ร.ต.ท.รังสรรค์ โอสาร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้เรียกสอบปากคำเพิ่มเติมผู้ปกครองเด็กหญิงชาย จำนวน 4 คน หลังผู้ปกครองรายหนึ่งเข้าแจ้งความว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 11 ปี ถูกนายสมเดช พานทอง อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 209/21 ถนนเทศบาล ต.บ้านหมี อ.บ้านหมี จ.ลพบุรี หลอกลวงลักพาเด็กไปข่มขืนกระทำชำเรา
ผู้ปกครองเด็กหญิงเคราะห์ร้าย เล่าว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 ก.ค.59 ที่ผ่านมา นายสมเดช ผู้ต้องหาขับขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีเขียว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ทำทีไปถามหาคนชื่อนางอ่อน โดยบอกว่าตนเองเป็นหลานเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ซึ่งพ่อและแม่ของนายสมเดช เคยมีบ้านอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว แต่โยกย้ายไปอยู่ที่อื่นนานแล้ว และบอกว่าตนเองเพิ่งออกมาจากเรือนจำอุทัยธานีได้ 1 เดือนเศษ ติดคุดในคดีฆ่าญาติ หลังพูดคุยกับชาวบ้านสักระยะหนึ่ง นายสมเดช ได้ชักชวน เด็กชายอายุ 8 ขวบ 2 คน อ้างจะพาไปซื้อขนมโดยให้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปยังบ้านนางอ่อน
ในเวลาต่อมาเมื่อถึงบ้านนางอ่อน นายสมเดช ได้ตรงไปซื้อไก่ย่าง จากร้านบิดา ด.ญ.เอ เพื่อมาเลี้ยงเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน และนายสมเดช และได้ล่อลวง เด็กหญิงในกลุ่มอีก 2 คน คือ ด.ญ.เอ อายุ 11 ปี 1 คน และ ด.ญ.บี อายุ 8 ขวบ อีก 1 คน โดยหลอกว่าจะพาไปซื้อขนม แต่ระหว่างทางนายสมเดช กลับหลอกเด็กๆ ว่าจะพาไปดูลิงที่เขาพระยาพายเรือ เมื่อไปถึงกลับให้เด็กชาย 2 คน นั่งรอบริเวณเชิงเขา และพาเด็กหญิง 2 คน เข้าไปในป่าลงมือข่มขืนด.ญ.เอ แต่ด.ญ.บี ฉวยจังหวะวิ่งหนีไปหาเด็กชาย 2 คนที่เชิงเขา
หลังจากนั้น นายสมเดช จึงพาด.ญ.เอ ลงไปที่เชิงเขาเรียกเด็กๆ ทั้ง 4 คนขึ้นรถพาขับจักรยานยนต์บอกว่าจะพากลับบ้าน แต่ระหว่างทางเห็นตำรวจอาสากำลังปฏิบัติหน้าที่จึงให้เด็กหญิงชาย 3 คนลงจากรถ และขับพาไปเฉพาะด.ญ.เอ ขณะนายสมเดช ชะลอความเร็วรถ ด.ญ.เอ จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถวิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวในท่อระบายน้ำข้างทาง ซึ่งทำให้นายสมเดช ตามหาไม่พบจึงขับจักรยานยนต์หลบหนีไป
ขณะที่ เด็กหญิงเคราะห์ร้ายจึงวิ่งไปหาชาวบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ จนผู้ปกครองตามหาตัวพบจึงเล่าความจริงให้ฟัง และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็กทั้ง 4 คน ส่งไปตรวจร่างกายโรงพยาบาลลานสัก เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน ซึ่งพบว่า ด.ญ.เอ ถูกนายสมเดช ข่มขืนจริง จึงเรียกสอบสวนเพิ่มเติมและเตรียมออกหมายจับนายสมเดชต่อไป