ่านทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live อย่างตรงไปตรงมาว่า แม้เจ้าของสถานบันเทิง และพระจะมีเจตนาที่ดี ต้องการแสดงธรรมให้พนักงาน และลูกค้าเกิดปัญญา แต่ถ้าสถานที่ไม่ถูกกาลเทศะก็ถือว่าไม่เหมาะสม
"ส่วนตัวมองว่า พระไม่ควรมาเทศน์ในสถานที่แบบนี้ โดยทั่วไปไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีเจตนาที่ดีก็ตาม ถ้านิมนต์มาทำพิธี เป็นขวัญกำลังใจ พรมน้ำมนต์ ตรงนี้ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่มันยามวิกาล และเป็นสถานที่ที่คนมาเที่ยวกัน ยังไงการแสดงธรรมในสถานที่แบบนี้ก็ดูไม่เหมาะสมอยู่ดีครับ ซึ่งไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่มีสถานที่อื่นที่ดีกว่านี้อีกไหม เพราะตัวพระเองอาจถูกมองในแง่ลบก็เป็นได้"
อย่างไรก็ดี ยังมีหลาย ๆ ฝ่าย เห็นต่างออกไปว่า สถานบันเทิงเริงรมย์ ถ้าเข้าไปเที่ยวถึงจะถือว่าเป็นที่อโคจร ถ้าพระเข้าไปให้แสงสว่างให้ธรรมะกับคนกลุ่มนี้ ไม่ถือเป็นที่อโคจรแต่อย่างใด ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง
ทั้งนี้นักวิชาการด้านศาสนาคนเดียวกัน ยังติงไปยังบุคคลที่นิมนต์ "พระแจ๊ส" มาเทศน์ในสถานที่ดังกล่าวด้วยว่า มีสถานที่อีกหลายแห่งที่เหมาะสมกว่านี้ การมาเทศน์ในสถานบันเทิงเริงรมย์ อาจทำให้พระถูกมองในแง่ลบได้ อีกอย่าง อาจส่งผลกระทบต่อตัวพระเองด้วย นอกจากนั้นแล้ว คนฟังอาจได้ธรรมะไม่เต็มที่ เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการรับรู้ และซึ้งในรสพระธรรม
"ส่วนตัวมองว่า การมาเทศน์ครั้งนี้ ถ้าได้ฟังในสถานที่ดี ๆ มีคำสอนเตือนใจ แล้วคนฟังก็ตั้งใจมาฟังจริง ๆ ตรงนี้คนฟังได้ประโยชน์แน่นอนครับ" นักวิชาการด้านศาสนาท่านนี้เผย
ส่วนในมุมของพระ ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ได้พยายามติดต่อไปยังพระหลายๆ รูป ซึ่งแต่ละท่านไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวนี้เลย
มองที่เจตนา อย่ามองที่สถานที่
งานนี้พระแจ๊สกล่าวว่า ทำใจมาแล้วว่าอาจจะมีกระแสวิจารณ์ไม่ดีออกมาบ้างเช่น พระ
ตุ๊ดเทศน์ในผับเกย์เป็นต้น แต่ในมุมมองของผม ผมกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดีพระแจ๊สและ
เจ้าของผับดังกล่าวมีความคิดสร้างสรรค์ สาเหตุที่พระแจ๊สยอมแสดงธรรมในผับก็เพราะ
ว่าอยากให้พนักงานที่ทำงานกลางคืนและนักท่องเที่ยวเพศที่ 3 ได้มีโอกาสฟังธรรมกัน
บ้าง เพราะถ้าจะพูดกันตรงๆแล้ว คนกลุ่มนี้คงมีโอกาสเข้าวัดน้อยเนื่องจากเวลากินและ
นอนมีเวลาที่ต่างและกลับกันจากคนทั่วไป
หลายคนอาจมองว่าการแสดงธรรมในที่อโคจร เป็นสิ่งไม่เหมาะสมแต่ในเมื่อพระแจ๊สทำ
ในสิ่งที่ดี ไม่ได้กระทำการใดๆที่เสื่อมเสียวงการผ้าเหลืองแถมยังเทศนาสอนให้คนมีดวง
ตาที่เห็นธรรมมากขึ้น ผมเองว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากกว่านะครับ เราควรจะมองที่วัตถุ
ประสงค์และการกระทำมากกว่ามองที่สถานที่ ถ้าการแสดงธรรมของพระแจ๊สทำให้คน
กลับตัวกลับใจ ปรับเปลี่ยนความคิดได้ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ
(วิภา...วดี) จาก http://www.dailynews.co.th/article/25/219381
ทั้งหมดนี้เป็นอีกหนึ่งกระแสพระในยุคที่พระตกเป็นข่าวฉาวจนน่าใจ หายแม้ในกรณีนี้จะไม่ใช่เรื่องฉาวอย่างที่ผ่านๆมาก็ถือเป็นเรื่องที่คน ให้ความสนใจค่อนข้างมาก ดังนั้นหากบวชเป็นพระแล้วคิดดี ทำดี เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้านำหลักธรรมคำสั่งสอนมาเผยแพร่ด้วย เจตนาบริสุทธิ์ ก็ขออนุโมทนาด้วย แต่การเป็น "พระ" ต้องไม่ลืมคำว่า "สำรวม" ทั้งท่าทีการพูด และลี ลาการเทศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระที่มีภาพของเพศที่ 3 ติดพ่วงมา ด้วย แม้จะมีคุณสมบัติทางกายภาพพร้อมบวชแต่การครองตนให้อยู่ ในสมณเพศ ถือเป็นเรื่องที่ต้องอยู่ในระเบียบอันดีงาม นั่นเพราะสังคม กำลังจับตาดูอยู่...
***********************************