วันนี้ (10 ก.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน แห่เที่ยวหุบเขามรณะหรือDeath Valley ซึ่งเป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ที่ตั้งอยู่ในEastern California
โดยบริเวณหุบเขาดังกล่าวประกอบด้วยทะเลทรายที่มีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างร้อน เนื่องจากมีช่วงของฤดูร้อนที่ยาวนาน มีฝนตกน้อย จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศร้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นอกจากนี้บริเวณหุบเขามรณะยังมีความดันอากาศแตกต่างจากพื้นที่ทั่วไปทำให้ความร้อนแผ่กระจายเป็นวงกว้าง
จากการที่หุบเขามรณะมีความร้อนสูงทำให้นักท่องเที่ยวแห่มาเที่ยวชมและพกไข่ไก่มาทอดด้วย โดยอากาศของที่นี่สามารถทอดไข่ดาวได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาที ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหุบเขามรณะมักจะนิยมตอกไข่ลงบนหินหรือทางเดิน และเฝ้ามองไข่สุก เพื่อพิสูจน์ความร้อนของอากาศและเมื่อไข่สุกก็จะทิ้งไว้อย่างนั้น
ซึ่งการแห่มาทอดไข่ดาวของนักท่องเที่ยวทำให้เกิดขยะไข่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้ทางการเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลDeath Valleyได้มีการประกาศเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวนำไข่เข้ามาทอดแล้ว และให้เตรียมสภาพร่างกาย ดื่มน้ำมากๆก่อนเข้ามายังหุบเขามรณะด้วยเพราะความร้อนอาจจะมีอันตรายต่อสุขภาพได้