เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอบคุณภาพประกอบจาก damien.net, Nikki Kahn

 

          ไทเลอร์ หรือ แคทรีน หนูน้อยวัย 6 ขวบ ได้รับอนุญาตจากครอบครัวให้แปลงเพศจากเด็กผู้หญิงเป็นเด็กผู้ชาย หลังจิตแพทย์ยืนยัน ลูกสาวของพวกเขามีจิตใจเป็นชายและไม่อยากกลับเป็นหญิงแล้ว

 

          เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานถึงเด็กวัย 6 ขวบรายหนึ่งในสหรัฐฯ ที่ได้รับอนุญาตจากครอบครัวของเธอให้สามารถเปลี่ยนเพศ จาก "เธอ" มาเป็น "เขา" ได้ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอได้รับคำยืนยันจากจิตแพทย์แล้วว่าลูกสาวของพวกเขา นั้นมีสภาวะจิตใจไม่ตรงกับเพศที่แท้จริง และควรจะให้อนุญาตให้ลูกสาวใช้ชีวิตในฐานะเด็กผู้ชาย

 

          โดย สตีเฟน และ เจน พ่อแม่ของเด็กน้อยนาม ไทเลอร์ หรือชื่อเดิมคือ แคทรีน เล่าว่า แคทรีนนั้นได้ยืนกรานว่าตัวเธอเป็นเด็กผู้ชายมาตลอดตั้งแต่ตอนที่เธออายุ 2 ขวบ และเริ่มเกิดอาการต่อต้านกับเสื้อผ้า ทรงผม และคำว่า "เธอ" มาตลอด จากนั้นในวันหนึ่งตอนเธออายุ 4 ขวบ แคทรีนได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กชาย คนหนึ่งซึ่งเกิดมามีลักษณะภายนอกเหมือนเด็กหญิง ให้พ่อของเธอฟังขณะที่นั่งอยู่ในรถ พร้อมกับบอกว่าตัวเธอก็เป็นเหมือนเด็กคนนั้นเช่นกัน 

 

          จากนั้นทั้งคู่จึงพาแคทรีนไปพบ ไมเคิล แอนเจโล จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการข้ามเพศ ซึ่งเขาก็ได้ยืนยันว่าแคทรีนมีสภาวะจิตใจไม่ตรงกับเพศที่แท้จริง และก็ไม่ต้องการที่จะกลับมาเป็นเด็กผู้หญิงอีก พร้อมทั้งแนะนำให้ครอบครัวอนุญาตให้แคทรีนใช้ชีวิตเป็นเด็กผู้ชาย

 

          ด้วยเหตุนี้สตีเฟนและเจน จึงอนุญาตให้ลูกสาวของพวกเขาเปลี่ยนชื่อเป็นไทเลอร์ และเฝ้ามองเขาค่อย ๆ เติบโตมาเป็นเด็กผู้ชายตัวน้อยที่แสนจะร่าเริง ขณะที่ทั้งคู่ก็ได้นำคำแนะนำจากจิตแพทย์มารับมือต่อความลำบากจากครอบครัวและ สังคมที่ต้องเผชิญจากการเปลี่ยนแปลงของไทเลอร์ โดยเจนเผยว่า จะเป็นเรื่องดีหากไทเลอร์ต้องการกลับมาเป็นแคทรีนอีกครั้ง แต่ในตอนนี้มันก็ดีแล้ว เพราะลูกของเธอดูมีความสุขดี และเธอก็ต้องการให้ลูกมีความสุขเช่นกัน 

 

          ที่ผ่านมา ไทเลอร์เองก็เคยเห็นข้าวของต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยสีชมพูของพี่สาวตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจข้าวของเหล่านั้นเลย และในตอนนี้ไทเลอร์ก็ได้เปลี่ยนห้องนอนของตัวเองมาอยู่ในธีมสไปเดอร์แมนแล้ว

 

          แม้ ว่าการอนุญาตให้เด็กแปลงหรือเปลี่ยนเพศของพวกเขาจะยังเป็นที่โต้เถียงกันใน สังคม และครอบครัวของพวกเขาก็ต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ต่าง ๆ แต่ ไทเลอร์ในวัย 6 ขวบ ก็ได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนเข้าเรียนในโรงเรียนด้วยฐานะเด็กผู้ชาย และไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นไทเลอร์ในตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือเด็ก ผู้ชายจริง ๆ 

 

          ขณะที่คนจำนวนมากเกิดความกังวลว่าการอนุญาตให้เด็ก ๆ เปลี่ยนเพศนั้นจะส่งผลกระทบต่อชีวิตที่เหลือของพวกเขาเมื่อเติบโตขึ้น เพราะอาจเป็นเพียงความคิดที่พลาดไปวูบหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ระบุว่า เด็ก ๆ จะเริ่มมีการรับรู้เพศของตัวเองและจะมีความมั่นคงในการรับรู้เพศตั้งแต่อายุ 3-6 ขวบ ซึ่ง นั่งจะทำให้เด็ก ๆ จะเริ่มที่พฤติกรรมที่เด่นชัดในเรื่องเพศ เช่น เด็กหญิงจะชอบตุ๊กตา เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ขณะที่เด็กชายจะชอบรถถัง หรือสไปเดอร์แมน

 

          และจากข้อมูลของคู่มือการวินิจฉัยของสมาคมจิตแพทย์อเมริกันและสถิติของการ ข้ามเพศ พบว่า คนที่เผชิญกับภาวะไม่พงพอใจในเพศของตนเองนั้น จะรู้สึกต่อต้านและไม่มีความสุขต่อเพศดั้งเดิม พร้อมมีความปารถนาที่จะเป็นเพศอื่น ๆ โดยพวกเขาจะต่อต้านและเริ่มสวมใส่เสื้อผ้ากับทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเพศตรงข้าม ขณะที่ปฏิเสธเพศดั้งเดิมของจน 

 

          สำหรับกรณีของไทเลอร์ได้กลายเป็นแนวโน้มที่พบได้มากขึ้นในเด็กหลายคน ขณะที่แคลิฟอร์เนียก็เตรียมผ่านร่างกฎหมายซึ่งจะอนุญาตให้เด็กสามารถเลือก เข้าทีมกีฬาและห้องอาบน้ำ ตามตัวตนทางเพศของตัวเองด้วย