สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
อธิบดี DSI เผยพบ เณรคำ ครอบครองรถเพิ่มอีก 16 คัน คาดอาจมีมากถึง 100 คัน พร้อมตั้ง 2 ข้อหา พรากผู้เยาว์และข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เตรียมยื่นเรื่องไปสหรัฐฯ หวังถอนวีซ่า ด้าน ปปง. เตรียมตรวจสอบยึดทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2556 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินที่มีอยู่ในประเทศไทยของ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ว่า ขณะนี้พบว่ามีการครอบครองรถที่อาจเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร เพิ่มอีกจำนวน 16 คัน โดยเป็นรถยนต์หลายยี่ห้อ และมีราคาแพง ส่งผลให้ขณะนี้มีการครอบครองมากกว่า 70 คันแล้ว และคาดว่าจะมีมากกว่า 100 คัน ด้วย ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ดีเอสไอ จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว รวมทั้งจะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าจะมีการฟอกเงินหรือเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหรือไม่
ส่วนกรณีที่หญิงสาวที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์กับเณรคำ ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 13-14 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 11 ปีนั้น นายธาริต เผยว่า หลังจากการสอบสวนพยานสอดคล้องกับข้อหาที่ตั้งไว้ 2 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี และพรากผู้เยาว์เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งถือเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ จากนี้จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ดำเนินการเพิกถอนพาสปอร์ตของเณรคำ และจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิกถอนวีซ่าของเณรคำ โดยวันนี้ (15 กรกฎาคม) จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาออกหมายจับเณรคำต่อไป
นอกจากนี้ ดีเอสไอยังดำเนินการให้ผู้เสียหายทั้ง 3 คน เข้าโครงการคุ้มครองพยาน จากนั้นจะจัดทนายอาญายื่นเรื่องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว รับรองเด็กชายวัย 11 ขวบ เป็นบุตรของเณรคำ เพื่อฟ้องร้องทางแพ่ง และเรียกค่าเลี้ยงดูในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ และจะขอไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขออนุญาตศาลตรวจดีเอ็นเอตามหลักฐานในคดีแพ่ง ซึ่งจะขอมาเป็นผลดำเนินคดีอาญาด้วย
ปปง.จ่อยึดทรัพย์เณรคำในตปท.อีกละรอกใหม่
ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เผยถึงการตรวจเส้นทางการเงินของหลวงปู่เณรคำ ว่า หากมีหลักฐานชี้ชัดว่า อดีตพระวิรพล มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนจริง สำนักงาน ปปง. สามารถเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงินได้ทั้งหมด โดยจะวิเคราะห์เงินบริจาคว่าเกิดจากการถูกล่อลวงให้บริจาคหรือไม่ รวมไปถึง ประเด็นการยักยอกทรัพย์สินของสำนักสงฆ์ขันติธรรม และการฟอกเงินด้วยการซื้อรถยนต์ ส่วนการพบบัญชีที่เกี่ยวโยงกับอดีตพระวิรพล จำนวน 10 บัญชี และมีเงินหมุนเวียน 200 ล้านบาท เพิ่มเติม กำลังตรวจสอบข้อมูลร่วมกับกองบังคับการปราบปราม
และ ปปง. ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบและยึดทรัพย์ในต่างประเทศของ อดีตพระวิรพล ได้แน่ โดยผ่านการประสานกับสำนักงาน ปปง. ของแต่ละประเทศได้ หากพบว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และมีพยานหลักฐานชัดเจน
รองเลขาฯ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. เพื่อพิจารณาตรวจสอบเรื่องเงินบริจาค ของสำนักสงฆ์ขันติธรรม และบัญชีที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ความชัดเจนถึงมูลฐานความผิด ว่าเกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือไม่
กองปราบฯ เตรียมถกคดี เณรคำ วันนี้
พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการปราบราม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายวิรพล ฉัตติโก หรือ เณรคำ อดีตประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ว่า ในวันนี้ (15 กรกฎาคม) เวลา 13.30 น. ตนได้เรียกประชุมพนักงานสบสวนเพื่อวางกรอบกำหนดแนวทางในการดำเนินคดี ทั้งเรื่องของฐานความผิดในข้อหาต่าง ๆ และความคืบหน้า การขออนุมัติศาลออกหมายจับในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของอัญมณีใน จ.ตาก หลายราย ที่ถูกเณรคำหลอกซื้อพลอย มูลค่าความเสียหายร่วม 20 ล้านบาท จะทยอยเดินทาง เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ภายในต้นสัปดาห์นี้