เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Alex Alevroyiannis
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า หนูน้อยไอเดน แจ็คโคเวียค สมิทธิ์ วัย 2 ขวบ ได้เกิดมาพร้อมกับก้อนที่โตขึ้นอย่างประหลาดบนใบหน้า จนทำให้ใบหน้าโตผิดปกติ จมูกและปากบิดเบี้ยว และอาจพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต เนื่องจากแพทย์เองก็ยังหาสาเหตุของโรคประหลาดโรคนี้ไม่ได้ ซึ่งทำให้หนูน้อยไอเดน ต้องทนทรมานจากอาการหลายอย่างรวมกัน
ด้านนางวิกกี้ วัย 40 ปี คุณแม่ของไอเดน เผยว่า ผู้เชี่ยวชาญกำลังพยายามที่จะระบุว่า เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเธอ โดยการทดสอบต่าง ๆ แต่ผลการทดสอบกลับไม่ได้ผล โดยในตอนแรก คุณหมอคิดว่า อาการของไอเดนจัดอยู่ในกลุ่มอาการโพรเทียส (Proteus Syndrome) อันเป็นโรคประหลาดที่อวัยวะของร่างกายมักโตผิดปกติ แต่หลังจากที่แพทย์ตัดเนื้อเยื่อไปตรวจเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน ผลกลายเป็นว่า ไอเดนไม่ได้ป่วยด้วยโรคนี้ ดังนั้น หมอจึงคิดว่า ไอเดนอาจป่วยด้วยกลุ่มอาการโคลฟส์ ( CLOVES syndrome) ซึ่งเป็นอาการความผิดปกติของยีน ที่ทำให้เส้นเลือด ผิวหนัง และกระดูกสันหลัง ทำงานผิดปกติ
ทั้งนี้ หนูน้อยไอเดน อยู่ในท้องได้ประมาณ 7 เดือนก็คลอดออกมา และมีน้ำหนักประมาณ 1.8 กิโลกรัม ที่โรงพยาบาล Newcastle’s Royal Victoria และพยาบาลก็พาเด็กไปเข้าตู้อบทันที เนื่องจากไอเดนคลอดก่อนกำหนด โดยไอเดนเกิดมาพร้อมกับก้อนเนื้องอกที่ใบหน้า หลังและขา และ 3 สัปดาห์หลังคลอด หนูน้อยก็เริ่มเกิดอาการชักเป็นระยะ ๆ คุณหมอจึงแจ้งว่า ไอเดนอาจจะมีภาวะผิดปกติของสมอง
ด้านคาร์ล คุณพ่อของไอเดน เผยว่า โรคดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขาอย่างแรงด้วยคำว่า ความผิดปกติทางสมอง ทำให้เราคิดว่า เขาอาจจะเดินไม่ได้หรือพูดไม่ได้ และเราเองก็ห่วงว่าเขาจะไม่สามารถจำเราได้ ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก นอกจากนี้ คุณหมอยังได้สอนวิธีการผายปอดให้กับพ่อแม่ของไอเดน ในกรณีที่เด็กเกิดอาการหยุดหายใจขึ้นมา