และนี่ก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของนักโทษกับความพยายามลักลอบทำสิ่งผิดกฏหมายในคุก ก็แทนที่จะชดใช้ความผิดที่ก่อไว้ให้หมด ดันไปเพิ่มโทษให้ตัวเองซะนี่ แถมบางคนยังทรมารตัวเองด้วยการยัดสิ่งของผ่านรูทวารอีก ซึ่งการที่ถูกจับได้แบบนี้ก็บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ "สมควร" แล้วจริง ๆ !!
...พ่อส่งเฮโรอีนให้ลูกด้วยการจูบ...
อาจจะฟังดูสะอิดสะเอียนสักนิด แต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในรัฐโคโรราโด สหรัฐฯ
โดยมีคุณพ่อคนหนึ่งวางแผนไว้อย่างดิบดีเลยว่า จะส่งเฮโรอีนไปให้ลูกชายที่อยู่ใน
คุก ก็เลยนัดแนะกันทางโทรศัพท์ว่า ฝ่ายพ่อนั้นจะยัดเฮโรอีนใส่รูทวารของตัวเอง
จากนั้นเมื่อเข้าไปในเรือนจำแล้วก็จะส่งต่อไปให้ลูกชายด้วยวิธีการ "จูบ" แต่คงลืม
ไปว่าเจ้าหน้าที่ดักฟังการสนทนาของทั้งคู่อยู่ งานนี้ก็เลยหวานหมูสำหรับเจ้าหน้า
ที่จริงๆ ตามแผนบอกไว้ว่าผู้้เป็นพ่อจะส่งตัวแทนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปแต่ว่ากลัว
แผนแตกเลยตัดสินใจเป็นตัวเขาเองที่จะทำตามแผนนั้น และเมื่อถึงวันเวลาที่นัด
หมาย เจ้าหน้าที่ก็เลยรวบตัวคุณพ่อตัวแสบไว้ซะเลย เพราะหลักฐานแน่นหนาจนดิ้น
ไม่หลุดซะขนาดนี้ พ่อและลูกก็เลยเข้าไปนอนในซังเตด้วยกันซะเลย...
...ปืนสั้น .38 มม. ถูกซ่อนไว้ในทวารหนัก...
ทวารหนักของคนเรานี่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสามารถยัดของเข้าไปได้จริงๆขนาดปืนสั้น
.38 มม. ยังเอาเข้าไปได้เลยโดยปืนกระบอกนี้ถูกพบว่าอยู่ในทวารหนักของ นาย
ไมเคิล ลีออน วาร์ด จากรัฐนอร์ธแคโรไลน่า ชายหนุ่มที่ขับรถด้วยความเร็วเหลือเกิน
โดยเจ้าหน้าที่พบว่าเขาอยู่ในอาการที่มึนเมาพอสมควร จึงขอให้เขาออกมาจากรถแต่
เขาอ้างว่าเขามีปัญหาโรคหัวใจเดินออกไปจากรถไม่ไหวจริงๆ เจ้าหน้าที่เลยแก้เผ็ด
ด้วยการพาตัวเขาไปที่โรงพยาบาลซะเลย แต่จนแล้วจนรอดก็มีอีกประเด็นที่ไม่น่า
เชื่อเกิดขึ้นด้วยเพราะนอกจากเขาจะมีความผิดฐานเมาแล้วขับเขาเองยังมีปืน .38 มม.
อยู่ในช่องทวารหนักของเขาด้วยแถมปืนกระบอกนั้นเป็นปืนที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน
หรือพูดง่ายๆว่าเขาครอบครองอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นเอง งานนี้เขาเลยต้องไป
ชดใช้ความผิดโดยที่ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งนั้น..
...การซุกซ่อนเฮโรอีนไว้ในอาหารเม็กซิกัน...
เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองลอสแองเจลิสราย งานว่าพวกเขาได้จับกุมนายเฮนรี่ มาริน
ชายวัย 27 ปีเอาไว้พร้อมของกลางคือ "เบอร์ริโต้" (Berrito) อาหารขึ้นชื่อของประ
เทศเม็กซิโก ที่มีส่วนผสมต้องห้ามอย่าง "เฮโรอีน" ซุกซ่อนอยู่ในนั้นด้วยโดยเจ้าตัว
เองก็สารภาพแต่โดยดีว่า มีคนจ้างให้เขาส่งเบอร์ริโต้ยัดไส้เฮโรอีนไปให้ในเรือนจำ
แต่ทว่าไม่สามารถตบตาเจ้าหน้าที่ได้งานนี้นายมาริน ก็เลยโดนจำคุกไปด้วย..
