จากเด็กจรจัดไร้บ้านรับจ้างถูพืน สู่รั้วมหาวิทยาลัยชื่อก้องโลก . . . . ม.ฮาร์วาร์ด

 

 

 

 

 

อาจจะเคยอ่านกันมาบ้างแล้วสำหรับเรื่องราวของสาวน้อยที่อดทนต่อสู้กับความยากลำบากมากมาย

จนกระทั่งสามารถสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกได้

วันนี้เราลองมาอ่านเรื่องราวของเธออีกครั้ง

 

From homeless to Harvard แบ่งปันเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับพี่น้องเพื่อนฝูงที่ท้อถอย และบอกกล่าวเล่าสอนให้ลูกหลานเห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จทางการศึกษาของเด็กหญิงคนอื่นที่แม้จะมีอุปสรรคมากมายก็ตาม

จ า ก เ ด็ ก จ ร จั ด ไ ร้ บ้ า น รั บ จ้ า ง ถู พื้ น โ ร ง เ รี ย น 
สู่ รั้ ว ม ห า วิ ท ย า ลั ย ชื่ อ ก้ อ ง โ ล ก . . . . ม. ฮ า ร์ ว า ร์ ด
 
 

ที่โรงเรียนเบิร์นส์ไฮสกูล ในเมืองลอนเดล รัฐนอร์ธแคโรไลน่า 
สาวน้อยดอว์น ลอกกินส์ (Dawn Loggins) กำลังถูพื้นอย่างขมีขมัน เพื่อหารายได้จุนเจือการเรียน …เธอเป็นนักเรียนเกียรตินิยม A รวดทุกวิชา นอกเวลาเรียน ดอว์นต้องถูพื้นทั่วทั้งโรงเรียน ไม่เว้นแม้ห้องน้ำ

 

ก่อนหน้านี้พ่อแม่เธอติดยาและได้หนีเธอไป ทอดทิ้งเธอให้ไร้บ้าน ครูและชาวบ้านต้องบริจาคเสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นให้ และหางานภารโรงที่โรงเรียนให้เพื่อหารายได้ เธอถูพื้นทำความสะอาด อย่างไม่เคยบ่นรำพันซาบซึ้งที่มีงานหารายได้เล็กๆ น้อยๆ มาประทังชีวิตได้
 
ดอว์นเติบโตมาอย่างยากจนข้นแค้น บ่อยครั้งที่ไม่มีน้ำไฟให้ใช้ ไม่มีแสงสว่างที่จะทำการบ้านอ่านหนังสือได้ จนครูในโรงเรียนต้องหาเทียนไขให้เธอใช้ในยามค่ำมืด ....ด้วยเทียนไขนี้ เธออ่านหนังสือทำการบ้านอย่างหมั่นเพียรไม่เคยย่อท้อ ....จนผลการเรียนดีเด่น ได้รับเลือกให้เข้าค่ายศึกษาวิทยาศาสตร์ร่วม 6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นค่ายวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนระดับยอดเยี่ยมของทั้งรัฐ

แต่ระหว่างที่เข้าร่วมค่ายนี้เอง ที่เป็นเวลาที่พ่อแม่ได้ทิ้งเธอไป เธอกลับบ้านมาพบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน แถมมีติดประกาศไล่ที่จากเจ้าบ้าน
.....ทำให้ดอว์นไร้บ้าน ขาดพ่อขาดแม่ 

ตอนที่ดอว์นได้ข่าวว่า พ่อแม่ย้ายหนีไปอยู่อีกรัฐหนึ่งเสียแล้ว เธอบอกว่า "ไม่เคยนึกคิดว่า พ่อเลี้ยงกับแม่จะทิ้งหนีหนูไปได้ง่ายๆ อย่างนั้น 
แต่หนูก็ไม่ได้นึกโกรธพ่อแม่นะ เขาคงคิดว่า ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้หนูแล้ว ความจริงหนูก็รู้ว่า ทั้งพ่อกับแม่มีปัญหาที่ต้องแก้ไขให้ได้ด้วยตัวเอง หนูรู้ว่าพ่อกับแม่รักหนู เพียงแต่แสดงออก เหมือนที่ชาวบ้านทั่วไปเขาทำกันไม่เป็นเท่านั้นเอง"
 

