เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่อย่างกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวหลายคงนึกถึงความสวยงามแลยิ่งใหญ่ของแหล่งท่องเที่ยวทาง ประวัติศาสตร์ชื่อดังมากมาย รวมถึงน้ำตกสวยๆ ที่มีน้ำใสไหลเย็นให้เที่ยวเกือบตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าหนาวอย่างนี้ ความสวยงามของขุนเขาและผืนป่าของเมืองกาญจน์กำลังมีเสน่ห์เย้ายวนใจเป็น อย่างยิ่ง โดยเฉพาะทริปนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ภูมิภาคกลาง กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. สำนักงานกาญจนบุรี ชวนพี่น้องๆ นักเดินทางมาเป็นผู้กล้าไปร่วมพิชิตยอดเขาช้างเผือก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แบบชิลล์ๆ 3 วัน 2 คืน เอ้า! ถ้าพร้อมแล้วตามไปเที่ยวด้วยกันเลย
ออกจากกรุงเทพฯ มาถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ใช้เวลาจิ๊บๆ ประมาณ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เส้นทางจากตัวเมืองทองผาภูมิถึงตัวอุทยานฯ นั้นค่อนข้างคดเคี้ยวเลี้ยวลดไปมาก นักเดินทางต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่กันสักหน่อย ส่วนนักท่องเที่ยวขี้เมา (รถ) โปรดเตรียมถุงพลาสติกพกติดตัวไปด้วย หรือกินยาแก้เมาไว้ก่อนก็ดี หากออกเดินทางจากบ้านมาแต่เช้าตรู มาถึงแล้วแนะนำว่า ให้มาเช็คอินพักผ่อนชิลล์ๆ กันที่โฮมสเตย์บ้านอิต่อง อยู่ใกล้ๆ กับกับทางขึ้นเขาช้างเผือกเยอะ
อีกทั้งยังเป็นจุดเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองกา ญจน์ จากจุดนี้หากเรามองไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านอิต่อง จะสังเกตเห็นยอดเขาที่ทอดตัวยาวไกลสูดสายตา และเป็นเป้าหมายในการพิชิตของเรานั่น คือ ยอดเขาช้างเผือก ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,249 เมตร
จากหมู่บ้านอิต่องเราต้องเดินไปยังจุดกางเต็นท์สำหรับการเตรียมตัวเป็น ผู้พิชิตเขาช้างเผือกในวันรุ่งขึ้น ระยะทางไม่ใกล้และไม่ใกลเกินไปนัก ประมาณ 8 กิโลเท่านั้นเอง ใช้เวลาเดินเท้า 3-4ชั่วโมง นักเดินป่ามือใหม่ฟังแล้วอาจรู้สึกเหนื่อย แต่จริงๆ แล้วหลายคนที่มาในทริปนี้ก็เป็นคนทำงานออฟฟิศ ยังบอกว่าเดินไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวก็ถึง ไม้ได้เหนื่อยเหมือนอย่างที่คิดก่อนมากันสักหน่อย
การขึ้นไปพิชิตเขาช้างเผือก ต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ คอยดูแลตลอดการเดินทางเพื่อความปลอดภัย และควรนำสิ่งของจำเป็นติดตัวไปด้วย เช่น อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค เกลือแร่ ไม้เท้า รวมทั้งกระดาษชำระฯลฯขึ้นไปด้วย ส่วนสิ่งของอื่นๆ ก็ฝากลูกหาบขึ้นไปแทน เพราะจะได้ไม่เหนื่อยและหมดแรงไปซะก่อน ค่าบริการลูกหาบราคาคนละ 700 บาท ต่อ 1 เที่ยวและขนของได้ประมาณ 30 กิโลกรัม