...สาวระบำเปลื้องผ้ากับการปลอมตัว...
...เพื่อไปบำเรอกามนักโทษ...
ที่เรือนจำในเมืองไมอามี่ ประเทศสหรัฐฯ มีคดีที่นักโทษที่ได้รับการขนานนามว่าร่ำ
รวยในคุก ได้ว่าจ้างนักระบำเปลื้องผ้าหญิงมาบำเรอกามให้โดยบอกให้สาวนักเต้น
ปลอมตัวเป็นทนายเข้ามา แต่ทว่าการเป็นทนายได้ก็ต้องมีหลักฐานที่มีการระบุว่า
ประกอบอาชีพทนายอย่างชัดเจนเสียก่อน ซึ่งสาวนักเต้นคงจะลืมข้อสังเกตนี้ไป
เลยโดนเจ้าหน้าที่จับไต๋ได้ก่อนที่จะมีการสืบสวนเรื่องหาต้นตอการปลอมตัวครั้งนี้
ในเวลาต่อมา...
...ใช้นกพิราบเป็นตัวส่งยา...
นักโทษในโคลัมเบียหัวใสไม่เบา กับการพยายามที่จะลักลอบส่งยาเสพติดไปมาระ
หว่างโลกภายนอกกับเรือนจำ โดยนักโทษได้เลี้ยงและฝึกนกพิราบตัวหนึ่งให้ทำหน้า
ที่เป็นตัวส่งยา ซึ่งจะซ่อนยาไว้ด้วยการผูกไปกับขาของนก แรกๆก็ได้ผลอยู่หรอกแต่
ว่านานๆเข้านกตัวนี้เริ่มเป็นที่สังเกตว่าบินเข้า-ออกเรือนจำบ่อยเหลือเกินจนกระทั่งมี
การตามสืบได้ว่าเป็นนกที่นักโทษคนหนึ่งเลี้ยงไว้ สุดท้ายก็หนีความผิดนี้ไม่รอดไป
ตามคาด...
...นักโทษซ่อนยาผ่านสมุดระบายสี...
นี่ถือเป็นการกระทำที่อาจจะดูขำขันไปสักหน่อย สำหรับนักโทษจากคุกในรัฐนิวเจอร์
ซีย์ ประเทศสหรัฐฯ เพราะผู้คุมได้รับไปรษณีย์จ่าหน้าซองถึงนักโทษคนหนึ่งและตาม
กฏแล้วเจ้าหน้าที่ต้องแกะไปรษณีย์นั้นๆเพื่อเช็คดูว่ามีอะไรแอบซ่อนเข้ามาหรือไม่เมื่อ
แกะดูแล้วก็พบว่าสิ่งที่ส่งมาคือสมุดระบายสีสำหรับเด็กเล่มหนึ่ง สมุดระบายสีเล่มนี้มี
ความไม่ธรรมดาตรงที่ มีอยู่หน้ากระดาษหนึ่งที่มีข้อความเขียนว่า "ถึง ป๊ะป๋า" เจ้าหน้า
ที่ก็เปิดหน้านั้นดูก็พบว่า มีผงเฮโรอีนซ่อนอยู่ในหน้านั้น คราวนี้ป๊ะป๋าก็เลยมีคดีติดตัว
เพิ่มขึ้นอีก 1 กระทงไปโดยปริยาย...
...แก๊งนักโทษซ่อนมือถือไว้ที่ก้น...
