เหล่าหมู่เกาะอังกฤษนั้นคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสหราชอาณาจักรอังกฤษขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไอแลนด์ หรือเกาะอื่นๆ ต่างมีตำนานและเรื่องเล่าที่ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อรวมกันแล้วก็ทำให้เกิดตำนานของสัตว์ที่น่าสนใจดังที่ปรากฎในบทความต่อไปนี้

เครดิต : รถด่วน

แหล่งที่มา : http://listverse.com , แปลและเรียบเรียงโดย toptenthailand

ขอเริ่มที่เรื่องออกจะหดหู่สักนิดก่อนแล้วกัน บีน ไนช์เป็นตัวละครจากเรื่องเล่าพื้นบ้านของชาวบ้านชาวสก๊อตเกี่ยวกับคนธรรมดาที่ตายไปแล้วกลับมาในฐานะนักท่องเที่ยวจากโลกอื่น (เช่น โลกของพระเจ้า นางฟ้า ภูตผีและอื่นๆ) เล่ากันว่าวิญญาณจะปรากฏให้เห็นในรูปของผู้หญิงที่กำลังซักเสื้อผ้าเปื้อนเลือดใครสักคนที่กำลังจะชะตาขาด และถ้าใครเดินไปถามดีๆ กับหล่อนแล้วละก็ หล่อนก็จะบอกชื่อคนที่กำลังจะชะตาขาด ยังเล่ากันอีกว่าเธอจะให้เราถามคำถามได้ 3 ข้อ แลกกับคำตอบ 3 คำตอบจากเรา สังเกตเธอได้จาก หน้าตาอันแสนน่าเกลียด เท้าพังผืด มีฟันซี่เดียวและรูจมูกรูเดียว หรือบางครั้ง (ซึ่งน้อยมาก) หล่อนจะเป็นหญิงสาวสวย แบบนี้ยังอยากลองคุยดูอีกไหม?

สำหรับตำนานนี้ว่ากันว่า ณ ทางแพร่งเป็นประตูสู่โลกอื่น โลกแห่งภูตผี เทพเจ้าและเหล่ามาร และในทางแพร่งเหล่านี้ก็มักจะมีผู้เฝ้ายามอยู่ ซึ่งก็คือภูตสุนัข แต่สุนัขในที่นี้หน้าตาคงไม่เหมือนกับลูกหมาที่พวกเราเคยเห็นกับทั่วไป เพราะมีสีเขียวสว่าง มันจะเห่า 1-2 ครั้งเป็นการเตือน แต่ถ้าคุณได้ยินเห่าครั้งที่ 3 เมื่อไหร่ อันนี้แย่ละ ไม่รู้ว่าโยนกระดูกให้จะแก้เคล็ดได้ไหมนะ

เจ้าอัลพลูแอคราตัวแสบเป็นนิทานปรัมปราของไอริช มีชื่อเรียกอีกชื่อในตำนานของเซลติกว่า “ตัวร่วมกิน” ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะเจ้าสัตว์ตัวจิ๋วนี้จะเข้าไปกินอาหารของเหยื่อนั่นเอง แต่วิธีการของเจ้านี่มันช่างน่าขยะแขยง เพราะอังพลูแอคราจะคลืบคลานเข้าไปทางปากของเหยื่อขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ เพื่อไปกินอาหารเหลือจากมื้อที่แล้ว บางตำนานก็บอกว่าต้องกลืนเนื้อเค็มลงไปเพื่อกำจัด ว่าแต่ทำไมเนื้อเค็มนะหรอ ก็เพราะว่ามันเค็มจนอัลพลูแอคราหิวน้ำ รีบไต่ออกมาหาน้ำกินไง (มีงี้ด้วยแหะ)

เล่ากันว่าเฮิร์น เคยเป็นผู้ดูแลป่าวินเซอร์ช่วงรัชสมัยของราชินีอลิซาเบธที่1 เกิดไปทำผิดกฎหมายเข้า เลยชิงผูกคอตายเพื่อหลีกหนีความอับอาย เฮิร์นเลยกลายเป็นวิญญาณคุ้มครองป่าและหลอกหลอนเมื่อประเทศอยู่ในช่วงอันตรายด้วย

