หลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2011 ชีวิตของชาวญี่ปุ่นหลายคนต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง แม้เวลาจะผ่านไปถึง 2 ปีแล้ว ชีวิตของคนส่วนใหญ่กลับมาเป็นปกติ บ้านเมืองซ่อมแซมจนหลายจุดแทบจะเหลือเค้าของความเสียหาย แต่ก็ยังมีปัญหาบางอย่างที่ไม่ได้รับการแก้ไข และชีวิตของชาวญี่ปุ่นหลายคนที่จะไม่เหมือนเดิมอีกเลย
ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนั้น ได้สร้างรอย "แผลเป็น" ให้กับญี่ปุ่นโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตโตโฮคุ ที่นอกจากผลกระทบของภัยพิบัติแล้ว ปัญหาจากอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้าปฏิกิริยานิวเคลียร์ก็ยังคงดำเนินต่อไป
ในอีกด้านยังมีชีวิตของหญิงสาวจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกเลย หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อย่างที่สื่อญี่ปุ่นเปิดเผยว่ามีหญิงสาวในเขตโทโฮคุหลายคนที่ตัดสินใจหันหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ หรือ AV (Adult Video) เมื่อชีวิตของพวกเธอไม่เหลือทางเลือกอะไรมากนัก
เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดลงในหนังสือ "ยังต้องเดินต่อไป: สตรีผู้กลายเป็นดาราหนังโป๊หลังวันที่ 3/11" ของ โทรุ ยามาคาว่า ซึ่งนำเสนอภาพชีวิตของผู้หญิง 7 คนที่ "เลือกเส้นทางเดิน" สายใหม่หลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน
นัตสึ อิตาโนะ (ชื่อแฝง) หญิงสาวชาวฟุกุชิมะ หนึ่งในเหตุที่โดนภัยสึนามิ ยังคงศึกษาในสาขาภาพนยตร์ และการละครของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เธอเล่าถึงช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า "ฉันอยู่ในบ้านที่ฟุกุชิม่าตอนที่เกิดแผ่นดินไหวพอดี ... บ้านครึ่งนึงพังลงมา เราต้องใช้แผ่นพลาสติกปิดกำแพงด้านที่พังเอาไว้ด้วย"
หญิงสาววัย 21 ปี เล่าว่า 6 เดือนต่อมา เธอตัดสินใจย้ายไปอยู่โตเกียว เพื่อเริ่มศึกษาในระดับชั้นมหาวิทยาลัย และหากไม่เกิดแผนดินไหวครั้งนั้นขึ้น ชีวิตนักศึกษาของเธอก็คงเหมือนฝัน "แม่ฉันยังได้กลับไปทำงาน แต่งานของพ่อไม่มีแล้ว ... ฉันต้องพยายามอย่างหนักมาก ทำงานเสริมหลายอย่าง"
นัตสึ บอกว่าเธอเคยทำงานทั้งที่ร้านเหล้าและโรงปาจิงโกะ แต่ก็ทำอยู่แค่ช่วงสั้นๆ เพราะตารางเรียนที่ค่อนข้างแน่น และยังต้องเริ่มฝึกงานในโรงละครอีก เธอจึงไม่สามารถหางานทำเป็นเรื่องเป็นราวได้ และดูเหมือนว่าสาวน้อยจากฟุกุชิมะจะพบว่าอาชีพนักแสดงเอวี ดูจะเป็นงานที่เหมาะสมที่สุด นอกจากใช้เวลาไม่มากแล้ว ค่าตอบแทนที่ได้รับก็ถือว่าสูงมาก
เธอกล่าวว่าพ่อกับแม่ไม่ได้ยอมรับในงานของเธอมากนัก และออกปากตำหนิอยู่พอสมควร แต่นี่คือสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจเลือกเอง "ฉันเคยเป็นสาวบริสุทธิ์ และอยากจะเก็บครั้งแรกไว้ให้กับคนที่ฉันชอบจริงๆ แต่ก็รู้ว่าคงจะใช้ชีวิตอย่างที่อยากให้เป็นไม่ได้ นี่คืองานเท่านั้น ฉันพยายามคิดในทางนี้เอาไว้น่ะค่ะ" นัตสึ อิตาโนะ ยังเปรยว่าการได้ทำงานในวงการเอวี อาจจะช่วยให้เธอประสบความสำเร็จกับวงการละครเวทีได้งานขึ้นในอนาคต
ในหนังสือยังมีเรื่องราวของสาววัย 20 ปี ฮารุกะ โคมิยะ จากอิวาเทะ ที่ต้องต่อสู้กับความเหงา และ ซายะ โควาโกอิ วัย 18 ปี ที่ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยแปลงไปโดยสิ้นเชิง และยังมีเรื่องราวในชีวิตของ ชิอินะ ฮาการุ ดาราเอวีคนดังที่บอกว่าตัวเองตัดสินใจเป็นดาราเอวีเต็มตัว และตัดสินใจเดินทางไปอาศัยอยู่กรุงโตเกียวเพื่อทุ่มเทให้อาชีพสายนี้ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้เกิดขึ้น แม้ก่อนหน้านั้นจะเคยรับงานทำนองนี้มาบ้างแล้ว
หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจในหนังสือก็คือความรู้สึกของหญิงสาวหลายคน ที่บอกชัดว่าพวกเธอไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็น "เหยื่อ" อะไรในเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น และมองสึนามิ และแผ่นดินไหว เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเท่านั้น
ผู้เขียนระบุว่าหญิงสาวหลายคนมองสิ่งที่เกิดขึ้น ในแบบเดียวกับการจบการศึกษาอะไรแบบนั้น แม้ว่าทางเลือกที่พวกเธอตัดสินใจเดิน จะค่อนข้างสุดโต่ง และแตกต่างจากคนทั่วไปอยู่บ้างก็ตาม แต่สำหรับเด็กสาววัยรุ่นที่ไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวสมบูรณ์พร้อมอะไรมากมายนัก บางทีทางเลือกของพวกเธอก็มีอยู่ไม่มากนัก
แม้จะมีคำพูดตำหนิติเตียนหญิงสาวเหล่านี้ และหลายคนก็เชื่อว่าน่าจะมีหนทางที่ดีกว่า ในการเอาชีวิตรอดผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก โทรุ ยามาคาว่า ยืนยันว่าน้ำเสียงของเด็กสาวส่วนใหญ่เกี่ยวกับการตัดสินใจของพวกเธอล้วน "เป็นไปในแง่บวก" ที่แต่ละคนคิดว่าต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ และอยากจะเก็บเงินให้ได้ซักก้อน นอกจากนั้นพวกเธอก็ยังมีความฝันในอนาคตเป็นของตัวเอง
ซึ่งสำหรับมุมของของคนโตเกียว หรือผู้อยู่ห่างไกลออกไปจากเขตโตโฮกุ อาจจะมองว่าภัยพิบัติครั้งนั้นได้ "จบสิ้นลงไปแล้ว" แต่สำหรับผู้ที่มีชีวิตเกี่ยวกับที่นี่อีกหลายคน ปัญหายังไม่ได้หมดลงเสียทีเดียว ผลพวงจากแผ่นดินไหวยังดำเนินต่อไป, มีสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่อีกมากมาย และเดียวกับหญิงสาวทั้ง 7 คนที่ต้องมีชีวิตต่อไป