ย้อนกลับไปที่เรือนจำในเม็กซิโกกันอีกรอบ เพราะว่าเคยมีแก๊งนักโทษอยู่หลายคนที
เดียวที่ซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือไม่ให้ผู้คุมรู้ก็เลยคิดหาวิธีการซ่อนที่ทรมานร่างกายอยู่
ไม่น้อยโดยพวกเขาตัดสินใจยัดมือถือซ่อนไว้ในก้นของพวกเขาซะดื้อๆจนกระทั่งเรื่อง
มาแดง ก็เพราะมีแม่ของนักโทษคนหนึ่งไปโวยวายกับเจ้าหน้าที่ว่า ลูกของตัวเองไม่
ได้รับการดูแลอย่างดีผ่านทางโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่าแล้วไปคุยโทรศัพท์กัน
ได้ยังไง ไปๆ มาๆเลยสืบค้นทั่วห้องขังก็ไม่เจอ เจ้าหน้าที่เลยจับเอ็กซเรย์ทุกคนที่น่า
สงสัยซะเลย จนมาเจอแก๊งนี้นี่ล่ะ ที่ภาพถ่ายเอ็กซเรย์ฟ้องชัดเจนว่ามีโทรศัพท์อยู่ใน
ร่างกายพวกเขา คราวนี้ก็เลยต้องทรมานเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโดนเพิ่มโทษกันไป
ตามระเบียบ...
...สาวตุ้ยนุ้ยซ่อนปืนไว้ใต้ชั้นไขมัน...
ไปกันที่คุก แฮร์ริสเคาน์ตี้ รัฐเท็กซัส เพราะที่นี่เคยมีนักโทษสาวที่ชื่อ จอร์จ เวร่า ซึ่ง
มีน้ำหนักตัวกว่า 225 กิโลกรัม ได้ทำเรื่องที่ไม่น่าเชื่อขึ้น โดยเธอได้ซุกซ่อนอาวุธปืน
สั้น 9 มม. ไว้ใต้ชั้นไขมันบริเวณพุงของเธอ ซึ่งตอนแรกเธอสามารถตบตาเจ้าหน้าที่
ผ่านเข้ามาได้สบายๆ แต่ทว่าเมื่อเธออาบน้ำนี่สิ ดันเผลอทำปืนตกซะงั้นคราวนี้เลยมี
หลักฐานมัดแน่นโดนตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายเพิ่มอีก 1 กระทง..
...ความพยายามของเมียนักโทษ...
...ด้วยการพาหนีทางกระเป๋าเดินทาง...
สงสัยจะดูหนังมากไปเลยคิดว่าน่าจะรอดเหมือนกัน แต่ไปๆ มาๆ ก็ไม่รอดอย่างที่คิด
สำหรับนางสาวมาเรีย เดลมาร์ อาโจน่า วัย 19 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นภรรยาของ นายฮวน
รามิเรซ นักโทษในเรือนจำเม็กซิโกที่เดินทางมาเยี่ยมนักโทษคนนี้พร้อมลากกระเป๋า
เดินทางใบใหญ่มาด้วย แต่ด้วยความที่ยังเด็กและมือใหม่หัดหนีเธอดันแสดงพิรุธให้
เห็นซะนี่เจ้าหน้าที่เลยอดสงสัยไม่ได้จึงขอตรวจค้นกระเป๋าใบนั้นก็พบนายรามิเรซ
นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋านั้นคราวนี้เลยไปไหนไม่รอด นายรามิเรซต้องอยู่ในคุกตามเดิม
ส่วนสาวน้อยมาเรีย ก็โดนดำเนินคดีไปด้วย ฐานพยายามช่วยนักโทษหลบหนีโดย ณ
ตอนนี้คดีอยู่ในระหว่างการรอลงอาญา...
...สิ่งของกว่า 30 อย่างที่ถูกยัดอยู่ในตัวนักโทษ...
ยาแก้ปวดกว่า 17 เม็ด ไม้ขีด 6 ก้าน หินแข็ง กระบอกฉีดยา บุหรี่ ลิปบาล์ม ใบสั่งยา
ถุงยางอนามัย และคูปอง อีกอย่างละ 1 ชิ้น คือสิ่งของทั้งหมดที่ถูกยัดอยู่ในตัวของ
นายนีล แลนซิ่ง นักโทษในเรือนจำฟลอลิด้าวัย 34 ปี ที่สงสัยคงจะทุกข์ทรมานน่าดู
กับสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่อยู่ในร่างกาย จนเจ้าหน้าที่เรือนจำต้องออกมาเช็คอาการ
ก่อนกว่าจะรู้ว่าที่ร้องครวญครางก็เพราะยัดของเหล่านี้ผ่านทางทวารหนักนั่นเอง..