ลองนึกภาพภูตสุนัขที่ดูร้าย น่ากลัวและสยองๆ ก็ตัวนี้เนี่ยแหละ สุนัขสีดำในตำนานอังกฤษถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย แต่ในเวลส์มีตัวหนึ่งมีชื่อเสียงในด้านมืดมาก ซึ่งเจ้ากิลสกีนี้จะออกมาหลอกหลอนคนเดินทางบนถนนเปลี่ยว ว่ากันว่าได้เห็นเจ้าตัวนี้แปลว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย (น่ากลัวขนาดนี้มันจะดีได้ไงเนอะ)

มีหลากหลายประเทศที่มีตำนานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับแวมไพร์ หนึ่งในนั้นก็คือไอร์แลนด์ ที่มีชื่อเรียกว่า เดิร์กดู กล่าวกันว่าเดิร์กดู เป็นผู้หญิงสวยที่ฆ่าตัวตายเพื่อหนีการคลุมถุงชน เพราะตัวเองรักกับหนุ่มชาวนา หลังจากพิธีศพแล้ว เธอก็จะลุกขึ้นจากหลุม กลับมาฆ่าครอบครัวที่บังคับให้เธอแต่งกับคนที่ไม่ได้รัก

ความจริงจะเรียกว่าเป็นสัตว์ก็ไม่ค่อยถูก เพราะแจ๊ค โอ เคนท์เป็นเหมือนเรื่องเล่าของฮีโร่มากกว่า แต่ที่เข้ามาอยู่ในบทความนี้ก็เพราะรูปร่างหน้าตาที่น่าสนใจนั่นเอง ในตำนานแจ๊คสู้กับมารร้าย (มารแห่งการต่อรอง) และมักทำให้มารออกจะโมโหพอควร หนึ่งในเรื่องเล่าคือแจ๊คไปต่อรองกับมารเพื่อสร้างสะพาน ข้อต่อรองของมารคือต้องยกวิญญาณแรกที่ข้ามสะพานให้แก่ตน เมื่อสะพานเสร็จ แจ๊คเลยโยนกระดูกไปบนสะพาน สุนัขของมารวิ่งไล่ตาม เป็นการทำตามข้อตกลงของมารร้าย ถึงแม้จะเป็นฮีโร่แต่รู้สึกว่าหน้าตาจะค่อนข้างน่ากลัวไปสักนิด

คาดเดาว่าน่าจะมีที่มาจากนิทานพื้นบ้านแถบสแกนดิเนเวีย ที่เป็นวิญญาณเฝ้าโบสถ์ที่มีหลายรูปลักษณ์ มีตั้งแต่หมู สุนัข หรือคนตัวเล็ก (ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในอังกฤษหรือแถบสแกนดิเนเวีย) ที่คอยปัดกวาดโบสถ์และสั่งระฆัง ความจริงหลวงพ่อทั้งหลายน่าจะสงสัยบ้างนะว่าทำไมทุกเช้าโบสถ์ถึงสะอาดนัก

เรื่องนี้ค่อนข้างใหม่กว่าเรื่องอื่นสักนิด เพราะย้อนไปแค่ศตวรรษที่19 เอง เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าของปราสาทเก่าเกมมิสแห่งสกอตแลนด์มีลูกชายคนหนึ่ง แต่ถูกปกปิดเพราะมีข่าวลือว่ารูปร่างหน้าตาของลูกชายนั้นเป็นคางคก เลยถูกนำไปซ่อนไว้ในห้องลับของปราสาทหลังนี้ แต่ก็ยังไม่มีข้อยืนยันแน่ชัด ใครจะไปรู้ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อปกปิดความลับอะไรบางอย่างก็เป็นได้

เป็นสัตว์ในตำนานจากสกอตแลนด์ที่น่าสนใจมาก แนคิเวลลีเปรียบได้กับเซนทอร์ (ครึ่งคนครึ่งม้า) แห่งสกอตแลนด์ก็คงไม่ผิด เพียงแต่ส่วนล่างออกจะเป็นม้าที่สภาพไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก จุดมุ่งหมายของสัตว์ในตำนานตนนี้คือทำร้ายคนที่อาศัยอยู่ในเกาะออร์กนี ว่ากันว่าสิ่งนี้ได้ถือกำเนิดจากหลายสาเหตุด้วยกันเช่น การถูกทำลาย เภทภัย น้ำท่วมและอีกมากมายที่ทำให้เขากลายเป็นสัตว์ร้าย