ตลอดเส้นทางเราจะผ่านผืนป่าและขุนเขา เดินขึ้นๆ ลงๆ ที่นับๆ ก็ราว 5 ลูกเอ้ง (ทำเสียงสูงด้วย) งาบางช่วงก็มีวิวสวยๆ ให้ดูจนเพื่อนๆ ร่วมทริปต้องร้องว้าวๆๆๆ บางช่วงก็เป็นทางสูงชันและแคบต้องใช้การเดินทางอย่างระมัดระวัง แต่นั่นก็เป็นความท้าทายของเส้นทางนี้ ที่มาพร้อมกับความสนุกตื่นเต้นและความทรงจำดีๆ ระหว่างการเดินทางไปกับแก๊งค์เพื่อน
เมื่อถึงจุดกางเต้นท์แล้ว เราต้องเดินขึ้นไปอีกราวๆ 2 กิโลเมตร เพื่อให้ได้ชื่อว่าครั้งหนึ่งเราเป็นผู้พิชิตจุดสูงสุดของเขาช้างเผือก แต่กว่าจะก้าวไปพบกับคำว่า ผู้พิชิตนั้น เราต้องผ่านเส้นทางที่น่าตื่นและชวนหวาดเสียว นั่นคือ 'ผาวัดใจ' เป็นหน้าผาสูงชันประมาณ 3 เมตร ให้เราค่อยๆ ไต่เชือกขึ้นไป เมื่อผ่านมาได้แล้วพร้อมกับหัวใจเต้นตุ๊บๆๆ ต่อมๆ ก็เจอกับ 'สันคมมีด' สันเขาที่มีทางเดินค่อนข้างแคบ หากใครผ่าน 2 จุดนี้ได้สำเร็จ คำว่าผู้พิชิตยอดเขาช้างเผือกก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ระหว่างทางที่เดินบนสันคนมีด นักท่องเที่ยวสามารถเห็นวิวรอบตัวแบบ 360องศา อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย ทำให้เดินเพลินๆ มาถึงจุดกางเต้นท์ได้อย่างสบาย
พอค่ำลงที่นี่มีอากาศที่เย็นพอสมควร นักท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย หรือจะขนผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า หมวก มาเป็นพร็อบเสริมก็ยิ่งช่วยให้ท้าลมหนาวได้สนุกขึ้น ส่วนยามค่ำคืน นักท่องท่องเที่ยวยังสามารถออกมานอนนับดาว กอดลมหนาว เฝ้าดูดาวตก (ถ้าไม่ง่วงหลับไปซะก่อนนะ) และหากมากับคนพิเศษด้วยละก็ ไม่บอกก็รู้ใช่ไหมว่า ค่ำคืนนี้จะโรแมนติกขนาดไหน
การขึ้นมามาพิชิตยอดเขาช้างเผือก เป็นอีกหนึ่งทริปในฝันของนักท่องเที่ยว นักถ่ายภาพ นักผจญภัย ที่ต้องหาโอกาสมาสัมผัสกันให้สักครั้ง เพราะนอกจากจะได้เห็นวิวๆ สวยให้ตื่นตาตื่นใจตลอดทางแล้ว เส้นทางที่คุณจะมาพิชิตยังเป็นมีความเสียวนิดๆ ให้คุณกลับไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังได้สามบ้านแปดบ้าน
หน้าหนาวนี้หากคุณยังไม่มีโปรแกรมในใจที่ไหน เป็นพิเศษ ตามมาพิชิตยอดเขาช้างเผือกด้วยกัน แล้วคุณจะเห็นว่า แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงอย่างภาคกลาง ยังมีอะไรให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจอีกเยอะ
ในช่วงวันหยุดยาวนี้ที่ยังไม่รู้จะไปเคาท์ดาวน์ในเทศกาลปีใหม่ที่ไหน ขอแนะนำให้ลองมาที่ "เขาช้างเผือก" ดินแดนแห่งธรรมชาติอัศจรรย์ แดนสวรรค์ตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี กันนะครับ แล้วคุณจะได้ไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าเมืองไทยยังมีที่ที่จะต้องไปอีกเยอะ