ฉลามปากแส้หนาม สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ ประหลาด

  

Helicoprion ฉลามปากแส้หนาม เป็นปลาดึกดำบรรพ์ที่ได้สูญพันธุ์ไปกว่า 225 ล้านปีล่วงมาแล้ว จึงมีรูปร่างพิศดาร เกินกว่าจินตนาการ โดยมีปากล่างม้วนเป็นวงคล้ายปากของผีเสื้อ แถมปากที่ม้วนนั้นยังเต็มไปด้วยเขี้ยว และฟันมากมาย

รายละเอียดเกี่ยวกับ ฉลามปากแส้หนาม

ฉลามปากแส้หนาม เป็นปลากระดูกอ่อน คล้ายฉลามในปัจจุับัน คาดว่ามีลำตัวยาว 3 -4.5 เมตร คาดว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกในช่วงยุค Permian-Triassic เมื่อกว่า 280 ล้านปีมาแล้ว คาดว่าสูญพันธุ์ในช่วงยุค Triassic เมื่อประมาณ 225 ล้านปีมาแล้ว ในช่วงแรกที่มีการค้นพบซากฟอสซิล ฟันของมันที่ม้วนเป็นวง ทำให้นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่ามันคืออะไร จนกระทั้งมีการค้นพบกระโหลกปลา Ornithoprion ที่เป็นญาติของพวกมัน ที่มีฟันเป็นขดอยู่ที่กรามล่าง จึงทำให้สามารถจิตนาการถึง ฉลามปากแส้หนาม ว่ามีลักษณะเช่นใด ในความเป็นจริง ยังไม่มีการยืนยันตำแหน่งของอวัยวะส่วนนี้ว่าอยู่ที่ส่วนใดของฉลาม มีหลากหลายแนวคิดมาก มีทั้งบริเวณปลายจมูก บริเวณคลีบหลัง บริเวณปลายหาง ดังภาพ

 

ตำแหน่งของฟันขดนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอยู่ในตำแหน่งใด มีหลายข้อสันนิฐาน และแนวคิดถึงตำแหน่งแสดงในภาพ

 

แต่รูปภาพที่ค่อนข้างแพร่หลายในยุคแรก ฟันที่มีลักษณะเป็นขดนี้จะอยู่ที่กรามล่าง ม้วนลงด้านล่างดังภาพ

 

รูปแบบของฟันของ ปลาฉลามปากแส้หนาม ที่ค่อนข้างแพร่หลาย

 

แต่ทางสถาบัน Smithsonian ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า อวัยวะประหลาดนี้ที่ว่าม้วนลงด้านล่าง เนื่องจากมันจะขัดขวางการว่ายน้ำของฉลาม และเป็นการยากที่จะจับเหยื่อเข้าสู่ปาก แต่ทาง Smithsonian คิดว่ามันควรจะม้วนเข้าด้านในปากมากว่า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมในการจับเหยื่อ

 

รูปแบบของ ฟันที่ม้วนเป็นขด ที่ทางสถาบันสมิทธ์โซเนียน สันนิฐานไว้

 

มีการคาดการณ์ว่าฟันลักษณะดังกล่าวมีประโยชน์ในการ จับหอยแอมโมไนต์(Ammonite) โดยใช้ขบเปลือกหอยให้แตก หรืออีกสมมุติฐาน คาดว่ามันจะใช้ประโยชน์โดย ฉลามจะว่ายเข้าไปในฝูงของเหยื่อ แล้วใช้งวงฟาด หรือฉกเหยื่อเข้าปาก ชิ้นส่วนฟอสซิลเขี้ยวนี้ พบมากที่บริเวณทางตะวันออกของ Idaho ทางเหนือของ Utah และบริเวณ Wyoming

 

ซากฟอสซิลเจ้าปัญหาที่ยังหาข้อสรุปไม่พบ เนื่องจากปลาดังกล่าวเป็นปลากระดูกอ่อนทำให้ไม่มีเบาะแสของฟอสซิลอื่นให้สืบค้นมากนัก
 

ข้อมูลอ้างอิง ฉลามปากแส้หนาม สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ ประหลาด

 

http://webecoist.com/2010/02/09/now-sea-this-the-10-most-amazing-bizarre-sharks/ http://en.wikipedia.org/wiki/Helicoprion
ที่มา: http://wowboom.blogspot.com/2010/02/helicoprion.html
Credit: http://board.postjung.com/691266.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...