แหล่งที่มา : kapook.com

แน่นอนว่านี่ต้องเป็นหนึ่งในรูปถ่ายตัวเองที่ดีที่สุดแน่ ๆ เพราะนอกจากเขาจะดูดีด้วยลุคแบบง่าย ๆ สบาย ๆ แล้ว ฉากหลังที่มองออกไปเห็น SpaceX Dragon แคปซูลอวกาศเคลื่อนที่เข้ามา ยิ่งทำให้รูปนี้ดูน่าสนใจขึ้นอีกในเวลาเดียวกัน ใช่ว่าคนเราจะมีโอกาสถ่ายรูปตัวเองนอกโลกกันบ่อย ๆ นี่นา.. จริงไหม

เรียกได้ว่าเป็นภาพที่มองแล้วมีเสน่ห์น่าค้นหา แต่ก็เร้นลับสยองขวัญด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะภูเขา Vesuvius ในประเทศอิตาลีนี้ รายล้อมไปด้วยตัวเมือง แถมบ้านเรือนหลายหลังยังอยู่ในพื้นที่เขตอันตรายของภูเขาไฟอีกต่างหาก โดยในอดีตภูเขาไฟแห่งนี้เคยคร่าชีวิตผู้คนมาแล้วกว่า 16,000 รายเลยทีเดียว

เราอาจเคยจินตนาการเห็นรูปก้อนเมฆเป็นสิ่งของหลายอย่างมากมาย ตามแต่จินตนาการของแต่ละคน โดยเฉพาะพวกของกิน แต่รับรองว่าภาพเมฆนี้ต่างออกไปจากที่คุณเคยเห็นอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นภาพก้อนเมฆที่คล้ายโครงกระดูกของปลาเฮอร์ริง ตอนที่เมฆเคลื่อนตัวผ่านเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของแอตแลนติก มันจึงดูเหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำพอดิบพอดี

สิ่งที่เด่นชัดที่สุดบนภาพนี้คือแม่น้ำ St. Lawrence อันกว้างใหญ่ของประเทศแคนาดา ที่พอถ่ายจากมุมภาพรวมซึ่งเห็นกระทั่งเส้นขอบโลกแบบนี้แล้ว ยิ่งดูสวยขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ หากสังเกตดี ๆ ที่ด้านขวา จะเห็น Manicouagan crater ร่องรอยอุกกาบาตขนาดใหญ่เมื่อราว 200 ล้านปีก่อนอีกด้วย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่า เมื่อน้ำ แผ่นดิน และอากาศมารวมกันแล้ว มันจะออกมาเป็นทิวทัศน์ที่งดงามขนาดนี้ ซึ่งความสวยตระการตาแบบที่เราเห็นอยู่ เกิดขึ้นเมื่อสายลมพัดพาเกาะ Isla Soccoro ให้ไกลห่างจากชายฝั่งแปซิฟิกบริเวณประเทศเม็กซิโกออกไปอีก

จากมุมมองผ่านสถานีอวกาศนั้น แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บนโลกก็กลายมาเป็นจุดเด่นที่สวยงามได้ คุณพอเดาออกรึเปล่าล่ะว่าลำแสงสีขาวที่เราเห็นอยู่นี้คืออะไร ไม่ต้องคิดไปไกลให้ยุ่งยาก เพราะมันไม่ใช่ยานอวกาศที่ไหนหรอกนะ คำตอบก็คือมันเป็นเครื่องบินที่ตรงดิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นเส้นยาวเหยียดให้ตื่นเต้นเล่น ๆ เท่านั้นแหละ

เรามักคุ้นเคยกันดีกับภาพตอนที่ภูเขาหิมาลัยถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จึงทำให้ภาพนี้ออกจะดูแปลกตาอยู่สักหน่อย ซึ่งภาพที่สวยงามน่าทึ่งนี้ เกิดขึ้นเมื่อน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ภูเขาหิมาลัย ละลายและไหลลงสู่หุบเขา ในขณะที่แสงจากดวงอาทิตย์ส่องให้เราได้มองเห็นภูมิประเทศอันชัดเจนพอดิบพอดี

ภาพนี้เป็นภาพของภูเขาไฟ Okmok บนหมู่เกาะอะลูเชียน อลาสก้า ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ในขณะที่ถูกบดบังด้วยหมู่เมฆอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันภูเขานี้มีอายุเก่าแก่ถึง 12,000 ปีแล้ว ในขณะที่ยังคงปะทุอยู่ทุก ๆ 2 ศตวรรษ

ภาพที่ดูเหมือนกับหลุดออกมาจากนิยายแฟนตาซีสักเรื่องนี้ เกิดขึ้นที่ทางตอนเหนือของชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น เมื่อความหนาวเย็นทำให้น้ำแข็งเกิดเป็นเกลียวหมุนวนล่องลอยเป็นลวดลายที่สวยงามจับตาอยู่บนมหาสมุทร คล้ายเครื่องลายครามทางฝั่งตะวันออก

แม้แต่เจ้าของภาพเองก็บรรยายภาพนี้ไว้ว่า เหมือนกับซิปเก่า ๆ บนเสื้อโค้ทเสียจริง ๆ ซึ่งจากลายที่ยึกยักขดงอในรูป เราก็คงต้องเห็นด้วยแบบนั้นเหมือนกัน และสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นรูปนี้ได้ ก็เกิดจากการที่แสงจากดวงอาทิตย์ที่โคจรไปทางด้านขวากระทบกับแม่น้ำในประเทศโบลิเวีย จนปรากฏเป็นภาพแปลกตาอย่างที่เห็นนั่นเอง