หลังจากนั้น เธอต้องระเหเร่ร่อน ไปอาศัยนอนตามบ้านเพื่อน....บางครั้งก็ต้องนอนกับพื้นบ้าน

ตอนนั้น ดอว์นยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงต้องมีผู้ปกครองดูแลจนกว่าอายุจะครบ 18 ปี และเนื่องจากเธอเลือก ที่จะไม่ตามไปอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างรัฐ 
แต่เลือกที่จะอยู่กับเมืองนี้ เพื่อเรียนหนังสือต่อไป ทำให้ทั้งชุมชนและบรรดาครูโรงเรียน ต่างรับหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเธอกันทั่วหน้า 

คณะครูได้ขอให้คู่สามีภรรยาคนขับรถโรงเรียน ให้เธออาศัยพักที่บ้าน โดยครูต่างสมทบค่าใช้จ่ายให้ทุกเดือนชีวิตเธอก็เริ่มเข้าที่เข้าทางโดยมีหลังคาคลุมหัว และมีงานพิเศษทำ เพื่อให้เรียนหนังสือต่อไปได้

ย่างเข้าปีสุดท้ายในไฮสกูล ดอว์นตัดสินใจเด็ดขาด ที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เธอเลือกที่จะเดินบนทาง ที่ต่างจากพ่อและแม่ "เมื่อเด็ก หนูได้มีโอกาสเห็นหนทางที่เลวร้ายทั้งหลายอยู่ต่อหน้า ทั้งยาเสพติด ทั้งชีวิตที่เลื่อนลอย และสิ่งแย่ๆ อื่นๆ แต่หนูตัดสินใจแน่วแน่ว่า จะไม่เดินบนทางเหล่านั้นเด็ดขาด หนูรู้ว่าการศึกษา จะพาให้หนูพ้นจากวังวนเลวร้ายทั้งหลายได้ อาจมีคนมากมายที่โทษสิ่งแวดล้อมรอบตัว แต่หนูใช้สถานการณ์แย่ๆ พวกนั้น มาเป็นพลังใจ ที่จะผลักดันให้หนูหลุดพ้นออกมาให้ได้"


นอกจากที่ตั้งใจเรียนดีแล้ว เธอยังเลือกทำกิจกรรมต่างๆ เป็นประธานชมรมถ่ายรูป และริเริ่มทำโครงการบริการสังคมเพื่อรวบรวมจดหมายเขียนให้กำลังใจทหารที่อยู่ประจำการในแนวรบ พร้อมทั้งเป็นสมาชิกสมาคมเกียรติยศแห่งชาติ และร่วมชมรมดุริยางค์ แล้วก่อนหน้านี้เธอยังวิ่งมาราธอนอีกด้วย

ในปีสุดท้ายในโรงเรียน เธอส่งใบสมัครเรียนไปมหาวิทยาลัยธรรมดา 4 แห่งภายในรัฐนอร์ธแคโรไลน่า และที่ ม.ฮาร์วาร์ด รวมเป็นแห่งที่ 5
....ที่โรงเรียนของเธอ ตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ยังไม่เคยมีใครได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าสดุๆ ในอเมริกามาก่อนเลย ดอว์นก็เลยตัดสินใจท้าทายความเชื่อโดยส่งใบสมัครไปที่สุดยอดมหาวิทยาลัยในฝัน คือที่ ฮาร์วาร์ด ด้วย

ครูแลรี่ การ์ดเนอร์ ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์เป็นคนเขียนจดหมายรับรอง เพื่อประกอบการสมัครเรียนที่ฮาร์วาร์ด เขาเขียนในจดหมายว่า 

"ข้าพเจ้าไม่ทราบจะหาสรรหาคำมาบรรยายในจดหมายรับรองนี้อย่างไร ให้ได้ดังใจคิด ข้าพเจ้าไม่เคยเขียนจดหมายรับรองฉบับใดเหมือนฉบับนี้มาก่อนเลย ....และคงไม่ได้เขียนอย่างนี้เป็นฉบับที่สองอีกแน่นอน นักเรียนส่วนมาก เมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก แม้เพียงเศษเสี้ยวของที่ดอว์นต้องประสบมา ก็คงท้อถอยยอมแพ้ไม่เป็นท่า แต่สาวน้อยผู้นี้ ที่แม้ต้องผ่านเหตุการณ์แสนสาหัส ต้องพบกับความหิวโซ ระเหเร่ร่อนไร้บ้านอยู่อาศัย และเผชิญความลำบากอีกนานัปการ แต่เธอก็ลุกขึ้นยืนผงาดเหนืออุปสรรคชีวิตทั้งปวงนั้น ....ยืนตระหง่านเป็นสตรีสาวน้อย ที่โดดเด่นเหนือหมู่คน"

เหตุการณ์ในเดือนต่อๆ มาเธอได้รับตำตอบรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในรัฐนอร์ธแคโรไลน่าทั้ง 4 แห่ง เป็นจดหมายตอบรับที่แนบมาพร้อมกับเอกสารมหาวิทยาลัยอีกปีกใหญ่ๆ ทั้งสิ้น

แต่เมื่อมีจดหมายจากฮาร์วาร์ดส่งมา กลับเป็นแค่จดหมายบางๆ เพียงฉบับเดียว ไม่มีเอกสารอื่นแนบมาด้วยเลยซึ่งเป็นลักษณะจดหมายตอบปฏิเสธที่นักเรียนไม่อยากได้รับกันเลยเมื่อเปิดจดหมายออกอ่าน พบใจความว่า 

"ถึงคุณดอว์น ลอกกินส์ ข้าพเจ้ามีความยินดีจะแจ้งให้ทราบว่า คณะกรรมการคัดเลือกนักศึกษาเข้าเรียน ได้ให้ข้าพเจ้ามาแจ้งว่า ท่านได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของเราแล้ว....โดยปรกติทางมหาวิทยาลัยจะส่งสัญญาณมาบอกก่อนเวลาอันควรเช่นนี้ สำหรับนักเรียนที่โดดเด่นมากๆ เท่านั้น....”

นอกจากจะได้รับเลือกเข้าเรียนแล้ว....เธอยังได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอีกด้วย


เมื่อเรื่องราวของเธอได้กลายเป็นข่าว "From Homeless to Harvard" เธอได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ WBTV ว่า

"เมื่อคุณมีความฝัน คุณสามารถบุกบั่นให้ฝันเป็นจริงได้ โดยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ตัวคุณเองเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะสร้างฝันของตัวคุณเองให้เป็นจริงขึ้นมาได้"

นับแต่ที่เรื่องราวของเธอกลายเป็นข่าว มีผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจและได้ส่งกำลังใจมาให้เธอมากมาย มีผู้ส่งเงินสนับสนุนให้เธอมาด้วย 
ดอว์นบอกว่า ไม่ได้ต้องการเงินเหล่านั้น

"เพราะเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย หนูได้ทุนค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและอาหาร ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าตำราเรียน หนูสามารถหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินมาได้" เธอตั้งความหวังไว้ว่า จะสามารถจัดตั้งองค์กรการกุศลที่จะช่วยเหลือเด็กวัยรุ่นที่ประสบอุปสรรคขัดขวางการศึกษา โดยใช้เงินที่มีผู้บริจาคให้เธอมาเป็นทุนก่อตั้ง

"ยังมีเด็กอีกมากมายที่อนาคตยังมืดมน และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากกว่าหนูอีก หนูอยากให้พวกเขาได้ใช้เรื่องราวของหนูเป็นแรงจูงใจ และอยากทำให้ผู้คนทั่วไปรับรู้ว่า ยังมีเด็กจรจัดไร้บ้านที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่อีกมาก"

เมื่อวันที่ 7 มิย.2012 ที่ผ่านมา เป็นวันพิธีจบการศึกษาของโรงเรียน ตอนที่สาวน้อย ดอว์นเดินขึ้นรับประกาศนียบัตร เพื่อนนักเรียนทั้งโรงเรียน ต่างได้ลุกขึ้นยืน ปรบมือดังกึกก้องโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงความชื่นชมและให้เกียรติอย่างสูง แก่สาวน้อย-ดอว์น ลอกกิ้นส์ ผู้เด็ดเดี่ยวที่ทอฝันให้เป็นจริง......

.....เราขอยืนขึ้นเพื่อปรบมือให้เธอ และขอส่งใจให้เธอจงสำเร็จสัมฤทธิ์ผล ในการสร้างสานฝัน ให้ตนเอง และให้โลกต่อไป....


(เรียบเรียงจากข่าว abc และ cnn)
 
สำหรับคนที่ท้อ
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...